วัชระ พรรณเชษฐ์
"วัชระ พรรณเชษฐ์" แจงมารดาทำบุญร่วมกับ "ป๋าเปรม" ประจำส่วนที่สั่งจ่ายในนามป๋า แทนที่จะจ่ายให้วัดโดยตรง เพราะป๋าเป็นผู้ใหญ่จะได้ตรวจสอบ ย้ำความสัมพันธ์ไม่เปลี่ยนแปลง ท้าตรวจสอบเส้นทางเงิน..
เมื่อวันที่ 15 ก.พ. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวัชระ พรรณเชษฐ์ ผู้แทนการค้าไทย แถลงถึงกรณีนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงกล่าวหานางกัลยาณี พรรณเชษฐ์ ประธานเอ็มเอ็มซี สิทธิผล ผู้เป็นมารดา ว่าเป็น 1 ในกลุ่ม “คณะ11” ซึ่งเป็นกลุ่มทุนของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ว่า ได้สอบถามจากมารดา ทราบว่าเป็นการทำบุญร่วมกัน กรณีนี้ถือว่าเป็นปกติเพราะมารดาทำบุญอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว โดยได้ทำบุญเข้าวัดสวนแก้วของพระพยอม กัลยาโณ ในช่วงปี 2546-2547 ซึ่งเป็นการก่อสร้างอาคารบ้านทักษะชีวิต
ผู้สื่อข่าวถามว่าเหตุใดไม่ทำบุญที่วัดแต่กลับไปจ่ายเช็คให้ พล.อ.เปรม นายวัชระ กล่าวว่า เวลาทำบุญร่วมกันก็จะรวบรวมกัน ซึ่ง พล.อ.เปรม เป็นผู้ใหญ่ก็จะได้ตรวจสอบเป็นระยะๆ เพื่อความรวดเร็ว เช็คสั่งจ่ายชื่อ พล.อ.เปรม ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการตรวจสอบเช็คหรือไม่ว่า พล.อ.เปรม ได้จ่ายไปครบหรือไม่ นายวัชระ ตอบว่าครบ เพราะมีใบอนุโมทนาบัตรตรงตามจำนวนเงินผู้บริจาคต่อข้อถามว่ามีการโอน 2 ครั้งๆ ละ 1.8 ล้านบาทใช่หรือไม่ นายวัชระ ตอบว่า เป็นการชำระเงินเป็นงวดๆ และมีใบอนุโมทนาบัตรเรียบร้อยจากวัดและเช็คที่รับเงินต่อ ก็เป็นผู้ทำการก่อสร้างอาคาร อย่างไรก็ตาม การบริจาคในการสร้างอาคารนี้มีมากกว่านั้นประมาณ 6 ล้านบาท จ่ายเป็นเช็คประมาณ 5 ใบ
ผู้สื่อข่าวถามว่า แกนนำคนเสื้อแดงระบุว่าที่ไม่จ่ายเช็คเงินสด 2 ล้านบาท เพราะเกรงว่าจะต้องแจ้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) นายวัชระ ตอบว่า ความจริงแล้วโครงการนี้ก็ไม่มาก เราไม่ได้ทำบุญทั้งก้อนและเงินที่บริจาค ทางวัดก็ดูแลอยู่ ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมทำบุญร่วมกันแต่ พล.อ.เปรมไม่จ่ายแม้แต่บาทเดียว นายวัชระ กล่าวว่า พล.อ.เปรม ก็ทำบุญอย่างอื่นด้วย แต่นี่คือส่วนของเรา
"ใบอนุโมทนาบัตรออกมาในชื่อของคุณแม่ และคุณแม่ก็ทำบุญตลอดเวลา ซึ่งการทำบุญไม่ใช่ครั้งนี้ครั้งเดียว ในส่วนที่ท่านเป็นกรรมการมูลนิธิรัฐบุรุษก็มีการทำกิจกรรมตลอดอยู่แล้ว และ ประธานองคมนตรีก็ไม่ได้เป็นที่ปรึกษาบริษัทของเรา แต่มีความเคารพนับถือกันมานานแล้ว กลุ่มคณะ 11 เป็นกลุ่มเพื่อนกันมากกว่า ไม่ใช่ตั้งขึ้นมาเพื่อทำธุรกิจหรือมีจุดประสงค์อื่นใดพิเศษ อายุก็ใกล้เคียงกัน แต่ละคนก็ใจบุญกันอยู่แล้ว ถ้าจะมีการตรวจสอบเส้นทางทางการเงินเราก็มีหลักฐานพร้อมมูลอยู่แล้ว" นาย วัชระ กล่าว
ต่อข้อถามว่า คิดว่าบริษัทเอ็มเอ็มซีจะได้รับผลกระทบเหมือนกับธนาคารกรุงเทพฯหรือไม่ นายวัชระ กล่าวว่า คงไม่เพราะงานนี้เป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เป็นเรื่องของการทำบุญเท่านั้น บริษัทได้ร่วมทุนกับประเทศญี่ปุ่น ซึ่งทางญี่ปุ่นก็มีการตรวจสอบบัญชีเป็นระบบอยู่แล้ว มารดาของตนก็ไม่ได้ออกงานสังคมไม่ได้มีบทบาทอะไรทั้งสิ้น จึงไม่มีแรงจูงใจอย่างอื่นนอกจากการทำบุญ ความสัมพันธ์ระหว่างมารดากับ พล.อ.เปรม ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวัชระ ได้นำรูปถ่ายอาคารบ้านทักษะชีวิตมาโชว์ให้สื่อมวลชนได้ดู รวมทั้งเช็คเงินสดออกในนาม บ.เอ็ม.เอ็น.เอ็ช โฮลดิ้งจำกัด ของธนาคารกรุงเทพฯ สาขาหัวหมาก หมายเลข 3748879 สั่งจ่ายให้กับ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ลงวันที่ 5 มีนาคม 2547 รวมทั้งนำใบอนุโมทนาบัตร ที่ออกโดยวัดสวนแก้ว ให้กับ บ.เอ็ม เอ็น เอ็ช โฮลดิ้ง จำกัด ลงนามโดยพระพิศาลธรรมพาที เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ออกวันที่ 20 ส.ค.2547 ยอดเงิน 1.8 ล้านบาท จำนวน 1 ใบมาแสดงให้สื่อมวลชนดูด้วย.
...