ข้าราชการเฮ รัฐบาลใจดีมีมติเพิ่มวันหยุดสงกรานต์ปี 53 ยาว 6 วันรวด ตั้งแต่ 13-18 เม.ย. และหยุดยาว 4 วัน ช่วงวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12-15 ส.ค. สำหรับรัฐวิสาหกิจ สถาบันการเงิน และภาคเอกชน ให้พิจารณาตามความเหมาะสม ...
ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ภูมินทร์ ลีธีระประเสริฐ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมครม.ให้ความเห็นชอบการสลับหรือเลื่อนวันหยุดราชการประจำปี พ.ศ. 2553 ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอมา โดยจากการตรวจสอบพบว่า มีวันหยุดราชการประจำปี จำนวน 16 วัน ซึ่งมีอยู่ 3 วันที่ตรงกับวันหยุดราชการประจำสัปดาห์ จึงมีการกำหนดวันหยุดชดเชยคือ วันหยุดชดเชยวันมาฆบูชา (วันจันทร์ที่ 1 มี.ค.) วันหยุดชดเชยวันปิยมหาราช (วันจันทร์ที่ 25 ต.ค.) และ วันหยุดชดเชยวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (วันจันทร์ที่ 6 ธ.ค.)
นพ.ภูมินทร์กล่าวว่า นอกจากนี้ที่ประชุมครม.ยังมีมติเพิ่มวันหยุดอีก 2 วัน คือวันศุกร์ที่ 16 เม.ย.2553 และวันศุกร์ที่ 13 ส.ค.2553 เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนได้ร่วมเฉลิมฉลองวันอันเป็นมงคล ส่งเสริมวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของไทย รวมทั้งเป็นอำนวยความสะดวกในการเดินทาง ทำให้ปี 2553 มีวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ 6 วันตั้งแต่วันที่ 13-18 เม.ย. และมีวันหยุดเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระบรมราชินีนาถ 4วัน ตั้งแต่ 12-15 ส.ค. รวมแล้วทำให้ปี 2553 จะมีวันหยุดราชการประจำปี วันหยุดราชการประจำสัปดาห์ วันหยุดชดเชยเพิ่มขึ้นเป็น 122 วัน สำหรับรัฐวิสาหกิจ สถาบันการเงิน ภาคเอกชนให้พิจารณาตามความเหมาะสมให้สอดคล้องกับข้อกฎหมายต่อไป
ส่วนกรณีที่หน่วยงานใด เช่น โรงพยาบาล ศาล ที่มีความจำเป็นเร่งด่วนหรือมีราชการสำคัญในวันดังกล่าว โดยกำหนดหรือนัดหมายไว้ก่อนแล้ว หากยกเลิกหรือเลื่อนไป จะเกิดความเสียหาย หรือกระทบต่อการให้บริการประชาชน ขอให้หัวหน้าหน่วยงานนั้น พิจารณาดำเนินการตามที่เห็นสมควร โดยมิให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการและประชาชนต่อวันหยุด
...