ศิวรักษ์ ชุติพงษ์ เผย ถูกกัมพูชา บันทึกการสนทนาและรายละเอียดการโทรศัพท์ ช่วงพูดคุยกับ คำรบ ปาลวัฒน์วิไชย จี้ เลขานุการฑูตเอก ช่วยครอบครัวแก้ข้อกล่าวหามีการจัดฉาก  รับ เหตุขอพระราชทานอภัยโทษเพราะไม่อยากติดอยู่เขมรนาน ...


นายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ ให้สัมภาษณ์ ไทยรัฐออนไลน์ ยอมรับว่า ทราบว่าถูกฝ่ายกัมพูชาบันทึกการสนทนาในช่วงที่มีการโทรศัพท์พูดคุยกับนายคำรบ ปาลวัฒน์วิไชย เลขานุการเอกสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ เพราะทางฝ่ายกัมพูชา มีการบันทึกการสนทนา และรายละเอียดการโทรศัพท์เอาไว้ ส่วนข้อมูลเส้นทางการบินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร  อดีตนายกรัฐมนตรีเป็นข้อมูลที่เป็นความลับหรือไม่นั้น  ไม่ขอแสดงความเห็นเพราะในเมื่อกฎหมายของกัมพูชา ระบุว่ามีความผิดก็ต้องเป็นไปตามนั้น

ส่วน นายคำรบ มีการติดต่อมาแล้วหรือไม่ นายศิวรักษ์ กล่าวว่า ตั้งแต่เดินทางกลับมาประเทศไทยจนถึงขณะนี้ นายคำรบ ก็ยังไม่ได้ติดต่อมาแต่อย่างใด  ทั้งที่โดยส่วนตัวไม่ได้ติดใจหรือคิดที่จะเอาความอะไรกับนายคำรบ เพียงแต่อยากให้ นายคำรบ แสดงความห่วงใย โดยเฉพาะติดต่อสอบถามเรื่องสารทุกข์สุขดิบผ่านมาทาง นางสิมารักษ์​ ณ นครพนม มารดาบ้าง รวมถึงออกมาชี้แจงข้อเท็จจริง และแก้ข้อเรื่องข้อกล่าวหาที่ว่ามีการจัดฉากเรื่องการจับกุมตัว จนนำไปสู่การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยื่นมือเข้ามาให้ความช่วยเหลือจนได้รับอิสระภาพ เพราะในประเด็นนี้ฝ่ายครอบครัวของตนได้รับผลกระทบอย่างมาก

ส่วนเหตุผลที่เลือกขอพระราชทานอภัยโทษแทน นายศิวรักษ์ กล่าวว่า เพราะทางการกัมพูชาตัดสินแล้วว่ามีความผิด อีกทั้งตามกระบวนการของกัมพูชานั้น ตนได้ทราบจากทนายประจำตัวว่า หากจะมีการยื่นขออุทธรณ์​ ก็อาจจะต้องติดอยู่ในกัมพูชาอีกอย่างน้อยเป็นปีๆ  ซึ่งคงจะเป็นเรื่องที่ไม่ดีแน่ หากจะต้องติดคุกอยู่ในต่างประเทศเป็นเวลานาน ซึ่งจากเหตุผลนี้ตนจึงตัดสินใจที่จะยื่นขอพระราชทานอภัยโทษ ​มากกว่าที่จะมองไปในประเด็นเรื่องที่อาจจะมีการเชื่อมโยงไปถึงปัญหาทางการเมือง

นายศิวรักษ์ กล่าวด้วยว่า ในเมื่อกฎหมายของกัมพูชา ตัดสินว่าตนกระทำความผิดก็ไม่ขอไปวิพากษ์วิจารณ์อะไร อีกทั้งตนได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดม สีหมุนี  ในเรื่องการขอพระราชทานอภัยโทษ รวมทั้งนายกรัฐมนตรีสมเด็จฮุน เซน ได้ให้ความเมตตา ตนและครอบครัวเป็นอย่างมาก ก็ถือว่าได้รับความเป็นธรรมแล้วส่วนหนึ่ง.

...