นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต
อุปทูตไทยได้พบวิศวกรไทยในเรือนจำแล้ว เผยได้รับการดูแลอย่างดี ไม่มีการทรมานร่างกาย ชี้เริ่มมีความหวังไทย-กัมพูชาจูบปากคืนดี ขณะที่ ปลัดกลาโหมยอมรับเล่นงาน"เสธ.แดง"ลำบาก เผยช่องโหว่กฎหมาย ทำได้แค่ตักเตือน....
วันนี้(17 พ.ย.)นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการ รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงความคืบหน้าในการให้ความช่วยเหลือ นายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรชาวไทยที่ถูกจับกุมในกัมพูชาในข้อหาจารชนว่า ขณะนี้อุปทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ ได้เข้าไปพบนายศิวรักษ์ ที่ถูกจับกุมในเรือนจำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยได้รายงานให้ทราบว่า เจ้าหน้าที่เรือนจำได้ดูแลนายศิวรักษ์ เป็นอย่างดี มีอาหารและยาพร้อม ไม่มีการซ้อมหรือทรมานแต่อย่างใด ซึ่งมารดาของนายศิวรักษ์ ก็ได้โทรศัทพ์ไปพูดคุยกับบุตรชายแล้วเช่นกัน
ส่วนข้อหาที่กัมพูชากล่าวหานายศิวรักษ์นั้น เลขานุการ รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดชัดเจน เพราะอยู่ระหว่างการพูดคุยของอุปทูตไทย ประจำกรุงพนมเปญ กับเจ้าหน้าที่กัมพูชา อย่างไรก็ตามสถานการณ์ขณะนี้ถือว่า มีแนวโน้มดีขึ้น ในการที่จะฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชา คิดว่าน่าจะเริ่มต้นเจรจากันได้ เนื่องจากกัมพูชามีท่าทีผ่อนปรนมากขึ้น
ทางด้าน พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณี พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ลักลอบเข้าประเทศกัมพูชาโดยไม่ได้ขออนุญาตผู้บังคับบัญชาในการเดินทางออกนอกประเทศว่า เรื่องนี้เป็นจุดอ่อนของกระทรวงกลาโหม ต้องดูแลว่า การที่เป็นนายทหารชั้นนายพลถ้าทำความผิดด้านวินัย เราไม่สามารถลงทัณฑ์ทางวินัยได้ แต่สิ่งที่ทำคือสอบสวน หาข้อเท็จจริง และก็ดำเนินการตามขั้นตอนตามที่สามารถดำเนินการได้ สำหรับโทษสูงสุดนั้น ก็อยู่ที่ขั้นในการดำเนินการ และชั้นความผิด ถ้าเป็นความผิดอาญาก็มีการดำเนินการในการ ปลด ถอดยศ ขณะนี้เรากำลังพิจารณาดูว่าเราจะแก้ไขระเบียบที่เป็นอยู่อย่างไร ระเบียบที่เป็นอยู่ขณะนี้อาจเป็นจุดอ่อนที่บางคนได้ใจว่าไม่สามารถลงโทษ ลงทัณฑ์อะไรได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีของ เสธ.แดง จะเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดูหรือไม่ ปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า คงยัง ขณะนี้กำลังดูว่าจะแก้ไขระเบียบข้อบังคับอย่างไร ที่จะให้ดูแลกำลังพลทั้งหมดได้อย่างเท่าเทียมกัน ส่วนกรณีนี้ยังไม่ทราบรายละเอียดเป็นอย่างไร กองทัพบกในฐานะหน่วยงานต้นสังกัดต้องดูแลว่า การดำเนินการได้ทำอย่าง ถูกต้อง มีความผิดที่ต้องลงโทษทันต์หรือไม่ จากเดิมในระดับชั้นนายพลก็ทำได้แค่ตักเตือน แต่หากเป็นคดีอาญา ก็สามารถปลด ถอดยศ ยึดเครื่องราชย์ ก็เคยทำอยู่ แต่ไม่เป็นข่าว.
...