อดีต รมว.ต่างประเทศเรียกร้องรัฐบาล ชี้แจงความจริง ประเด็นคนไทยถูกจับกุมที่กัมพูชา เย้ยรบ.ประสบความสำเร็จสร้างปัญหาซัด "เอเชียไทม์" กุข่าว "ทักษิณ" อยู่เขมรช่วงสงกรานต์
เมื่อวันที่ 13 พ.ย. นายนพดล ปัทมะ อดีต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีที่ทางการกัมพูชาจับกุมตัวพนักงานชายบริษัท CATS ว่า ยังไม่ทราบข้อเท็จจริงที่แน่นอน แต่เมื่อเรื่องนี้เกิดขึ้นมามันก็น่าคิด คนๆนั้นก็เป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจมีความเชื่อมโยงกับรัฐบาล จึงมีความเคลือบแคลงกับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะจะนำข้อมูลการบินที่ไม่เกี่ยวข้องกับงานที่ตัวเองไปทำอะไร มีวัตถุประสงค์อะไร มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มเสื้อเหลืองหรือไม่ รัฐบาลต้องตรวจสอบเรื่องนี้และตอบข้อสงสัยให้ได้ เรื่องการจับกุมเป็นหน้าที่ของทางกระทรวงการต่างประเทศที่จะต้องให้ความช่วยเหลือ ไม่ว่าคนไทยคนนั้นจะเป็นเสื้อสีใดก็ตาม
อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวกรณี สำนักข่าวเอเชีย ไทม์ ระบุว่าพ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ที่ประเทศกัมพูชา ช่วงเดือนเม.ย.ช่วงที่มีการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ว่า บอกได้เลยว่าเรื่องนี้เป็นเท็จ เอเชีย ไทม์ เชื่อถือไม่ได้ ไม่มีคุณภาพความน่าเชื่อถือ ตนยืนยันว่าช่วงเวลาดังกล่าวพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้อยู่ที่ประเทศกัมพูชา หากไปจริงก็ไม่มีเหตุผลที่จะปกปิด และสื่อของกัมพูชาก็ต้องมีการเสนอข่าวออกมาเผยแพร่ แต่ก็ไม่มีข่าวออกมา ตนคิดว่าการที่มีข่าวออกมาจากเอเชียไทม์ เหมือนเป็นการติดโรคจากเอเอสทีวี หรือทั้งสองร่วมมือกัน
ที่ปรึกษากฎหมาย อดีตนายกรัฐมนตรีกล่าวต่อภารกิจในการเดินทางมาประเทศกัมพูชาของพ.ต.ท.ทักษิณเมื่อวันที่ 12 พ.ย. ว่า ทุกคนเห็นชัดเจนว่าพ.ต.ท.ทักษิณมาบรรยายพิเศษด้านการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจแก่ นักธุรกิจ แก้ปัญหายากจนให้ 4 ประเทศ ประกอบด้วย ไทย กัมพูชา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สหภาพพม่า และเป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจให้รัฐบาลกัมพูชา ผลที่ออกมามีแต่ได้กับได้ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้เอาความลับของชาติไทยไปขายตามที่ถูกวิจารณ์ รัฐบาลตื่นตระหนกจนเกินเหตุ พยายามนำประเด็นของพ.ต.ท.ทักษิณไปปลุกกระแสชาตินิยม เพื่อหาคะแนนเสียง ทั้งๆที่ประชาชนส่วนใหญ่คาดหวังให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาการทุจริต ตลอดระยะเวลา 10 เดือนที่บริหารประเทศ พบว่ารัฐบาลล้มเหลวในแก้ไขปัญหาภายในประเทศ แต่ประสบความสำเร็จในการสร้างปัญหาระหว่างประเทศ ขณะนี้แม้สหภาพพม่าความสัมพันธ์กับไทยก็เสื่อมทรามลง ล่าสุดสปป.ลาวปฏิเสธความช่วยเหลือจากรัฐบาลไทยในการจัดแข่งขันกีฬาซีเกมส์ อีกทั้งรัฐบาลชุดนี้อยู่ภายใต้การครอบงำ มีนโยบานชวนทะเลาะเพื่อนบ้านไปทั่ว แตกต่างจากรัฐบาลประชาธิปไตยที่พยายามหามิตรตลอดเวลา
นายนพดล กล่าวด้วยว่า วันนี้ทหาร ข้าราชการในกระทรวงการต่างประเทศ บ่นกันมากว่ารัฐบาลถนัดกู้เงิน สร้างศัตรู ไม่ทราบเป็นนโยบายต่างประเทศยุคใหม่หรือไม่ พยายามสร้างปัญหากับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อกลบเกลื่อนปัญหาภายในประเทศ ผลงานรัฐบาลที่กล่าวถึงได้หากพ้นตำแหน่งไป คือ การสร้างรอยร้าวระหว่างประเทศ สำหรับเอ็มโอยูพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลที่มีมติครม.ให้ยกเลิกนั้น ความจริงพรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายเจรจา รู้รายละเอียดทั้งหมด พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้เกี่ยวข้อง แต่กลับถูกนำมาโจมตีเป็นประเด็นการเมือง ถูกใส่ร้ายว่าจะไปขายความลับ เมื่อมีการเปิดเผยหลักฐานข้อเท็จจริงออกมา รวมทั้งนายสุรเกียรติ เสถียรไทย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ออกมาบอกข้อเสียหากยกเลิกเอ็มโอยูดังกล่าว ทำให้พรรคประชาธิปัตย์เริ่มลังเล เพราะหากตัดสินใจผิดพลาดจะต้องรับผิดชอบไปเต็มๆ
...