เกมแห่งอำนาจ ทำเพื่อนรักต้องบาดหมาง เปิดศึกกันเอง โดยอีกฝ่ายถูกตั้งคำถามว่าทำไปโดยมีจุดประสงค์เพื่อผลประโยชน์ของคนไกล หรือไม่ ....

"ผมขอจะเรียนความจริงให้ทราบว่าเรื่องมันเป็นแบบนี้  ส่วนเรื่องที่มีคนไปเขียนลงในหนังสือพิมพ์ในทำนองว่า ผมไปว่าเขาเป็นคนทรยศต่อชาติซึ่งอันนี้มันก็ไม่ถูกต้อง แต่สิ่งที่ถูกต้องคือ วันนั้นก่อนที่จิ๋วจะไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย    ผมก็ให้คนไปบอกเขาว่า  จะทำอะไรก็ขอให้คิดให้รอบคอบ  ไตร่ตรองให้รอบคอบ  โดยผมใช้คำว่า “ไตร่ตรองให้รอบคอบ”  ไม่อย่างนั้นมันจะกลายเป็นการกระทำที่เป็นการทรยศต่อชาติ  นี่เป็นข้อความที่ผมสื่อไปถึงจิ๋วในตอนเช้าวันนั้น และผู้สื่อข่าวนี้ เขาก็มายืนยันว่า เขาสื่ออย่างที่ผมพูด เพราะว่าเขาจดที่ผมขอให้เขาสื่อ เพราะฉะนั้นผมไม่ได้กล่าวหาว่า เขาเป็นคนไม่ดีทรยศต่อชาติบ้านเมืองมันไม่ใช่" 

คำพูดเปิดใจของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ที่มีต่อ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ หลังตัดสินใจย้ายไปสวมเสื้อเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นของแสลงสำหรับคนบ้านสี่เสาเทเวศร์   ดูเหมือนจะไม่ใช่เพียงเรื่องธรรมดา ๆ ซะแล้ว เพราะคนอย่าง  พล.อ.เปรม นั้น ได้ชื่อว่าเป็นคนที่ให้สัมภาษณ์สื่อยากและโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นประเด็นการเมืองแล้ว  คนอย่าง พล.อ.เปรม จะยิ่งแทบไม่เคยพูดถึงเลย เพราะฉะนั้นการส่งสัญญาณแรงชัดที่ตรงไปถึง อดีตคนใกล้ชิดที่ได้ชื่อว่า " นายทหารลูกป๋า " อย่าง พล.อ.ชวลิต ในครั้งนี้  ย่อมมีนัยยะสำคัญยิ่งทางการเมือง แน่นอน 

เพราะนั่นอาจหมายถึงการส่งสัญญาณเตือนกลาย ๆ ไปยังบิ๊กสีเขียวอีกหลายคนที่เริ่มหันรีหันขวางกับปรากฎการณ์ พลังดูดจากจอมคอนเนคชั่นอย่างบิ๊กจิ๋ว ซึ่งมีพี่น้องในกองทัพอยู่เป็นจำนวนมาก  โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเตรียมทหารรุ่น 6 ที่มีบิ๊กคนโตในรัฐบาลคุมอำนาจกำลังพลหลักในกองทัพอยู่เวลานี้และมีสายสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับบิ๊กจิ๋วมาอย่างยาวนานจนมีข่าวถึงกับว่า คนใกล้ชิดอาจกระโดดไปเข้าร่วมกับพรรคเพื่อไทย และ  พล.อ.อ.สุเมธ โพธิ์มณี เพื่อนสนิทซี้ย่ำปิ๊กนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 10 ของ พ.ต.ท.ทักษิณ  ชินวัตร  ซึ่งประกาศเอาไว้ชัดเจนแล้วว่าจะรวบรวมเตรียมทหารรุ่น10รวม  49 คน เข้าสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยในวันที่ 20 ต.ค. ควรจะต้องไตร่ตรองให้รอบคอบว่า จะยืนอยู่ข้างฝ่ายใด ระหว่างบ้านสี่เสาเทเวศร์ และบ้านจันทร์ส่องหล้า  

ที่ต้องจับตา เพียงคล้อยหลังที่ บิ๊กจิ๋วเข้าสวมเสื้อพรรคเพื่อไทย  พล.อ.จิรเดช  คชรัตน์ อดีตคน  คมช. เตรียมทหารรุ่น 9 " น้องเลิฟ บิ๊กบัง " ซึ่งได้รับการผลักดันจากทั้ง พล.อ.สนธิ  บุญรัตนกลิน อดีตประธาน คมช.  จนได้เข้าสู่ไลน์ 5 เสือ ทบ. ในตำแหน่ง รองผู้บัญชาการทหารบก  ก็พลิกขั่วสละเสื้อสีเขียวเบนเข็มเข้าร่วมกับพรรคเพื่อไทยไปอีกคนทันที ขณะเดียวกันมีกระแสข่าวว่า เตรียมทหารรุ่น 9 อีกจำนวนหนึ่งกำลังจะตบเท้ามาร่วมกับพรรคเพื่อไทยด้วยเพราะฉะนั้นจึงไม่น่าแปลกใจถึงสัญญาณแรงชัดของป๋าเปรมที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ 

ส่วนที่ไปที่มาที่ ทำให้ "บิ๊กจิ๋ว" บาดหมางกับ  พล.อ.เปรม นั้น  กระแสข่าวส่วนใหญ่เจาะจงไปที่ท่าทีของ พล.อ.ชวลิต  ที่ฝักใฝ่จะกลับเข้าสู่ถนนการเมืองหลังประกาศล้างมือในอ่างทองคำมาเป็นเวลานาน   โดยหวังอิงแอบพลังของคนแถวจรัลสนิทวงศ์   ทั้งเรื่องจะไปรับหน้าที่หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ภายหลังถูกนายใหญ่ติดต่อทาบมา จนเป็นที่มาของวลี  " โซ่ข้อกลาง " แต่ต่อมาภายหลังเกิดไม่เข้าใจกันเรื่องปัจจัยมหาศาล จนนายใหญ่เปลี่ยนใจไปเลือกนายสมัคร  สุนทรเวชมาเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชาชนคนใหม่    

รวมทั้งเรื่องไปรับตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ในสมัย รัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์ จนถูกขึ้นใบแดงห้ามเข้าบ้านสี่เสาเทเวศน์    ไม่เว้นแม้แต่จะไปขอลาบวช ก็ไม่ได้เข้าพบ  จนกระทั่งเจ้าตัวถึงกับออกปากเปิดใจหลังถูก พล.อ.เปรม พาดพิงว่า  ไม่ได้สัมพันธ์กับ พล.อ.เปรมนานแล้ว  รวมทั้งยังได้ตอบโต้กลับแบบเจ็บ ๆ คัน ว่า " ขนาด พล.อ.เปรม จนถึงวันนี้อายุจนจะ 90 ปีแล้ว ยังไม่ทิ้งงานเพื่อบ้านเมือง แล้วผมอายุยังไม่ถึง 80 ปี จะทิ้งไปได้อย่างไร " 

แถมยังกรีดซ้ำด้วยประโยคที่ว่า "การตัดสินใจมาอยู่พรรคเพื่อไทย เพราะเป็นความต้องการของประชาชนทั้งแผ่นดิน ที่ชี้ให้เข้ามาอยู่ที่นี่   ต้องฟังเสียงประชาชน  พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคที่ทำมาเพื่อประชาชนรากหญ้าและคนจนอย่างแท้จริง ไม่เช่นนั้นจะไปอยู่ในใจของประชาชนได้อย่างไร นี่คือสิ่งที่ใครปฏิเสธไม่ได้ " 

สำทับด้วย พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีตลูกรักป๋าอีกคน ที่ปัจจุบันหักกับ  พล.ต.จำลอง ศรีเมือง เพื่อนตาย จปร.7 ไปเข้ากับพรรคเพื่อไทย ที่ยิงหมัดฮุกตรงแรง ๆ ใส่ว่า  "อยากฝาก ถึง พล.อ.เปรม ในฐานะนักเรียนนายร้อยรุ่นพี่และอดีตผู้บังคับบัญชาว่าการผูกขาดความรักชาติ  อย่าผูกขาดไว้แต่ผู้เดียว  อย่ามองว่าใครมีความคิดไม่ตรงกับท่าน   จะเป็นผู้ทรยศต่อชาติ   เพราะมันไม่ใช่ "   

พล.อ.พัลลภยังกระแทกใส่อีกว่า ช่วงรับราชการตนเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา พล.อ.เปรมซึ่งเป็นฝ่ายยุทธการนั่งอยู่ในห้องแอร์   ตนถือปืนอยู่ในป่าบนภูเขา    แต่เรามีความคิดตรงกันเพื่อจะรักษาความสงบสุขของประชาชน  พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคที่หวังของประชาชน    ไม่อย่างนั้นน้องๆ เตรียมทหารรุ่น 10 คงไม่มาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย    เพราะแต่ละคนที่มาก็มีประสบการณ์เคยเป็นผู้บัญชาการหน่วยทั้งสิ้น"

พร้อมกันนั้นคนใกล้ชิดบิ๊กจิ๋วที่เจ็บร้อนแทน ถึงขั้นออกมาประกาศว่าแท้ที่จริงแล้วบิ๊กจิ๋ว ไม่ได้อยู่ได้เพราะมีคนบ้านสี่เสาคอยเป็นแบ็กอัพให้ แต่เป็น คนบ้านสี่เสาต่างหาก ที่ได้ บิ๊กจิ๋ว ช่วยค้ำยันให้ไม่ว่าจะเป็นสมัยกบฎยังเติร์กหรืออีกหลายครั้ง 

เรื่องราวกำลังเข้มข้นคงต้องต่อพรุ่งนี้อีกวัน   .......

...