ประธานสหภาพฯ รถไฟ บุกเข้าแจ้งความ กองปราบฯ เอาผิด ผู้ว่าฯ รฟท. ไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง เรื่องการซ่อมอุปกรณ์ ปล่อยให้รถไฟตกราง คนตาย 7 ศพ ...
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (22 ต.ค.) ที่ บก.ป. นายสาวิทย์ แก้วหวาน ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ประภาส อ่องมะลิ พนักงานสอบสวน บก.ป. เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษ นายยุทธนา ทัพเจิรญ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ฐานทำให้เกิดความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สิน ตลอดจนพนักงาน ซึ่งเป็นสมาชิกของสหภาพการรถไฟ โดยนำบันทึกข้อตกลงสภาพการจ้างระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย กับสหภาพแรงานรัฐวิสาหกิจรถไฟฯ ปี 2544,2545,2552 และ พ.ร.บ.แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ 2543 มาประกอบการร้องทุกข์
นายสาวิทย์ กล่าวว่า สาเหตุที่เข้าแจ้งความเนื่องจากผู้ว่า รฟท. ไม่ทำตามข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง และเป็นเหตุให้การให้บริการประชาชนไม่ปลอดภัย จึงมีความจำเป็นต้องทำการซ่อมแซมอุปกรณ์รถจักรดีเซลที่มีกว่า 12 รายการให้เสร็จสิ้นก่อน ไม่เช่นนั้นอาจเกิดกรณีเช่นที่สถานีเขาเต่า อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่มีผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิต ซึ่งในจำนวนนี้มีสมาชิกสหภาพฯด้วย
“การปล่อยปละละเลยเช่นนี้จะทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นตามมาอีกอย่างแน่นอน ถ้าหากยังไม่มีการซ่อมแซมแก้ไขให้ถูกต้อง” นายสาวิทย์ ระบุ
เมื่อถามว่าการนัดหยุดงานนั้นทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก นายสาวิทย์ ชี้แจงว่า ต้องเลือกเอาว่าระหว่างความสะดวกกับความปลอดภัย ส่วนเราขอเลือกความปลอดภัยก่อน หากไม่แก้ไขก็ไม่สมควรจะปล่อยให้มีการใช้งาน เพราะจะเกิดอุบัติเหตุได้อีกแม้รถไฟจะวิ่งได้แต่อุปกรณ์รักษาความปลอดภัยนั้นไม่ดีพอ
นายสาวิทย์ กล่าวด้วยว่า ส่วนที่การรถไฟไทยส่งตัวแทนมาแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มสหภาพฯ นั้น ถือว่าไม่ถูกต้อง เพราะหากมีอะไรเกิดขึ้นทางการรถไฟฯ ต้องรับผิดชอบ รวมไปจนถึงตัวนายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมด้วย
สำหรับรายการอุปกรณ์ที่ตัวแทนสหภาพฯ ระบุว่า ต้องมีการแก้ไขซ่อมแซมอุปกรณ์ประกอบด้วย 1.ระบบ Vigilance 2.หวีดรถจักร Cab 3.Head Light Cab 4.ระบบโรยทราย Cab 5.Speed meter Cab 6.ซีลขอบประตูห้องเครื่อง 7. ปัดน้ำฝน Cab 8.Maker Light Cab 9.เกจวัดรอบ ENGINE Cab 10.ห้ามล้อมือ 11.ประตูห้องโดยสาร (รถดีเซลราง) 12.แผงไฟแสดงความผิดปรกติของรถจักร และอื่นๆเบื้องต้นพนักงานสอบสวนของกองปราบปราม ได้สอบปากคำนายสาวิทย์ ไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะนำเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป
...