"ธาริต เพ็งดิษฐ์" อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ และศรส. แถลงได้ข้อยุติเหตุปะทะหลักสี่ วิถีกระสุนมาจากทั้ง 2 ฝ่าย สั่ง สตช. เร่งขอหมายจับ พร้อมเผย 5 สาเหตุขัดข้องให้เลือกตั้งไม่ได้...

วันที่ 3 ก.พ. 57 นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ในฐานะกรรมการศูนย์รักษาความสงบ หรือศรส. แถลงผลการประชุมที่มี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ผู้อำนวยการ ศรส. เป็นประธานว่า ศรส. ขอขอบคุณประชาชนจำนวนมากที่ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา และประชาชนที่ไม่ขัดขวางการเลือกตั้ง ตามคำชวนของ กปปส. พร้อมสรุปเหตุขัดข้อง 5 กรณี คือ

1. กกต. ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้ คือ การเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวันที่ 26 ม.ค. คณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งไม่สามารถจัดให้มีการลงคะแนนได้ เพราะ กปปส. ข่มขู่ผู้ใช้สิทธิ ขัดขวาง ปิดล้อมหน่วยเลือกตั้ง 2. ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ กปปส. ได้ปะทะกับกลุ่มที่เรียกร้องให้มีการเลือกตั้ง เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย และปิดล้อมสำนักงานเขตหลักสี่ จนต้องประกาศงดลงคะแนนเลือกตั้ง 3. กรณี กปปส. ปิดล้อมสำนักงานไปรษณีย์ ศาลากลางจังหวัด ที่ว่าการอำเภอ และสำนักงานเขตบางเขตใน กทม. จนไม่สามารถนำบัตร และหีบบัตรเลือกตั้งเข้าไปยังหน่วยเลือกตั้งได้

4. ก่อนวันเลือกตั้ง และวันเลือกตั้งทั่วไป กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งบางแห่งไม่มาปฏิบัติหน้าที่ และขอลาออกจากตำแหน่ง จึงไม่สามารถจัดหาบุคคลมาทำหน้าที่แทนได้ และ 5 วัน เลือกตั้งทั่วไป กปปส. ปิดล้อมหน่วยเลือกตั้งบางแห่ง ทำให้ผู้มาใช้สิทธิไม่สามารถมาใช้สิทธิได้ ดังนั้น ผู้กระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งทั้งหมดจะต้องถูกดำเนินคดี

นอกจากนี้ กองบัญชาการตำรวจนครบาล และสำนักงานพิสูจน์หลักฐาน รายงานต่อ ศรส. ถึงผลการสอบสวนเหตุปะทะที่แยกหลักสี่ว่า ผลการตรวจวิถีกระสุน และร่องรอยทางนิติวิทยาศาสตร์ได้ข้อยุติว่า วิถีกระสุน และร่องรอยการใช้อาวุธปืนนั้นมาจากทั้งสองฝ่าย คือ กปปส. และฝ่ายที่สนับสนุนการเลือกตั้ง ดังนั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเร่งขอหมายจับผู้กระทำผิดโดยเร็วต่อไป

ด้าน พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ระบุว่า เหตุปะทะดังกล่าว มีการใช้อาวุธปืนถึง 7 ชนิด คือ คาร์บิ้น ปืนขนาด .223 ปืนลูกซอง ปืนอาก้า .38 9 มม. และ 11 มม. นอกจากนี้ พบร่องรอยกระสุน 42 รอย มาจากฝั่ง กปปส. 39 รอย ฝั่งสนับสนุนการเลือกตั้ง 3 รอย.

...