'กำนันสุเทพ' ใจป้ำ! มอบ 5 ล้านบาทช่วยครอบครัว 'ประคอง' เหยื่อบึมบรรทัดทอง ปลุก กปปส.ทั่วประเทศ ปิดสถานที่ราชการพร้อมกันในวันจันทร์ที่ 20 ม.ค.นี้ ประกาศเดินขบวน 19 ม.ค.นี้ ถนนลาดพร้าว-รัชดาฯ ...
เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 18 ม.ค. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำ กปปส. ขึ้นเวทีปราศรัยบริเวณแยกปทุมวัน โดยก่อนการปราศรัย นายสุเทพ ได้อ่านรายชื่อรายชื่อผู้บริจาคเงินช่วยเหลือครอบครัว นายประคอง ชูจันทร์ ผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บจากเหตุระเบิดที่ถนนบรรทัดทอง
จากนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า สำหรับพิธีศพของ นายประคอง ชูจันทร์ จะตั้งศพที่วัดเทพศิรินทร์ ศาลาเวชชาชีวะ ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป 2 คืน สำหรับพรุ่งนี้ ตั้งแต่บ่าย 2 จะมีพิธีรดน้ำศพ สำหรับนายประคอง มีอาชีพเป็นช่างตัดเย็บเสื้อผ้าที่ภูเก็ต ทำมาหากินสุจริต เลี้ยงดูมารดา อายุ 80 ปีเศษ และครอบครัว มีภรรยา และลูกอีก 3 คน ลูกทั้ง 3 คนยังอยู่ในวัยเรียน คณะกรรมการ กปปส. จึงจะมอบทุนให้ครอบครัวของนายประคอง 1 ล้านบาท และในฐานะที่ตนเป็นแกนนำชักชวนให้พี่น้องทั้งหลายให้ลุกขึ้นมาต่อสู้กับระบอบทักษิณ ซึ่งนายประคองได้เข้ามาร่วมการต่อสู้ด้วยอุดมการณ์เดียวกัน ครอบครัวผมจึงขอบริจาคให้ครอบครัวคุณประคองอีก 5 ล้านบาท เพื่อเป็นทุนในการดูแลแม่และครอบครัว

...
นายสุเทพ กล่าวต่อว่า เราจะไม่ทอดทิ้งกัน เราจะดูแลพี่น้องร่วมอุดมการณ์ด้วยหัวใจ สู้อย่างพลเมืองดี สันติ สงบ ไม่มีอาวุธ ไม่ใช้ความรุนแรง สู้แบบอหิงสา สู้แบบอารยชน ไม่ว่าอีกฝ่ายจะกระทำรุนแรงอย่างไรก็ตาม เราจะไม่เอาความเจ็บปวด ความแค้น มาตอบโต้ด้วยอารมณ์ เพราะจะทำให้การต่อสู้ของมวลมหาประชาชนไม่บริสุทธิ์ ขอให้พี่น้องทั้งหลาย ใช้ความเจ็บปวดในความสูญเสีย ซึ่งจนถึงขณะนี้มี 3 คนแล้ว และมีผู้บาดเจ็บที่ต้องดูแลอีกหลายสิบคน ให้ความเจ็บปวดนี้ แปรเปลี่ยนเป็นพลัง ให้เข้มแข็ง แข็งแกร่ง เพื่อสืบสานปณิธานของพี่น้องร่วมอุดมการณ์ที่ได้เสียสละชีวิต เลือดเนื้อ เพื่อการต่อสู้ในครั้งนี้ เราจะดำรงความมุ่งหมายในการทำงานต่อไป
นายสุเทพ กล่าวว่า เหตุการณ์การขว้างระเบิดใส่ประชาชนเมื่อวานนี้ เป็นการเข่นฆ่ากลางวันแสกๆ กลางนครหลวง เยาะเย้ยกฎหมายทุกฉบับ แสดงให้เห็นชัดว่า รัฐบาลกุมอำนาจในประเทศนี้ไว้โดยเบ็ดเสร็จ จะจัดการกับประชาชนอย่างไรก็ได้ เราต้องทำให้เห็นว่า ไม่ว่าจะใช้วิธีใด ก็ไม่สามารถเอาชนะมวลมหาประชาชนไปได้เด็ดขาด
แกนนำ กปปส. กล่าวต่อว่า ผมอยู่ในเหตุการณ์ เห็นกับตาตอนระเบิดลง พี่น้องมวลมหาประชานที่เดินขบวนด้วยกันก็แตกตื่นไป แต่เพียงแค่ 10-15 วินาที ทั้งหมดก็กลับมารวมตัวกันใหม่ โดยไม่แสดงความหวาดกลัว และปฏิบัติหน้าที่ในการต่อต้านรัฐบาลต่อไป ซึ่งวันนี้ ก็มีพี่น้องมาร่วมเดินขบวนมากกว่าทุกวัน ตนซาบซึ้งในน้ำใจที่กล้าหาญของพี่น้องมวลมหาประชาชนอย่างที่สุด วันนี้ผมตั้งใจเดินนำหน้าขบวน เพราะเมื่อวานระเบิดลงหัวขบวน แต่ปรากฏว่ามีพี่น้องประชาชน มาอาสาเป็นการ์ด รอบตัวผมเต็มไปหมด ต้องยกย่องเป็นพิเศษคือ สุภาพสตรีทั้งหลาย มาอาสาสมัครเป็นการ์ดรักษาความปลอดภัยผม มีเด็กนักเรียนคนหนึ่งอายุ 16 ปี เดินหน้าผม ขอเป็นการ์ดให้ลุงกำนัน และอีกหลายสิบคน เป็นผู้หญิงอายุเกิน 60 ปีทั้งสิ้น หลายคนเป็นชาวบ้านที่ไม่เคยเรียนวิชาการต่อสู้มาจากไหนเลย เพราะยังเคี้ยวหมากอยู่ หลายคนเป็นข้าราชการ นักธุรกิจ อยู่ที่กรุงเทพฯ มีคนหนึ่งเป็นผู้หญิง อายุมาก ผมก็ถามว่า มาจากไหน บอกว่าเป็นน้องสาวของ นายธีรเดช มีเพียร อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม เห็นเหตุการณ์เมื่อวานแล้ว ทนไม่ได้ ขออาสาเป็นการ์ดให้ มีคนหนึ่งเป็นคุณหมออยู่ที่ร้อยเอ็ด เห็นเหตุการณ์เมื่อวาน จึงลางานมาเป็นการ์ดให้

นายสุเทพ กล่าวต่อว่า วันนี้เดินตามถนน มีพี่น้องสองฟากฝั่งเดินมาบริจาคเหมือนทุกวัน ยังไม่ทราบว่าเท่าไหร่ เจ้าหน้าที่ยังนับไม่เสร็จ บางคนเขียนมาชัดเจนว่า เป็นเงินช่วยเหลือครอบครัวนายประคอง บางคนก็มอบให้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ผมและเพื่อนๆ คณะกรรมการ กปปส. จึงได้ปรึกษากัน และได้ข้อสรุปว่า เงินทุกบาททุกสตางค์ที่ได้วันนี้ จะเอาเป็นกองทุน ช่วยเหลือเยียวยาผู้บาดเจ็บทั้งหมด ที่จริงเราได้เปิดบัญชีกองทุนเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการต่อสู้ครั้งนี้ไว้ มีเงินอยู่ประมาณ 7 ล้านบาท แต่ถูกนายธาริต เพ็งดิษฐ์ ทำการอายัดไว้ ดังนั้น คณะกรรมการ กปปส. ก็จะพยายามจัดตั้งกองทุนขึ้นมาใหม่ ด้วยการรับบริจาคโดยตรงทุกเวที แยกออกมาชัดเจน และเราก็จะเดินหน้าทำงานของเราต่อไปตามที่เราได้กำหนดแนวทางไว้ คือ ปิดกรุงเทพฯ สถานที่ราชการทั้งหมด และเดินขบวนชักชวนคนกรุงเทพฯ ให้ออกมาต่อสู้ให้มากขึ้น โดยไม่สนภัยคุกคาม โดยไม่แสดงความหวาดกลัวใดๆ
แกนนำ กปปส. กล่าวต่อว่า พรุ่งนี้พี่น้องมวลมหาประชาชน จากเวทีลาดพร้าว จะชวนกันเดินไปตามถนนลาดพร้าว และรัชดา ในเวลา 10.00 น. โดยตนจะเดินนำขบวนเหมือนทุกวัน และหลังจากนั้นก็จะมีการเดินขบวนแบบนี้เป็นประจำให้ทั่วกรุงเทพฯ และตั้งแต่วันจันทร์เป็นต้นไป จะขอให้ผู้ร่วมอุดมการณ์ กปปส. ในจังหวัดต่างๆ ยกระดับการต่อสู้ คู่ขนานการปิดกรุงเทพฯ โดยจะเริ่มจาก กปปส. ในภาคใต้ ซึ่งสูญเสียมากที่สุด ให้ทุกจังหวัดปิดสถานที่ราชการให้หมดทุกจังหวัด ขอให้พี่น้องข้าราชการทั้งหลายให้ความร่วมมือด้วย อย่าทำงานรับใช้ระบอบทักษิณต่อไป เราคนไทยเป็นพี่เป็นน้องกัน เมื่อคนไทยเจ้าของประเทศ ได้ลุกขึ้นสู้กับระบอบทักษิณ พี่น้องข้าราชการภาคใต้ ซึ่งทำงานใกล้ชิดประชาชน เมื่อประชาชนลุกฮือ ก็ขอให้ข้าราชการลุกฮือเป็นตัวอย่างให้จังหวัดอื่นทั้งประเทศ และวอนพี่น้องข้าราชการตำรวจในภาคใต้ ให้อยู่ข้างประชาชน
แกนนำ กปปส. กล่าวว่า สำหรับทหาร ผมตระหนักดีว่า ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ ประกาศชัดว่า ทหารยืนข้างประเทศไทย จึงมั่นใจว่า จะไม่เป็นเครื่องมือของระบอบทักษิณอีกต่อไป โดยเฉพาะพี่น้องทหารที่อยู่ในภาคใต้ ซึ่งทำงานใกล้ชิดประชาชน ท่านต้องเห็นว่า เป็นมาตรการที่ประชาชนไม่มีทางเลือกแล้ว จากนั้น ขอให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ภาคกลางเรื่อยขึ้นมาจากภาคใต้ ทั้งประจวบฯ เพชรบุรี ราชบุรี กาญจนบุรี ฯลฯ จังหวัดไหนพร้อมปิดสถานที่ราชการ ให้ทำพร้อมกันในวันจันทร์ที่ 20 เป็นต้นไป สำหรับภาคเหนือและอีสาน หากมีกำลังเพียงพอ ก็ขอให้ลุกขึ้นปิดสถานที่ราชการพร้อมกันไปด้วย และขอเน้นว่า การปฏิบัติการของเรา ต้องทำโดยสันติ ไม่ใช้ความรุนแรง อาวุธ กระทำอย่างเปิดเผย เพราะเราเป็นพลเมืองดี เป็นอารยชน ยึดมั่นในการต่อสู้ เพื่อให้การต่อสู้ครั้งนี้ เป็นการต่อสู้ที่บริสุทธิ์

แกนนำ กปปส. กล่าวด้วยว่า ผมนึกว่าผมจะไม่สามารถขึ้นเวทีมาพูดได้ เพราะเจ็บปวดใจเหลือเกินที่เห็นความสูญเสีย แต่วันนี้ขณะเดินขบวน พี่น้องเข้ามากอด เข้ามาปลอบ อย่าทิ้งมวลชน ให้เดินหน้าสู้ต่อ พี่น้องมวลชนเหล่านั้น เอาเงินมาใส่มือ และบอกว่า อย่ากลัว เราอยู่กับคุณ เรามีเท่าไรก็หุ้นด้วย ตามกำลัง นี่คือน้ำใจของพี่น้อง ตนรู้ว่าพี่น้องตั้งความหวังในการต่อสู้ไว้มาก และไม่อยากเห็นผมอ่อนแอ แต่ทั้งหมดไม่ใช่ความอ่อนแอ แต่มันคือความเจ็บปวดที่เห็นในสิ่งที่ทำกับประชาชนเหมือนไม่ใช่มนุษย์ ผมขอให้พี่น้องได้จดจำเหตุการณ์ที่โหดร้ายนี้ไว้
แกนนำ กปปส. กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนได้ตอบพี่น้องที่เข้ามาปลอบว่า ผมไม่มีวันทอดทิ้งพี่น้องประชาชนเป็นอันขาด ไม่ว่าจะถึงเวลาที่หายใจในนาทีสุดท้าย ก็จะขอยืนหยัดสู้กับประชาชน เราจะต่อสู้ด้วยความห้าวหาญ เข้มแข็ง และไม่ถอยให้แม้แต่ก้าวเดียว จากวันนี้จะหนักขึ้น หนักขึ้น และแรงขึ้น และผมภาคภูมิใจที่สุด ที่ได้ยืนต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับพี่น้องทั้งหลาย เป็นโอกาสเดียวที่เราคนธรรมดา จะได้ต่อสู้เพื่อตอบแทนคุณแผ่นดินอย่างจริงจัง เราจึงจะต่อสู้อย่างกล้าหาญ อดทน ด้วยใจที่มุ่งมั่น และจะทำให้ชัยชนะเป็นของประชาชน เป็นของแผ่นดิน เป็นของประเทศนี้ให้ได้ ด้วยมือของเรา และถ้าผมตาย ผมก็จะสมทบกับวิญญาณพี่น้องเหล่านั้น ยืนข้างประชาชน เพราะฉะนั้น ตั้งแต่วันนี้ไป ขอให้พวกมันเตรียมนับถอยหลังได้ เพราะพวกเราจะไม่ย่อท้อ เราจะบุกบั่น ทำทุกอย่างให้มันแพ้ ให้ชัยชนะเป็นของพี่น้องมวลมหาประชาชนให้ได้.