นายปณิธาน วัฒนายากร
ครม. เห็นชอบประกาศ พ.ร.บ.มั่นคง เขตดุสิต 15-25 ต.ค. คุมม็อบเสื้อแดง อ้างมีกลุ่มบุคคลจ้องป่วน ปิดล้อมทำเนียบฯ หวั่น กระทบต่อการประชุมอาเซียน ชะอำ-หัวหิน ...
วันนี้ (13 ต.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุม คณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม. เห็นชอบร่างประกาศเรื่อง พื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ในพื้นที่เขตดุสิต กทม.ระหว่างวันที่ 15-25 ต.ค. ตามที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) เสนอมา โดย กอ.รมน.รายงานว่า สถานการณ์ ตั้งแต่วันที่ 11 ต.ค. เป็นต้นไป มีแนวโน้มเกิดความรุนแรง เกิดภาวะไร้เสถียรภาพจากการเคลื่อนไหวของคนบางกลุ่มที่ปลุกระดมและนัดชุมนุมเรียกร้องทางการเมือง โดยมีกำหนดเคลื่อนพลมาปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล และสถานที่ราชการในพื้นที่เขตดุสิต ดังนั้นเพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง จึงต้องประกาศพ.ร.บ. มั่นคงฯในพื้นที่เขตดุสิตควบคู่กับการประกาศ พ.ร.บ. มั่นคงฯ ที่อ. ชะอำ จ. เพชรบุรี และ อ. หัวหิน จ. ประจวบคีรีขันธ์
นายปณิธาน กล่าวว่า ในวันที่ 14 ต.ค. นายกรัฐมนตรี จะเรียกประชุม กอ.รมน. เพื่อจัดตั้งศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศรส.) คาดว่าจะแต่งตั้งนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นผอ.ศรส. พร้อมออกข้อบังคับให้ฝ่ายปฏิบัติต่อไปเช่นการควบคุมพื้นที่ เส้นทางจราจา อาวุธ ซึ่งการประกาศพ.ร.บ. มั่นคงฯ ใน กทม.เป็นการกำหนดมาตรการเพื่อให้การประชุมสุดยอดอาเซียน ระหว่างวันที่ 23-25 ต.ค.เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เพราะหลายฝ่ายเชื่อว่าทั้ง 2 ส่วนมีความเชื่อมโยงกัน หากเกิดความไม่สงบในกรุงเทพฯ ย่อมเกิดผลกระทบต่อการจัดประชุมอาเซียนแน่นอน เพราะหากรัฐบาลประกาศ พ.ร.บ.มั่นคงฯ ที่อ.ชะอำ และอ.หัวหิน เจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่จะลงไปทำงานในพื้นที่ หากฝ่ายตรงข้ามนัดชุมนุมใน กทม. โดยไม่ต้องอาศัยคนจำนวนมาก แต่พยายามสร้างความโกลาหล หรือทะลักเข้าไปในสถานที่ราชการในพื้นที่ดุสิต เช่น ทำเนียบฯ ย่อมทำให้ต่างชาติมองภาพว่า รัฐบาลไทยไม่มีขีดความสามารถในการจัดการพื้นที่สำคัญได้ และจะส่งผลต่อการตัดสินใจเดินทางมาร่วมประชุมของผู้นำชาติต่างๆ แน่นอน
...