"คณะกรรมการกฎหมาย" แถลงซัด "สุเทพ เทือกสุบรรณ" กระทำการไม่มีกฎหมายรองรับ-ล่วงพระราชอำนาจ ชี้ นายกฯ-คณะรัฐมนตรี รักษาการลาออกไม่ได้ ขัดรธน.
วันที่ 10 ธ.ค. นายชัยเกษม นิติสิริ รมว.ยุติธรรม อ่านคำแถลง ของคณะกรรมการกฎหมาย ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 342/2556 ลงวันที่ 3 ธันวาคม 2556 ระบุว่า คณะกรรมการกฎหมายซึ่งรักษาการนายกรัฐมนตรีได้แต่งตั้งขึ้นเพื่อแก้ไขสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้น อันประกอบด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานกรรมการปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นรองประธานกรรมการ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เลขาธิการ คณะกรรมการกฤษฎีกา พลตำรวจเอก เอก อังสนานนท์ เป็นกรรมการ และอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นกรรมการและเลขานุการ ได้ร่วมกันประชุมเมื่อเช้าวันที่ 10 ธันวาคม 2556 และมีข้อสรุปดังต่อไปนี้
ที่ประชุมคณะกรรมการกฎหมาย ซึ่งมีผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการ่วมกันเป็นกรรมการด้วย มีความเห็นร่วมกันว่า ตามที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และแกนนำการชุมนุม ได้แถลงการณ์และเรียกร้องให้ นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ลาออกจากการปฏิบัติหน้าที่ โดยอ้างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 3 และ มาตรา 7 และองค์พระมหากษัตริย์ ทรงมีพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร และกำหนดวันเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 แล้วนั้น
ที่ประชุมเห็นว่า ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย คณะรัฐมนตรี จะต้องอยู่ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งต่อไปจนกว่า จะมีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ซึ่งนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ทั้งชุดจะลาออกมิได้ เพราะเป็นการขัดต่อเจตนารมณ์ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักไทย และไม่มีบทบัญญัติใดในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ที่ให้กระทำได้ ซึ่งหากนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีฝ่าฝืนกระทำการลาออกไป จะไม่มีสภาบังคับหรือผลตามกฎหมายแต่อย่างใด
...
อันหมายความว่า การลาออกนั้น เป็นการกระทำไม่ได้โดยสิ้นเชิง ทั้งนี้ เป็นไปตามหลักการและบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยตามมาตรา 181 ที่จะต้องไม่เกิดสุญญากาศของการบริหารประเทศ รวมถึงเป็นไปตามหลักความรับผิดชอบร่วมกันของคณะรัฐมนตรี ซึี่งพระมหากษัตริย์ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งตามมาตรา 171 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
อนึ่ง กรณีนี้เป็นคนละกรณีกับการที่นายกรัฐมนตรีจะปรับรัฐมนตรีบางคนออก หรือรัฐมนตรีบางคนจะลาออก ซึ่งมิใช่กรณีนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีบางคนจะลาออก ซึ่งมิใช่กรณีนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีทั้งคณะจะร่วมกันลาออกทั้งคณะ ซึ่งจะเป็นการจงใจละทิ้งหน้าที่ความรับผิดชอบร่วมกันดังกล่าวข้างต้น
นอกจากนี้ คณะกรรมการกฎหมายได้พิจารณาจากคำแถลง และคำอภิปรายต่างๆ ของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และแกนนำแล้ว เห็นว่า ทั้งโดยพฤติกรรม และถ้อยคำที่แถลง มีความชัดเจนว่า นายสุเทพ กับแกนนำ ได้ทำการต่างๆ เพื่อจัดตั้งรัฐบาลขึ้น เป็นการเฉพาะอันไม่มีกฎหมายรองรับ รวมถึงการจัดตั้งสภาประชาชน มีการออกคำสั่ง ให้คณะรัฐมนตรี ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่รัฐ ปฏิบัติต่างๆ หลายอย่างหลายประการ รวมถึงการจัดตั้งกองกำลังอาสาสมัครรักษาการแทนตำรวจขึ้น เป็นการเฉพาะ
การกระทำการและสั่งการของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ จึงเป็นการสั่งการโดยไม่มีกฎหมายใดให้อำนาจกระทำได้ และโดยเฉพาะการดำเนินการเพื่อการจัดตั้งรัฐบาล หรือคณะรัฐมนตรีขึ้นอีกชุดหนึ่งในขณะที่รัฐบาล หรือ คณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบัน ยังคงดำรงอยู่นี้ จึงเป็นการล่วงละเมิดพระราชอำนาจ ต่อองค์พระมหากษัตริย์เป็นอย่างยิ่ง