ม็อบไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ลามหลายจังหวัดภาคใต้ ทั้งพัทลุง ปัตตานี สุราษฎร์ฯ บุกศาลากลางไล่ผู้ว่าฯ-ข้าราชการออกหมด สั่งปิดส่วนราชการ 3 วัน พร้อมเป่านกหวีด-มอบดอกไม้ขับไล่ระบอบทักษิณ...
เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 56 ผู้สื่อข่าว จ.พัทลุง รายงานว่า กลุ่มคนพัทลุงรักชาติ ประมาณ 3,000 คน ภายใต้การนำของ นายทวี ภูมิสิงหราช อดีตรองนายกเทศมนตรีเมืองพัทลุง ได้ใช้รถยนต์ติดเครื่องขยายเสียง และเดินเท้ามารวมตัวกันที่บริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดพัทลุง โดยเรียกร้องขอพบ นายเสรี ศรีหะไตร ผวจ.พัทลุง ต่อมา นายสุชาติ สุวรรณกาศ และนายสุรินทร์ เพชรสังข์ รอง ผวจ.พัทลุง ได้ลงมาพบผู้ชุมนุม แต่กลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงไม่ยอมรับ
นายทวี กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นรัฐบาลที่ไม่ชอบธรรม ไม่ยอมรับคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญ ขณะนี้เป็นรัฐบาลที่ละเมิดรัฐธรรมนูญ ความเป็นรัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้สิ้นสุดลงแล้ว ขณะนี้คณะรัฐบาลเป็นกลุ่มบุคคลเถื่อนที่ไม่มีรัฐธรรมนูญ หรือกฎหมายใดรองรับแล้ว ดังนั้น คำสั่งใดๆ ของรัฐบาลจึงเป็นโมฆะ จึงขอเรียกร้องให้ ผวจ.พัทลุงอย่าได้ปฏิบัติตามคำสั่งรัฐบาลอีกต่อไป
...
ต่อมา นายเสรีได้ลงมาพบผู้ชุมนุม โดยผู้ชุมนุมเรียกร้องให้ข้าราชการบนศาลากลางฯ หยุดทำงานตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันศุกร์ โดยให้เปิดทำการในวันจันทร์ที่ 2 ธ.ค. 56 และให้ข้าราชการทุกหน่วยงานออกจากศาลากลางฯ ให้หมดทุกคน แต่นายเสรีต่อรองว่าขณะนี้น้ำกำลังท่วมพัทลุง ข้าราชการต้องออกช่วยเหลือประชาชน แต่กลุ่มผู้ชุมนุมไม่ยินยอม ซึ่งต่อมานายเสรีและบรรดาข้าราชการก็เดินออกจากศาลากลางฯ ในที่สุด ท่ามกลางเสียงโห่ร้องของกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วง ต่อมากลุ่มผู้ชุมนุมได้เดินเท้าออกไปรวมตัวกันที่บริเวณด้านหน้าศาลากลางหลังเก่า แล้วเปิดเวทีกล่าวโจมตีการปฏิบัติหน้าที่ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์
ขณะที่ด้านหน้าศาลากลางจังหวัดปัตตานี ได้มีกลุ่มผู้ชุมนุมกว่า 500 คน เป่านกหวีด ถือธงชาติ และดอกไม้ยืนชุมนุมอยู่หน้าประตูทางออกของศาลากลางฯ เพื่อต้องการเข้าไปภายใน แต่ถูกเจ้าหน้าที่ปิดกั้นไว้ ทำให้สถาการณ์ตรึงเครียดและมีการกระทบกระทั่งกันขึ้น แต่ก็ไม่เกิดเหตุรุนแรงใดๆ ซึ่งทางตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุมได้ชี้แจงว่า ต้องการเข้าพบ นายวิทยา พานิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เพื่อมอบดอกไม้และจะชุมนุมโดยสันติ เจ้าหน้าที่จึงยอมเปิดประตูให้ผู้ชุมนุมทั้งหมดทยอยเข้ามาภายในศาลากลาง โดยยืนปักหลักอยู่หน้าเสาธง ซึ่งแกนนำผู้ชุมนุมได้ปราศรัยกรณีการออกมาชุมนุมว่าไม่ยอมรับระบอบทักษิณ พร้อมเป่านกหวีดเสียงดังลั่น
จากนั้น นายนฤพล แหละดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ได้ออกมาพบกับกลุ่มผู้ชุมนุม โดยกล่าวกับผู้ชุมนุมว่า ตนเป็นตัวแทนของผู้ว่าฯ เนื่องจากผู้ว่าฯ ไปราชการที่ จ.สงขลา ซึ่งทางกลุ่มผู้ชุมนุมได้ปราศัยต่อหน้ารองผู้ว่าฯ และหัวหน้าส่วนฯ ว่า กลุ่มผู้ชุมนุมออกมาชุมนุมเพื่อแสดงพลังโดยสันติ และจะไม่มีการกระทบกระทั่งแต่อย่างใด และไม่ยอมรับระบอบทักษิณ ก่อนที่กลุ่มผู้ชุมนุมจะเป่านกหวีดและนำนกหวีดให้รองผู้ว่าฯ เป่า 2 ครั้ง ก่อนจะมอบดอกไม้ให้รองผู้ว่าฯ และข้าราชการเพื่อเป็นกำลังใจ หลังจากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมก็เดินทางออกจากศาลากลางฯ ไปรวมตัวกันที่ลานวัฒนธรรม ด้านหน้าศาลากลางจังหวัดปัตตานี
ด้านอำเภอเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ได้มีชาวบ้านกว่า 200 คน เดินทางไปรวมตัวกันที่บริเวณด้านหน้าที่ว่าการอำเภอเกาะสมุย แล้วเคลื่อนขบวนไปยังหน้าตึกที่ทำการอำเภอเกาะสมุย พร้อมถือดอกกุหลาบไปมอบให้ นายกัมปนาท กลิ่นเสาวคนธ์ ปลัดอวุโสอำเภอเกาะสมุย ทำหน้าที่รักษาราชการแทนนายอำเภอเกาะสมุย ที่ลงมารับข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุม โดยผู้ชุมนุมได้ยื่นข้อเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่ว่าการอำเภอเกาะสมุย หยุดงานเป็นเวลา 3 วัน โดยให้มีผลทันที ตามแนวทางของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และกลุ่มแกนนำขับไล่ระบอบทักษิณ ที่ประกาศให้กลุ่มผู้ชุมนุมในต่างจังหวัดไปร่วมตัวกันที่หน่วยงานราชการ และขอให้เจ้าหน้าที่หยุดการทำงานโดยทันที
หลังจากนั้น นายกัมปนาทได้ขอร้องให้กลุ่มผู้ชุมนุม ที่แสดงออกทางการเมือง ชุมนุมอย่างสงบที่บริเวณหน้าที่ว่าการฯ โดยไม่ให้เข้าไปในตัวอาคารที่ว่าการฯ ขณะที่เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ทุกฝ่ายอยู่ในที่ว่าการอำเภอเกาะสมุย ต่างเก็บข้าวของส่วนตัวทยอยกันออกจากที่ทำงานในทันที ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เกาะสมุย ได้เรียกประชุมกำลังตำรวจ พร้อมจัดกำลังดูแลความเรียบร้อย สถานีที่หน่วยงานราชการตลอด 24 ชั่วโมง.