เลขาฯ สบอช.จ่อ เรียก "ศศิน" หารือ เขื่อนแม่วงก์ 17 ต.ค.นี้ ขณะมั่นใจ ระบายน้ำค้างทุ่ง ฝั่งตะวันออกประเทศ ได้ตั้งแต่ 15 ต.ค. จับตาห่วง "พายุนารี" เข้าไทย ทำน้ำท่วมซ้ำ...

วันที่ 11 ต.ค. นายสุพจน์ โตวิจักษณ์ชัยกุล เลขาสำนักงานนโยบายบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ หรือ สบอช. กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมในภาพรวมว่า มีสถานการณ์ที่ดีขึ้นในทุกพื้นที่ โดยที่ฝั่งตะวันออก จะมีการเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ภายในวันที่ 17 ตุลาคมนี้ โดยเฉพาะที่ทุ่งบางพวง และศรีมหาโพธิ ซึ่งกรมชลประทานได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติมอีก 30 เครื่อง คาดว่าจะสามารถระบายน้ำค้างทุ่งได้ภายในวันที่ 15 พฤศจิกายนนี้ เพราะน้ำมีปริมาณมาก

ส่วนนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ได้มีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำแล้วเช่นกัน ขณะเดียวกันเป็นห่วงพายุนารี ที่จะพัดใกล้ฝั่งฟิลิปปินส์ มาถึงเวียดนาม และไทย ในวันที่ 17 ตุลาคมนี้ ซึ่งจะส่งผลให้พื้นที่ภาคอีสาน โดยเฉพาะจังหวัดอุบลราชธานี และศรีสะเกษ มีฝนตกหนักในพื้นที่ แต่จะไม่ได้รับผลกระทบมาก ส่วนสถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี และ กทม. บางส่วน เกิดจากระบบการระบายน้ำไม่มีประสิทธิภาพ และบางพื้นที่เป็นพื้นที่ฟันหลอ

นอกจากนี้ นายสุพจน์ ระบุว่า ไม่กังวลกรณีที่สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ยื่นศาลปกครองให้คุ้มครองชั่วคราว กรณีที่ กบอ. จะเปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ 36 จังหวัด เพราะได้ทำตามมติ ครม. และคำสั่งของศาลปกครอง ซึ่งเป็นไปตามหลักวิทยาศาสตร์ด้านวิชาการ                                                                                                                                                                                                                                                                                
ทั้งนี้ รัฐบาลเตรียมเชิญ นายศศิน เฉลิมลาภ เลขามูลนิธิสืบ นาคะเสถียร และชาวบ้านในพื้นที่ มาหารือกรณีการก่อสร้างเขื่อนแม่วงก์ในวันที่ 17 ตุลาคมนี้ ในช่วงบ่าย พร้อมยืนยันว่าการพูดคุยจะมีทั้งกลุ่มที่สนับสนุนและคัดค้าน

...

ขณะที่ความคืบหน้า การจัดตั้งกระทรวงน้ำ วันนี้เปิดรับฟังความคิดเห็นของภาคประชาชน ซึ่งจะนำมาสรุปเป็นร่างฉบับประชาชนเข้าชื่อ เพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร รวมถึงร่างของรัฐบาลและร่างของนายปราโมทย์ ไม้กลัด อดีตอธิบดีกรมชลประทาน ซึ่งจะเร่งดำเนินการเช่นกัน เพื่อให้สอดรับกับการดำเนินโครงการ 3.5 แสนล้านบาท