"หมวดเจี๊ยบ" เผย ครม.อนุมัติปรับขึ้นอัตราเงินเดือน ลูกจ้าง-ภารโรง คณะกรรมการปฏิรูป ก.ม.ทั้งให้ สพฐ.รองรับ นศ.ทุนพระราชทานกลับภูมิลำเนา "ครูคืนถิ่น" นอกจากนี้ให้กีฬาแห่งชาติจัด 2 ปีต่อครั้ง...
เมื่อวันที่ 8 ต.ค. ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ แถลงภายหลังการประชุมการประชุม ครม. ว่า คณะรัฐมนตรี อนุมัติหลักการให้ปรับอัตราค่าจ้างสำหรับลูกจ้างรายเดือน นักการภารโรง และบุคลากรอื่น ๆ ที่ได้รับค่าจ้างรายวันหรือรายเดือน ในลักษณะจ้างเหมา ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ สพฐ. โดย 1.ผู้มีวุฒิปริญญาตรีขึ้นไป ได้รับเงินเพิ่มค่าครองชีพเพิ่มขึ้น รวมเป็นค่าจ้าง เดือนละ 15,000 บาท จากเดิม ได้รับ 9,140 บาท 2. ผู้มีวุฒิต่ำกว่าปริญญาตรี ได้รับเงินเพิ่มค่าครองชีพเพิ่มขึ้น รวมเป็นค่าจ้าง เดือนละ 9,000 บาท จากเดิม วุฒิอนุปริญญา ได้รับ 6,410 บาท และ ปวช. ม.3 และ ม.6. ได้รับ 5,700 บาท โดยให้มีผลย้อนหลังตั้งแต่ 1 ต.ค. 55 - 30 ก.ย. 56 ซึ่งปัจจุบันเจ้าหน้าที่กลุ่มนี้ มี 65,172 คน ต้องใช้งบประมาณ 3,300.82 ล้านบาท ในจำนวนนี้ มีบุคลากรที่ต้องลงไปปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามนโยบายสร้างสันติสุขภาคใต้ของรัฐบาล จำนวน 2,040 อัตรา ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามนโยบาย เงินเดือนปริญญาตรีขั้นต่ำ 15,000 บาท ต่ำกว่าปริญญาตรี ขั้นต่ำ 9,000 บาท ของรัฐบาล นอกจากนี้ ขอให้หน่วยงานต่างๆ ที่มีเจ้าหน้าที่หรือลูกจ้าง ที่ได้รับค่าจ้าง ในลักษณะจ้างเหมา พิจารณาความจำเป็นหากต้องปรับค่าตอบแทนให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล เสนอความต้องการผ่านคณะกรรมการระดับชาติ เพื่อขอความเห็นชอบจาก ครม. ต่อไป
ร.ท.หญิง สุณิสา กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี อนุมัติหลักการร่าง การปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการปฏิรูปกฎหมาย เพิ่มอัตราเงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง และเงินค่าตอบแทนรายเดือนของกรรมการปฏิรูปกฎหมาย ดังนี้ คือ ประธานกรรมการปฏิรูปกฎหมาย ได้รับเงินเดือนเพิ่ม เป็นเดือนละ 74,420 บาท เงินประจำตำแหน่ง 45,500 บาท รองประธานกรรมการปฏิรูปกฎหมาย ได้รับเงินเดือน เดือนละ 73,240 บาท เงินประจำตำแหน่ง 45,500 บาท กรรมการปฏิรูปกฎหมายที่ปฏิบัติหน้าที่เต็มเวลา ได้รับเงินเดือน 73,240 เงินประจำตำแหน่ง 42,500 บาท จากเดิม ทั้งสามตำแหน่ง ได้รับเงินเดือน 62,000 บาท และเงินประจำตำแหน่ง 45,500 บาท และกรรมการปฏิรูปกฎหมายที่ปฏิบัติหน้าที่ไม่เต็มเวลา ได้รับเงินเดือน ค่าตอบแทนรายเดือน 50,200 บาท จากเดิม ได้รับ 42,500 บาท โดยให้มีผลย้อนหลัง ตั้งแต่ วันที่พระราชกฤษฎีกามีผลบังคับใช้ ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับค่าตอบแทนของคณะกรรมการด้านกฎหมายอื่น ๆ เช่น คณะกรรมการการเลือกตั้ง คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน และ ป.ป.ช. เป็นต้น
ร.ท.หญิง สุณิสา กล่าวต่อว่า นอกจากนี้คณะรัฐมนตรี ได้อนุมัติหลักการให้ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ สพฐ บรรจุนักศึกษาทุนพระราชทาน "บัณฑิตครูคืนถิ่น" ให้เป็นข้าราชการครู สังกัด สพฐ. หลังจากสำเร็จการศึกษาแล้วให้ครบทุกคน ที่มีภูมิลำเนาหรือเป็นศิษย์เก่าในโรงเรียนที่ขาดแคลนครู ได้รับทุนการศึกษาพระราชทาน โดยมีเงื่อนไขให้กลับไปสอนหนังสือในโรงเรียนสังกัด สพฐ. ในพื้นที่พิเศษ 2,942 แห่ง คือ โรงเรียนในพื้นที่เสี่ยงภัย กันดาร มีชนกลุ่มน้อย ชายแดน บนภูเขา บนเกาะ และ โรงเรียนตามแนวพระราชดำริ โดยให้ สพฐ. ใช้อัตราข้าราชการครูและบุคลากรที่เกษียณอายุราชการทุกปีงบประมาณเพื่อรองรับนักศึกษาทุนพระราชทานดังกล่าว
...
ร.ท.หญิง สุณิสา กล่าวด้วยว่า คณะรัฐมนตรี ยังอนุมัติหลักการให้เปลี่ยนแปลงการจัดการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ จากเดิมแข่งขันเป็นประจำทุกปี เป็นแข่งขันทุกสองปีต่อครั้ง โดยให้มีผลตั้งแต่การแข่งขันกีฬาแห่งชาติครั้งหน้าเป็นต้นไป ทั้งนี้ เพื่อให้นักกีฬามีเวลาฝึกซ้อมเพื่อร่วมการแข่งขันในระดับนานาชาติมากขึ้น ซึ่ง นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯและรมว.การคลัง ได้ฝากให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ดูแลการพัฒนากีฬาสำหรับคนพิการด้วย ในขณะที่ นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี เห็นว่าควรยกระดับวงการกีฬาไทยให้เชื่อมกับวงการกีฬาสากล.