"สุวัจน์" แกนนำพรรคชาติพัฒนา ชูเวทีสภาปฏิรูปการเมืองหาทางออกประเทศ ยันไม่ได้เล่นปาหี่ หรือจัดฉาก ไม่ปิดกั้น "ทักษิณ" ร่วมแสดงความคิดเห็น ชี้เป็นคนไทยคนหนึ่ง...
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 26 ส.ค. ที่อาคารสุรพัฒน์ 2 ภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) ต.ปรุใหญ่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี แกนนำพรรคชาติพัฒนา ในฐานะนักการเมืองผู้ที่มีบทบาทมากประสบการณ์ในการร่วมเวทีสภาปฏิรูป การเมือง กล่าวถึงการประชุมสภาปฏิรูปการเมือง ว่า ได้กรอบของการทำงานว่า เราจะหาทางออกของประเทศไทย ซึ่งไม่ได้หมายความว่าปฏิรูปเฉพาะการเมือง เพราะการเมือง เศรษฐกิจ สังคมเกี่ยวข้องซึ่งกันและซึ่ง ถ้าจะให้เป็นทางออกประเทศไทยจริงๆ ต้องปฏิรูปร่วมกันทั้งเรื่องเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง อาจจะปฏิรูปในแต่ละด้าน แต่ต้องปฏิรูปให้มีกลไกในการขับเคลื่อนทั้งสามด้าน ไม่ให้ขัดแย้ง
ทั้งนี้ ข้อสรุปของที่ประชุมวานนี้ (25 ส.ค.) จึงเป็นเรื่องที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สรุปว่า หลักๆ จะมีการปฏิรูปการเมือง เศรษฐกิจ สังคม แต่ความสำเร็จจากนี้ไป เป็นเรื่องของการจัดตั้งคณะทำงานและเชิญผู้ที่เกี่ยวข้อง ที่ยังไม่ได้เข้ามามีส่วนร่วม ให้เข้ามาร่วมกันแสดงความคิดเห็น หรือเข้ามาเป็นคณะทำงานให้มากขึ้น ฉะนั้น ตนคิดว่าความสำเร็จของการปฏิรูปครั้งนี้ปัจจัยที่สำคัญที่สุดคือ การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของคนหนึ่งคนใด แต่เป็นเรื่องของส่วนรวมและของประเทศ
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีพรรคประชาธิปัตย์ตีรวนอยู่นอกเวทีประชุมว่าเล่นปาหี่กัน นายสุวัจน์ ตอบว่า ตนก็ไม่ทราบ ตนไปร่วมประชุมก็ไม่ได้มีความรู้สึกอย่างนั้น การปฏิรูปอย่างที่บอกไปคือ การเมือง เศรษฐกิจ สังคม หรือการเจรจาเรื่องความขัดแย้งสำคัญที่สุด การเจรจาทั้งในที่เปิดเผย หรือไม่ที่เปิดเผยก็แล้วแต่การเจรจาในเรื่องสันติภาพเป็นพื้นฐานที่จะนำไป สู่ความสำเร็จ และทุกคนได้แสดงความคิดเห็นที่เป็นเอกเทศ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแต่ละคน ตนคิดว่าไม่ใช่เป็นเรื่องที่มาจัดฉากหรือมาอะไรกัน แต่เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายมีความตั้งใจที่อยากเห็นบ้านเมืองเรียบร้อย
ผู้สื่อข่าวถามว่า เศรษฐกิจ การเมือง สังคมด้านไหน ควรจะปฏิรูปก่อนด้านอื่นๆ นายสุวัจน์ ตอบว่า ต้องดูว่าอะไรที่เป็นเรื่องเร่งด่วน เรื่องเฉพาะหน้า กับอะไรที่เป็นเรื่องระยะยาวของการพัฒนาประเทศ สมมติถ้าเราบอกว่าวันนี้การเมืองขัดแย้งกัน การเมืองไม่มีทางออก การเมืองทำให้ขาดเสถียรภาพและก่อให้เกิดความไม่มั่นใจ ก็อาจจะเป็นเรื่องด่วน ที่คิดว่าจะหาทางอะไรที่ให้การเมืองได้มีการพูดคุยกัน หรือมีกลไกอะไรที่ทำให้มีความเรียบร้อยขึ้น
ต่อข้อถามถึงกลุ่ม 40 ส.ว. และพรรคประชาธิปัตย์ ยังยืนยันที่จะไม่เข้าร่วม จะทำให้ไม่เป็นเอกภาพหรือไม่ นายสุวัจน์ กล่าวว่า ตรงนี้เป็นเรื่องที่จะต้องไปทำความเข้าใจกับทุกท่าน เมื่อวานนี้พูดกันในกรรมการว่า อาจจะมีคณะบุคคล หรือบางคนที่สามารถที่จะเข้าไปเชิญเพิ่มเติม หรือทำความเข้าใจเพิ่มเติม สมมติถ้าเกิดไม่ได้มาร่วม ก็อาจจะให้ความเห็นก็ได้อะไรก็ได้ เพียงแต่เราอยากเห็นการมีส่วนร่วมให้มากเพื่อความสำเร็จ เพราะมีความตั้งใจว่าอยากทำให้บ้านเมืองเรียบร้อย คนไทยมีความสุข เศรษฐกิจเดินไปได้จะเป็นการสร้างความยั่งยืนให้กับคนไทยและประเทศไทยด้วย ส่วนเวทีนี้จะนำไปสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมนั้น ตนคิดว่าอันนี้ขึ้นอยู่กับว่าการจัดตั้งกลไก เมื่อวานนี้เป็นแค่ยกหนึ่ง ฟังความคิดเห็นก่อนว่า ผู้รู้แต่ละคน ผู้หลักผู้ใหญ่แต่ละคนให้ความคิดเห็นในประเด็นไหน และเอาประเด็นที่เป็นตัวร่วมที่หลายๆ คนขึ้นมา พูดมักจะพูดประเด็นเดียวกัน จะได้เห็นว่ากรอบควรจะปฏิรูปในประเด็นไหน โดยทุกคนต่างพูดตรงกันว่า ควรจะทำทั้งสามด้าน แต่ต่อไปกลไกว่าจะขับเคลื่อน จะมีคณะกรรมการ และจะมีการทำงานอย่างไร เสร็จแล้วจะได้ข้อสรุปอะไร และจะปฏิบัติอย่างไร เป็นเรื่องของการพัฒนาอันจะเกิดขึ้นจากการประชุมครั้งต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า มองอย่างไรว่าสภาปฏิรูปเป็นสิ่งที่ท้ายทายรัฐบาล ที่จะต้องทำให้สำเร็จ นายสุวัจน์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่เหมือนกับคนที่มาเป็นรัฐบาลเขาก็ต้องรับผิดอบ ถ้าบรรยากาศบ้านเมืองเป็นอย่างนี้ หรือว่าตัวเลขทางเศรษฐกิจเป็นอย่างนี้ มันก็ต้องหาทางออกให้กับประเทศไทย ฉะนั้น รัฐบาลถูกต้องแล้วที่จะเป็นผู้ริเริ่มเรื่องนี้ แต่ความสำเร็จขึ้นอยู่กับความร่วมมือด้วย ถ้ามีความร่วมมือกันมากๆ ก็จะได้แนวทางมากๆ ความขัดแย้งน้อยลง มันจะทำให้โอกาสของความสำเร็จมีมากขึ้น ฉะนั้น เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้วที่จะต้องไปเชื้อเชิญฝ่ายต่างๆ ให้เข้ามาร่วมมากขึ้น
นอกจากนี้ ต่อข้อถามจะต้องมี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ด้วยหรือไม่ นายสุวัจน์ ตอบว่า ตนว่าทุกท่านก็สามารถที่จะแสดงความคิดเห็นได้ในฐานะที่เป็นคนไทย เพื่อหาทางออกให้กับประเทศไทย.
...