กลุ่ม 40 สว. สับร่างแก้ไขรธน.เรื่องที่มาส.ว. จากการเลือกตั้ง เอื้อผู้ใกล้ชิดฝ่ายการเมืองเข้าฮุบสภาสูง ซัดรวบอำนาจแบบเบ็ดเสร็จกลายเป็นสภาผัว-เมีย ยันค้านถึงที่สุด ขู่ใครหนุนร่างผ่านสภาฯเจอกันที่ศาล...

เมื่อวันที่ 16 ส.ค. นายสาย กังกเวคิน ส.ว.ระยอง ประธานคณะกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบ เรื่องการทุจริต และเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา เป็นประธานในการเสวนาเรื่อง "แก้รัฐธรรมนูญที่มาส.ว. : แผนเผด็จการรัฐสภาควบคุมองค์กรศาลและองค์กอิสระ " โดยนายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา กล่าวว่า การที่สภาฯเร่งพิจารณาร่างฉบับดังกล่าว เพราะเกรงว่าจะไม่ทันการ เพราะส.ว.ชุดปัจจุบันจะหมดอายุในต้นเดือนมี.ค ปี 2557 เป็นร่างที่มีการขายเหล้าพ่วงเบียร์แถมน้ำ หากร่างนี้ผ่าน จะทำให้สภาผัวเมียกลับมา

ส่วนผู้ที่เป็นส.ส.หรือรัฐมนตรีที่พ้นจากตำแหน่ง สามารถลงสมัครส.ว.ได้ทันที โดยไม่ต้องเว้นวรรคอีก ทำให้ผู้มีความใกล้ชิดฝ่ายการเมือง มีโอกาสเข้าครอบครองพื้นที่สภาสูง ทั้งที่รัฐธรรมนูญปี 2550 กำหนดให้วุฒิสภามีหน้าที่กลั่นกรองตรวจสอบการทำงานรัฐบาล ถ้าไม่เป็นเช่นนี้ก็ควรมีสภาเดียวจะดีกว่า ดังนั้นรัฐธรรมนูญฉบับนี้มีลักษณะหลอกลวง 3 ประเด็นคือ 1 .หลอกลวงว่าเป็นประชาธิปไตย 2. หลอกลวงเป็นสภาฯกลั่นกรอง และ 3. หลอกลวงว่ามีองค์กรอิสระ จึงขอให้ประชาชนจับตาดูต่อไป

ด้านน.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม. กล่าวว่า หากร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา จะทำให้ฝ่ายบริหารมีอำนาจเพิ่มขึ้น ซึ่งเกรงว่าอำนาจในการตรวจสอบลดลง ซึ่งตนเห็นว่า ส.ว.ควรมีที่มาแตกต่างจากส.ส. เพราะถ้ามีที่มาเช่นเดียวกัน จะทำให้ส.ว.ถูกรวบอำนาจ และทำให้ไม่มีความเป็นประชาธิปไตย แต่จะนำไปสู่การครอบครองทั้ง 2 สภาฯ จะเป็นการทำลายกระบวนการตรวจสอบถ่วงดุลอำนาจทั้งหมด สิ่งที่เกิดขึ้นคือเป็นการรวบอำนาจแบบเบ็ดเสร็จ ภายใต้เสื้อคลุมที่เรียกว่า อำนาจอธิปไตย ดังนั้นหากร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ผ่านความเห็นชอบจากสภา ตนจะเป็นผู้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้พิจารณาเรื่องนี้

พล.อ.อ.วีรวิท คงศักดิ์ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า การออกรัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นรัฐธรรมนูญที่ผิดตำรารัฐศาตร์ รัฐบาลพยายามทำให้ส.ว.และส.ส.มีการเลือกตั้งที่เหมือนกัน ทั้งที่ตามหลักสากล ที่มาของส.ส.และส.ว. ต้องมีที่มาที่ต่างกัน จึงมองว่ากฎหมายฉบับนี้เป็นกฎหมายที่มีเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน โดยเฉพาะเรื่องสภาฯผัวเมียนั้นชัดเจนว่า เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์โดยตรง ดังนั้นใครที่รับหลักการเรื่องนี้ขอให้เตรียมตัวขึ้นศาลได้เลย

เช่นเดียวกับนายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า เราจะต้องมาต่อสู้อย่างถึงที่สุด โดยจะยื่ีนเรื่องนี้ต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ศาลฎีกา คดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง รวมถึงทุกๆศาลอย่างแน่นอน

...