ศาลเลื่อนสอบคำให้การ พธม. ปิดสนามบิน 2 ธ.ค.นี้ กำชับ พธม.ห้ามปลุกระดมประชาชน ก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง ขณะที่ "จำลอง" นัดถก พธม.พรุ่งนี้ ด้าน "ตุลย์" ยันร่วมชุมนุม แต่ไม่ผิดเงื่่อนไข...

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 29  ก.ค. 2556 ที่ห้องพิจารณาคดี 704 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดตรวจพยานหลักฐานคดีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ชุมนุมปิดสนามบิน รวม 8 สำนวน คดีหมายเลขดำที่ อ.973/2556, อ.1067/2556, อ.1204/2556, อ.1279 /2556, อ.1316/2556, อ.1406/2556, อ.1522/2556 และ อ.1559/2556 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 9 ได้เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำ พธม. กับพวก รวม 96 คน

ในความผิดฐานร่วมกันก่อการร้าย เพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงกฎหมายแผ่นดิน หรือรัฐบาล โดยใช้กำลังข่มขืนใจ หรือใช้กำลังประทุษร้าย หรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน, ร่วมกัน มั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองฯ, ร่วมกันเข้าไปรบกวนการครอบครอง เข้าไปซ่อนตัวในอาคารสำนักงานของผู้อื่นและไม่ยอมออกไปจากสถานที่นั้น โดยใช้กำลงประทุษร้าย, ร่วมกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปฝ่าฝืนคำสั่งของหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินตาม พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ.2521 กรณีร่วมกับแกนนำพันธมิตรฯ พาผู้ชุมนุม ปิดล้อมท่าอากาศยานดอนเมืองและสุวรรณภูมิ เมื่อเดือน พ.ย.-ธ.ค.2551

โดยวันนี้ พล.ต.จำลอง, นายสนธิ กับพวก จำนวน 93 คน เดินทางมาศาล ขณะที่จำเลยไม่มาศาล จำนวน 3 คน และยื่นคำร้องขอเลื่อนการพิจารณา ประกอบด้วย นายปราโมทย์ หอยมุกข์ ระบุประสบเหตุลื่นล้มในห้องน้ำเมื่อวันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา, นายคงกฤษณ์ คงสัมพันธ์ ต้องเก็บอัฐิบุตรชายที่เสียชีวิตเมื่อวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา และนางลักขณา ดิษยะศริน สาเหตุเนื่องจากได้รับอนุญาตจากศาลอุทธรณ์ ให้เดินทางไปร่วมงานบุตรรับปริญญาบัตร ประเทศสหรัฐอเมริกา จนถึงวันที่ 31 ก.ค.นี้

...

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยทั้ง 3 คนติดภารกิจส่วนตัว ไม่มีเหตุจงใจหลบหนีหรือไม่มาศาล ขณะที่จำเลยบางคนยังไม่ได้แต่งตั้งทนายความ ประกอบกับคดีมีอัตราโทษสูงถึงประหารชีวิต โดยจำเลยประสงค์จะแต่งตั้งทนายความเอง ดังนั้น เมื่อยังไม่มีทนายความจึงไม่อาจดำเนินกระบวนพิจารณาได้ ศาลจึงอนุญาตเลื่อนไปนัดพร้อมเพื่อประชุมคดีตรวจพยานหลักฐานและสอบคำให้การจำเลย ในวันที่ 2 ธ.ค. เวลา 09.30 น. และกำชับให้จำเลยที่ยังไม่มีทนายความแต่งตั้งทนายความให้เสร็จ เนื่องจากคดีนี้เลื่อนมาเป็นเวลา 2 ครั้งแล้ว 
ส่วนที่อัยการโจทก์ได้แถลงขอรวมคดีทั้ง 8 สำนวน เข้าเป็นคดีเดียวกัน เนื่องจากพยานหลักฐานเป็นชุดเดียวกัน และจำเลยในคดีนี้เป็นกลุ่มเดียวกัน ซึ่งศาลได้สอบถามทนายจำเลยแล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้รวมเป็นคดีเดียวกัน โดยให้ยึดสำนวนคดีหมายเลขดำที่ อ.973 /2556 ที่มี พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ซึ่งเป็นจำเลยที่ 1 เป็นหลัก

ขณะที่ศาลได้กำชับจำเลยทั้ง 96 คน ไม่ให้กระทำการใดๆ อันมีลักษณะเป็นการยั่วยุ ปลุกปั่น ปลุกระดม เพื่อให้เกิดความวุ่นวายทางบ้านเมือง หรืออาจก่อให้เกิดภัยอันตรายต่อความเสียหาย หรือความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือกระทำการใดๆ เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน และห้ามจำเลยเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาลตามเงื่อนไขการปล่อยชั่วคราวที่ศาลกำหนดไว้

ทั้งนี้ ในวันเดียวกัน ศาลได้เรียก นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ และ นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ จำเลยร่วมในคดีนี้มาสอบถามถึงพฤติกรรมและข้อเท็จจริง กรณีที่ปรากฏเป็นข่าวชุมนุมที่หน้ากระทรวงกลาโหม เพื่อปิดล้อมไม่ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้าพิธีภายในกระทรวงกลาโหม เมื่อวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยจำเลยทั้งสองให้การยอมรับว่า อยู่ในเหตุการณ์ชุมนุมเคลื่อนไหวดังกล่าวจริง
 ศาลจึงแจ้งว่าการที่ศาลอนุญาตให้จำเลยทั้งสองได้รับการปล่อยชั่วคราวในระหว่างที่พิจารณาคดี ศาลต้องพิจารณาถึงเหตุการณ์ต่างๆ ตามที่ปรากฏไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 108 คือ ภัยอันตราย หรือความเสียหายที่อาจเกิดจากการปล่อยชั่วคราวนั้นมีหรือไม่เพียงใด ซึ่งในคดีนี้ เมื่อศาลได้พิจารณาพฤติการณ์แห่งคดี รวมทั้งเงื่อนไขต่างๆ ตามมาตราดังกล่าวแล้ว มีคำสั่งอนุญาตให้จำเลยทั้งสอง ได้รับการปล่อยชั่วคราว เนื่องจากศาลตั้งการให้ความคุ้มครองสิทธิในการได้รับการปล่อยชั่วคราว อันเป็นสิทธิของจำเลยในกระบวนการยุติธรรม

นอกจากนี้ ศาลยังเชื่อถือจำเลยทั้งสองว่าจะไม่หลบหนี ไม่ยุ่งกับพยานหลักฐานหรือไม่ก่อเหตุอันตราย อย่างไรก็ตาม เนื่องจากฐานความผิดที่จำเลยทั้งสองถูกฟ้องในคดีนี้เป็นฐานความผิดร้ายแรง และมีอัตราโทษสูง ศาลจึงต้องกำหนดเงื่อนไขให้จำเลยทั้งสองปฏิบัติระหว่างที่ได้รับการปล่อยชั่วคราว เพื่อป้องกันอันตราย หรือความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ดังนั้น จำเลยทั้งสองจึงต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าวอย่างเคร่งครัด ไม่เช่นนั้นศาลจะมีคำสั่งให้เพิกถอนการปล่อยชั่วคราวจำเลยทั้งสอง

ด้านนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า วันนี้ศาลได้เรียกสอบถามพฤติกรรมตนเอง กรณีที่ไปชุมนุมปิดล้อมที่กระทรวงกลาโหม ในเรื่องนี้ศาลได้เคยมีเงื่อนไขกับตนไว้ เนื่องจากเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง จึงห้ามตนไปกระทำการยุยงปลุกปั่นให้เกิดความวุ่นวาย ซึ่งศาลก็ได้เตือนให้เคร่งครัดในเงื่อนไขการปล่อยชั่วคราว และไม่ให้ตนกระทำการในลักษณะเช่นนี้อีก ส่วนเรื่องการชุมนุมในวันที่ 4 ส.ค.นี้ ตนจะต้องไปปรึกษานักกฎหมายและทนายความความว่าจะสามารถเคลื่อนไหวตามสิทธิเสรีภาพ โดยที่ไม่ขัดเงื่อนไขของศาล
ได้หรือไม่

พร้อมกันนี้ นายไชยวัฒน์ ยังกล่าวด้วยว่า ในวันที่มีการชุมนุม ตนได้เตือนมวลชนให้ชุมนุมอยู่ที่บริเวณภายนอกกระทรวง กลาโหม และชุมนุมภายในใต้กฎหมายกำหนด ขณะที่ตนมองว่า คำสั่งของศาลในวันนี้ จะเป็นบรรทัดฐานให้กับจำเลยในคดีปิดสนามบินรายอื่นๆ ว่าต่อไปจะสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างไรบ้าง

ส่วน พล.ต.จำลอง แกนนำ พธม. กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ จะเรียกประชุมแกนนำ พธม. เพื่อหารือและกำหนดท่าทีในการเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ ทางการเมือง ที่อาจจะมีผลต่อ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ในเวลา 10. 00 น. ส่วนกลุ่มพันธมิตรฯ จะเข้าร่วมด้วยในวันที่ 4 สค.นี้หรือไม่ ขึ้นอยู่การประชุมในวันพรุ่งนี้ ว่าจะมีมติเป็นอย่างไร

ขณะเดียวกัน นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ กล่าวว่า ในวันที่ 4 ส.ค.นี้ กลุ่มเสื้อหลากสีจะไปร่วมชุมนุมอย่างแน่นอน แต่จะไม่ทำอะไรที่จะผิดเงื่อนไขการประกันตัวของศาล.