ครม.ไฟเขียว มติ'กขช.'จำนำข้าวตันละ 1.5 หมื่นบาท ถึง ก.ย.นี้ ด้านนายกฯ สั่งใช้ไอที รวบรวมข้อมูลข้าว ขณะ "กิตติรัตน์" อ้างลดราคาก่อนหน้านี้ เพราะข้อมูลบกพร่อง คาด 1-2 สัปดาห์ รู้ตัวเลขจำนำฤดูถัดไป...
วันที่ 2 ก.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธีรัตถ์ รัตนเสวี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุม ครม.ว่า ครม.รับทราบตามที่คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) เสนอให้คงรับจำนำข้าวเปลือกเจ้า 100% ตันละ 15,000 บาท และรับจำนำครัวเรือนละไม่เกิน 500,000 บาท ให้มีผลถึง 15 ก.ย.และภาคใต้ 30 พ.ย.
หลังจากที่ก่อนหน้านี้ มติ กขช.วันที่ 18 มิ.ย.มีมติปรับลดราคาจำนำข้าวเหลือ 12,000 บาท ที่ประชุม ครม.ระบุว่าการปรับเปลี่ยนราคาครั้งนี้ ได้คำนึงถึง 4 สมดุล คือการสร้างความสมดุลในการดูแลเกษตรกร การดำเนินการตามกลไกตลาด การรักษาวินัยการเงินการคลัง และการดูแลเกษตรกรรายย่อย สิ่งที่ ครม.พูดอย่างกว้างขวาง คือ เมื่อฤดูกาลผลิตนี้กลับไปใช้ราคา 15,000 บาท แล้วฤดูกาลใหม่จะได้ราคาเท่าไร
ซึ่งนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ระบุว่า จะเร่งพิจารณาการกำหนดราคาของฤดูกาลผลิตหน้า เพื่อแจ้งให้เกษตรกรทราบ และสามารถวางแผนให้สอดคล้องกับราคาที่จะมีการกำหนดต่อไป
ร.ท.หญิงสุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในที่ประชุม ครม.ว่า โครงการจำนำข้าวเป็นโครงการที่มีประโยชน์และช่วยเหลือเกษตรกรได้แท้จริง และสังคมก็ยอมรับแล้วว่า รัฐบาลต้องจัดงบประมาณส่วนหนึ่งช่วยเหลือความเป็น อยู่ของพี่น้องเกษตรกรชาวนา
นายกฯ กำชับว่า การกำหนดราคารับจำนำข้าวในฤดูกาลถัดไปต้องชี้แจงต่อสังคมอย่างรวดเร็ว และต้องรักษาสมดุลกลไกต่างๆ ทั้ง 4 ปัจจัย และเห็นควรให้มีการนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือระบบคอมพิวเตอร์ออนไลน์ และกล้องซีซีทีวี มาใช้ในการรวบรวมข้อมูลเกษตรกร และผลผลิตที่นำมาเข้าโครงการจำนำข้าว เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบความโปร่งใส
นอกจากนี้ขอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการกับผู้ที่ทุจริตในโครงการจำนำข้าวอย่างจริงจัง และควรแจกแจงให้สังคมเห็นว่า เป็นความบกพร่องในส่วนของ 1.ตัวนโยบาย หรือ 2.ขั้นตอนการปฏิบัติ หรือ 3.เป็นปัญหาของตัวบุคคคล คือ ผู้ปฏิบัติงาน เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด นายกฯ ยังได้ขอให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงอุตสาหกรรม เร่งชี้แจงพื้นที่ที่จะส่งเสริมให้มีการปลูกพืชทดแทน เช่น อ้อย มันสำปะหลังและข้าวโพดโดยเร็ว และขอให้เร่งเจรจาเพื่อหาตลาดรองรับผลิตผลทางการเกษตรดังกล่าวด้วย เพื่อสร้างความมั่นใจให้เกษตรกรที่ต้องการปลูกพืชทางเลือก
ร.ท.หญิงสุณิสา กล่าวว่า ในที่ประชุม ครม.มีรัฐมนตรีหลายท่านแสดงความคิดเห็น โดยนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ระบุว่า การที่ กขช. เสนอให้ปรับเปลี่ยนมาเป็นราคาเดิมคือราคาตันละ 15,000 บาทนั้น ถือเป็นเรื่องดี เพราะเป็นการส่งสัญญาณให้ประชาคมโลก โดยเฉพาะกองทุนไอเอ็มเอฟ และกองทุนจัดอันดับของต่างประเทศเห็นว่า นโยบายดังกล่าวมีความยืดหยุ่น และ เปลี่ยนแปลงได้ ก่อนหน้านี้ ที่กขช.มีมติปรับลดราคาจำนำข้าวเหลือตันละ 12,000 บาท เป็นเพราะว่า ขณะนั้นมีข้อมูลไม่ครบถ้วนในเรื่องของจำนวนเกษตรกรและจำนวนข้าวนาปรังที่ยังไม่ได้เข้าโครงการจำนำข้าว แต่ขณะนี้ได้รวบรวมตัวเลขและข้อมูลของเกษตรกรที่จะนำข้าวสารมาเข้าร่วมโครงการฯ แล้ว พบว่า รัฐบาลยังสามารถที่จะดูแลช่วยเหลือเกษตรกรได้ในระดับราคาตันละ 15,000 บาท จึงได้ปรับมาเป็นราคาเดิมอีกครั้งหนึ่ง
ร.ท.หญิงสุณิสา กล่าวว่า นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกฯ และรมว.พานิชย์ แจ้งต่อที่ประชุมครม.ว่า จะเชิญตัวแทนชาวนาเข้ามามีส่วนร่วมในการให้ข้อมูลเรื่องการพิจารณาราคารับจำนำในฤดูกาลหน้า โดยคาดว่าจะใช้เวลา 1-2 สัปดาห์ ในการประมวลราคา เมื่อพิจารณาเรียบร้อยแล้ว ก็จะสามารถประกาศราคารับจำนำข้าวในฤดูกาลผลิตหน้าได้ทันที นอกจากนี้ จะดำเนินการเรื่องการระบายข้าวควบคู่ไปด้วย ซึ่งขณะนี้ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีกับกลุ่มผู้ส่งออกเรื่องการผลักดันข้าวสู่ตลาดแล้ว
ด้านนายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกฯ และรมช.เกษตรและสหกรณ์ได้แสดงความคิดเห็นว่า น่าจะถือโอกาสขณะที่มีการปรับเปลี่ยนราคารับจำนำข้าวชี้แจงต่อสังคมว่า กระบวนการรับจำนำข้าว มีมาหลายยุคสมัย และถูกโจมตีเรื่องความโปร่งใสมานานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นจากนโยบายของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และรัฐบาลจะเข้าไปปรับปรุงกระบวนการรับจำนำข้าวให้มีความโปร่งใสมากขึ้น เพื่อให้สังคมยอมรับ
...