จตุพร พรหมพันธุ์
จี้ตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของ คตส.แต่ละคน หลังมีข่าวลือเรื่องทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นของตัวเองและคนใกล้ชิด เชื่อเลื่อนตัดสินพระวิหารเพราะกลัวจะกระชากใจประชาชนมากเกินไป...
วันนี้(24 ก.ย.)นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย แกนนำนปช. กล่าวว่า สำหรับคดีกล้ายางที่หลายฝ่ายโจมตีการทำงานของคตส.นั้น เดิมทีที่มาของคตส.คือใช้งบ 60 ล้านบาทและตั้งธง 13 เรื่อง ถ้าหากคนที่เคยอยู่พรรคไทยรักไทยถอนตัวออกมาก่อน 23 ธ.ค. 50 คดีที่อยู่ใน คตส.จะถูกดึงเรื่องไว้ทั้งหมด อย่างนายเนวิน ชิดชอบ ย้ายข้างไป คตส.ก็กลับลำไปเป็นพยานให้ สะท้อนให้เห็นว่า คตส.เป็นแหล่งรวบรวมคนที่เป็นปรปักษ์กับระบอบทักษิณ ไม่มีจิตวัญญาณของความเสมอภาค และเป็นเครื่องมือของฝ่ายยึดอำนาจ
แกนนำ นปช.กล่าวอีกว่า อยากถาม นายกล้านรงค์ จันทิก ที่เป็นทั้ง คตส.และ ป.ป.ช.ว่า ขณะนี้มีคดีที่ดองอยู่ใน ป.ป.ช.กี่คดี เป็นของพรรคไหน ใครบ้าง กล้าเปิดเผยหรือไม่ เท่าที่ทราบคดีที่ถูกดองมากที่สุดคือของพรรคประชาธิปัตย์ ความจริงควรจะตรวจสอบบัญชีของ คตส.แต่ละคน เพราะมีข่าวลือเรื่องทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นของตัวเองและคนใกล้ชิด และน่าสนใจว่า ในกระบวนการตุลาการเหตุใดเราจึงได้ยินข่าวมาก่อนแรมเดือนว่า คดีกล้ายางมติจะออกมายกฟ้อง 8 ต่อ 1 ทำไมข่างจึงรั่วจนลิ่วล้อออกมาดีใจล่วงหน้า น่าสนใจว่าศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ทำไมถึงยกฟ้องคดีนี้เป็นคดีแรก ทั้งที่ก่อนหน้านี้ตายหมด ยกเว้นกรณี ป.ป.ช.ขอขึ้นเงินเดือนตัวเองเท่านั้น
นายจตุพร กล่าวอีกว่า กรณีที่ป.ป.ช.เลื่อนการตัดสินคดีเขาพระวิหารออกไปจากเดิมที่จะตัดสินในวันที่ 22 ก.ย.นั้น เป็นเพราะกลัวจะกระชากใจประชาชนมากเกินไป เพราะคดีกล้ายางเพิ่งตัดสินออกมาแบบนั้น ส่วนกรณีที่นายเนวิน ออกมาพูดจาทำนองจะปกป้องสถาบันทั้งน้ำตาหลังรอดคดีกล้ายางนั้น อยากถามว่า ต้องการสื่ออะไร ขอร้องอย่าเล่นบทนี้ให้มากนัก เพราะเป็นการสร้างเรื่อง ถ้าบ้านเมืองนี้มีนายเนวิน ที่จงรักภักดีก็อยู่กันไม่ได้แล้ว.
...