ประเด็นต่อประเด็น กับข้อต่อสู้คดี "เขาพระวิหาร" ในศาลโลก ระหว่างไทย-เขมร สุดระทึก ใครได้เปรียบ-เสียเปรียบ สุดท้ายจะจบลงที่ใด? ใครจะเป็นผู้ที่สมหวัง...

ข้อต่อสู้ ฝ่ายไทย (ถ้อยแถลง) คดีประสาทพระวิหาร

1. การขอตีความของกัมพูชาบิดเบือนกระบวนการของศาลฯ ไม่ใช่การขอตีความ แต่เป็นการอุทธรณ์ เพื่อให้ศาลฯ ตัดสินในเรื่องที่เคยปฏิเสธที่จะตัดสินเมื่อ 50 ปีที่แล้ว

2. พื้นที่ 4.6 ตร.กม.ที่กัมพูชาเรียกร้อง เป็นเรื่องที่ไม่เคยปรากฏในคดีเดิม เพราะต้องการนำพื้นที่ดังกล่าวไปขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก คำฟ้องของกัมพูชาไม่เข้าเงื่อนไขการขอตีความคำพิพากษาฯ ศาลฯ จึงไม่มีอำนาจรับพิจารณา กัมพูชาไม่มีอำนาจฟ้อง หรือหากศาลฯ รับพิจารณา ก็ไม่มีเหตุผลที่จะตีความฯ

3. พื้นที่ 4.6 ตร.กม.ที่กัมพูชาเรียกร้องในครั้งนี้มีขนาดกว้างกว่าพื้นที่ “บริเวณใกล้เคียง” ปราสาท ในคำพิพากษาฯ ปี 2505 ที่กัมพูชาเคยอ้างสิทธิไว้เดิม ซึ่งมีขนาดแค่ 0.35 ตร.กม.เท่านั้น

เทียบประเด็นสู้ในศาลโลก 'พระวิหาร' ใครมีโอกาสมากกว่ากัน?

4. เส้นมติ ครม.ปี 2505 ที่ไทยใช้ในการปฏิบัติตามคำพิพากษาฯ สอดคล้องกับพื้นที่ “บริเวณใกล้เคียง” ปราสาทในคำพิพากษาฯ ซึ่งกัมพูชาไม่เคยทักท้วง แสดงว่าทั้งสองเข้าใจตรงกัน จึงไม่จำเป็นต้องตีความ ทั้งคำพิพากษาฯ ปี 2505 ไม่ได้กำหนดเส้นเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา และมิได้ระบุขอบเขตของบริเวณใกล้เคียงปราสาท

...

5. แสดงให้ศาลฯ เห็นถึงความไม่ชอบมาพากลของเอกสารหลักฐานที่กัมพูชาใช้ โดย “แผนที่ภาคผนวก 1” ที่ใช้อ้างมีด้วยกันหลายชุด แผนที่ชุดที่กัมพูชายื่นต่อศาลฯ ในคดีเดิมแตกต่างจากแผนที่ชุดที่นำมาใช้ครั้งนี้ ถึงขนาดมีการนำแผนที่ที่ไทยเคยนำไปยื่นต่อศาลฯ ในคดีเดิมมาแต่งเติม

6. ไทยยืนยันได้ปฏิบัติตามมาตรการชั่วคราวที่ศาลฯ สั่งเมื่อวันที่ 18 ก.ค.2554 คือ ไม่มีเหตุปะทะบริเวณชายแดน ไม่มีการสูญเสียทั้ง 2 ฝ่าย ได้ประชุมเห็นพ้อง แก้ไขปัญหาระหว่างกัน โดยใช้ช่องทาง ผ่าน MOU ปี 2543

เทียบประเด็นสู้ในศาลโลก 'พระวิหาร' ใครมีโอกาสมากกว่ากัน?

ข้อต่อสู้กัมพูชา

1. ไม่ได้ขออุทธรณ์คดีหรือเปลี่ยนแปลงคำพิพากษาปี 2505 แต่ต้องการให้ศาลโลก ชี้ขอบเขตดินแดนกัมพูชาและบริเวณใกล้เคียงปราสาทในคำพิพากษาอยู่ตรงใดบ้าง

2. อ้างว่า คำขอของกัมพูชาเข้าเงื่อนไขของการขอให้ศาลฯ ตีความคำพิพากษาปี 2505

3. กัมพูชาเห็นว่า ศาลฯ ได้ยอมรับแล้วว่า เส้นบนแผนที่ภาคผนวก 1 ที่กัมพูชากล่าวอ้าง เป็นเส้นเขตแดนระหว่างกัมพูชากับไทย

4. กัมพูชาไม่ยอมรับการปฏิบัติตามคำพิพากษาของฝ่ายไทยเมื่อปี 2505 เป็นการตีความตามความเข้าใจของไทยฝ่ายเดียว โดยเฉพาะการล้อมรั้วลวดหนามรอบปราสาทตามมติคณะ ครม.ไทย ในตอนนั้น เมื่อวันที่ 10 ก.ค.ปี 2505

5. กัมพูชา พยายามเน้นเฉพาะแผนที่อัตราส่วน 1-2 แสน ชี้ให้ศาลโลกเห็นเพื่อลดความสำคัญของแผนที่ฉบับอื่นๆ ลง ทั้งแผนที่ D85, L7017

6. กัมพูชาแย้งว่า การไปเยือนปราสาทพระวิหารของสมเด็จนโรดมสีหนุ ไม่ใช่เป็นการยอมรับมติ ครม.ไทยปี 2505 และยังอ้างว่าพระองค์ทรงแสดงความไม่เห็นด้วยโดยตลอด ไม่ได้เป็นไปอย่างที่ฝ่ายไทยกล่าวอ้าง

เทียบประเด็นสู้ในศาลโลก 'พระวิหาร' ใครมีโอกาสมากกว่ากัน?

คำตัดสินศาลโลกมี 4 แนวทาง

1. ศาลโลกยกคำร้อง เนื่องจากศาลโลกไม่มีอำนาจในการพิจารณาคดี

2. ศาลโลกพิพากษาให้ใช้แนวเขตเดิมที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ไทย ได้คืนพื้นที่ให้กัมพูชาตั้งแต่ปี 2505

3. ศาลโลกให้ขยายเขตพื้นที่รอบตัว “ปราสาทพระวิหาร” ให้แก่กัมพูชา

4. ศาลโลกให้ใช้เส้นเขตแดนตามแผนที่ 1 ต่อ 2 แสนตารางกิโลเมตร ที่ประเทศฝรั่งเศสได้กำหนดขึ้นเอง

ซึ่งแนวทางที่เป็นผลดีต่อไทยมากที่สุด คือ แนวทางแรก รองลงมาคือแนวทางที่สอง ขณะที่ทั้งไทยและกัมพูชา ยังต้องจดจ่อรอศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกตัดสินมีคำพิพากษาคดีนี้ ในอีกประมาณ 6 เดือนข้างหน้า น่าจะเป็นช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน ปลายปีนี้ หรืออาจจะเร็วกว่านั้น

เทียบประเด็นสู้ในศาลโลก 'พระวิหาร' ใครมีโอกาสมากกว่ากัน?