“เฉลิม” แจงแก้รัฐธรรมนูญ อ้างศาลแนะให้แก้รายมาตรา เมินส.ว.ยื่นตีความ เชื่อไม่ทำขัดแย้ง ขณะสั่งกำชับตำรวจนครบาลกวดขันอาชญากรรมในกรุง ผุดแนวคิดรับคืนอาวุธปืน พร้อมจ่ายเงินชดเชย...

เมื่อวันที่ 21 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่กลุ่ม 40 ส.ว. เตรียมจะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความกรณีที่ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลและกลุ่มส.ว.บางส่วน เสนอให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญแบบรายมาตราว่า ตนไม่ห่วงว่าเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะสร้างความขัดแย้ง เพราะเป็นของดี ศาลรัฐธรรมนูญเองระบุให้แก้ไขแบบรายมาตรา พวกส.ว.ก็ปัญญาเฟื่องบอกจะไปยื่นตีความว่าขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ ศาลรัฐธรรมนูญก็บอกแล้วว่าหากจะลงมติในวาระ 3 ให้ไปทำประชามติหรือแก้ไขเป็นรายมาตรา แล้วไปร้องศาลทำไม เชื่อตนเถอะการเมืองไม่มีอะไร แก้ไข 4 รายมาตราเรียบร้อย เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าการแก้ไขมาตรา 68 เพราะต้องการไปลดทอนอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่ใช่ลดทอนอำนาจ ในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเขียนไว้แล้ว หากศาลจะรับเรื่องต้องผ่านอัยการสูงสุด ไม่ใช่ว่ารับไม่ได้ แต่ต้องเป็นขั้นตอน ถ้าใครสงสัยตนจะอภิปรายเอง

อย่างไรก็ตาม ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวถึงสถานการณ์ยาเสพติดในขณะนี้ด้วยว่า มีโรงงานยาเสพติดตั้งอยู่ที่พม่าติดชายแดนบ้านเรารัฐบาลวางกำลังถูกจุดจึงจับได้เยอะ ทำงานถูกทิศทางรู้ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง ส่วนปัญหาเรื่องสารตั้งต้นที่ยังมีการนำเข้ามาต้องยอมรับว่าแก้ลำบาก เนื่องจากขณะนี้มีการนำเข้ามาจากประเทศเวียดนาม ตนได้กำชับกับผู้ว่าราชการจังหวัด นอกจากปราบปรามแล้วให้ช่วยบำบัดรักษาเป็น มาตรการควบคู่ พร้อมทั้งจี้ผู้ว่าฯทุกจังหวัด จังหวัดไหนไม่เบิกเงิน มีการบำบัดน้อย จะสำรวจว่าเมื่อไม่มีการบำบัดรักษายังมีผู้เสพหรือไม่ โดยจะใช้มาตรการใหม่ในการนำมารายงานต่อครม. ว่าจังหวัดไหนทำงานอย่างไร แต่จะไม่มีการคาดโทษกับผู้ว่าฯ แต่จะฟ้องนายกฯ โดยน่าจะมีรอบการประเมินใน 3 เดือน

...

ตนมีแนวคิดที่จะใช้จังหวัดนำร่องในการแก้ไขปัญหายาเสพติด ซึ่งในภาคอีสาน จะใช้ จ.ขอนแก่น ส่วนการตั้งด่านเฝ้าระวังยาเสพติดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ตนขอร้องตำรวจว่าในช่วงวันที่ 12-16 เม.ย. อย่าหยุด อย่าพัก อย่าเข้าบ้าน ส่วนการดำเนินการจับกุมลูกน้องนายหน่อคำ หัวหน้าขบวนการค้ายาเสพติดชาวพม่านั้น มีรายงานว่าป่วยอยู่ที่ จ.เชียงราย ซึ่งได้สั่ง พล.ต.ท.สุเทพ เดชรักษา ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ให้ไปดูว่ามีหมายจับหรือไม่ ตนจะทำหนังสือถึงประเทศจีน เราทำเองก็ไม่มีบารมี ถ้าพม่าฟังจีนแล้วทุกอย่างก็จะดีขึ้น ตนจะใช้มาตรการใหม่ในการดำเนินคดีถ้าสอบพาดพิงถึงบุคคลในอีกประเทศหนึ่งให้ ขออนุมัติอัยการสูงสุดให้ออกตำหนิรูปพรรณหมายจับส่งสำนักเลขาธิการตำรวจสากล (อินเตอร์โพล) และส่งประเทศเขา

นอกจากนี้ ร.ต.อ.เฉลิม ยังกล่าวถึงปัญหาอาชญากรรมในเมืองว่า ตนได้กำชับกองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ให้ดูแลแล้ว ตำรวจก็จับได้เร็ว แต่เหตุเกิดเยอะ ขณะนี้บ้านเมืองพัฒนาอาวุธมีมากขึ้น หาได้ง่ายขึ้น รัฐบาลชุดที่แล้วนำเข้าปืนมาเท่าไร สมัยตนเป็น รมว.มหาดไทย ไม่เคยเซ็นอนุมัติสักกระบอก ตนกำลังคิดว่าจะรับอาวุธคืนได้หรือไม่ ออกกฎหมายอย่างไร เมื่อคืนแล้วรัฐก็ชดใช้เงินเขา.