ค่อยๆแพลมไต๋ออกมาทีละขยัก
แต่โดยลีลายึกยัก อาการเล่นแง่ที่จับทางกันได้ ล่าสุด พรรคประชาธิปัตย์โชว์มติพรรคว่าด้วยเงื่อนไขในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ถ้ามีเสียงคัดค้านจากประชาชนก็อาจต้องมีการทำประชาพิจารณ์หรือประชามติ
หากมีการแก้ไขในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับประโยชน์ของประชาชนก็ต้องเปิดช่องให้ประชาชนมีส่วนร่วม ด้วยการตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ ส.ส.ร.3
สรุปก็คือ ยื้อ ดึงเกม
ตามข่าววงใน อย่างไรเสีย ประชาธิปัตย์ก็ไม่ปล่อยให้ "หมูหลุดมือ"
โดยเฉพาะการกลับไปเลือกตั้งแบบเขตเดียวเบอร์เดียว ประชาธิปัตย์เสี่ยงกระเทือนหนักในโซนกรุงเทพมหานครและภาคกลาง โอกาสที่บรรดาผู้สมัคร "หมาหลง" ที่ต้องอาศัยคะแนนเขตเมืองชั้นใน
หนีบพวงใหญ่เข้าสภา
จะยกโขยงสอบตกเกินครึ่งต่อครึ่ง
เช่นเดียวกับผู้แทนฯระบบสัดส่วน ที่จับเอาจังหวัดภาคกลางไปรวมกับภาคใต้ จังหวัดใหญ่ภาคอีสานไปรวมกับภาคตะวันออก เอื้อเปอร์เซ็นต์ให้ประชาธิปัตย์เห็นๆ ถ้าเปลี่ยนกลับไปเป็นระบบปาร์ตี้ลิสต์ คำนวณอัตราส่วนกันทั้งประเทศ
ประชาธิปัตย์ชัวร์แค่ปักษ์ใต้ ก็เสร็จเพื่อไทยที่ปึ้กทั้งภาคอีสานกับภาคเหนือ
วัดกันตัวต่อตัว เห็นกันอยู่ว่าเหนื่อย
ยิ่งในเงื่อนไขที่วิกฤติเศรษฐกิจยังลูกผีลูกคน ผลงานไม่ปรากฏ แถมยังมีรายการโกงโผล่ออกมาประจาน ตั้งแต่ปลากระป๋องเน่ามาถึงงาบหัวคิวโครงการชุมชนพอเพียง
กระแสมีแต่ทรงกับทรุด
จนถึงชั่วโมงนี้ ยี่ห้อ "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" กับ "กรณ์ จาติกวณิช" คู่หูอ็อกซ์ฟอร์ด ก็ไม่ได้โชว์กึ๋นลบคำสบประมาท "ฝากบ้านเมืองไว้กับเด็กสองคน"
วันๆเล่นแต่บท "เด็กดื้อ" เฮี้ยวกับ "ผู้อุปการคุณ"
เอาเป็นว่า ถ้าไม่กุมสภาพความได้เปรียบในกติกาเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญฉบับหน้าแหลมฟันดำไว้ ยี่ห้อประชาธิปัตย์เหลือไม่เท่าทุนแน่
นี่แหละที่เซียนเลือกตั้งด้วยกันจับไต๋ได้
โดยการโผล่ออกมาของบรรดาขาใหญ่ม็อบพันธมิตรฯ ตั้งโต๊ะแถลงข่าวใหญ่ คำรามขู่ฮึ่มๆ ขวางลำการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในจังหวะรับมุกกันพอดี
ฉากหลังประชาธิปัตย์ สะกิดยิกเลย
"เหยียบตีนกันเล่น" โดยหมากที่พรรคร่วมรัฐบาลอ่านขาด ประชาธิปัตย์รู้เห็นเป็นใจให้ม็อบพันธมิตรฯออกมาขวางลำการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
สับขาหลอกเพื่อน
ตามสไตล์จอมเขี้ยวยี่ห้อประชาธิปัตย์ที่ไม่ต้องการแก้รัฐธรรมนูญเสียเปรียบในสนามเลือกตั้ง แต่ขณะเดียวกันก็ต้องประคองเกมยื้ออำนาจเป็นรัฐบาลให้นานที่สุด
เหมือนจะฉลาด แต่ลืมเฉลียวใจ
โดยเงื่อนไขป่วนๆที่ขาใหญ่พรรคร่วมรัฐบาลอ่านทะลุข้ามช็อตไปไกลกว่านั้น
ในท่ามกลางวิกฤตการณ์ที่กำลังล่อแหลมเสี่ยงได้เสีย ตามโปรแกรมที่กองทัพแดงนัดรวมพลใหญ่ ระลึกวันรัฐประหาร 19 กันยายน เป่านกหวีดเกณฑ์พลล้อมบ้านสี่เสาเทเวศร์ของ "ป๋าเปรม" พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ
เผาหัวรอโหมไฟ ล้มเดิมพัน
แค่รับมือกองทัพแดง รัฐบาลก็เจียนอยู่เจียนไป
ประชาธิปัตย์ดันยืมมือพันธมิตรฯ สะกิดม็อบเสื้อเหลืองให้ออกมาเป็น "นายหน้า" ขวางลำการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หวังแค่เล่นเกม "สับขาหลอก" พรรคร่วมรัฐบาล
งานนี้ "อภิสิทธิ์" เตรียมเก็บของลงกระเป๋าได้
โดยสถานการณ์ม็อบแดงตั้งท่ากลับมาทวงแค้น อารมณ์ค้างจากที่พลาดท่าศึกใหญ่เดือนเมษายน ประจันหน้ากับม็อบเหลืองที่ได้ "ธง" ขยับออกมาเคลื่อนไหว รับบทเป็น "นายหน้า" ถูกปลุกออกมาขวางลำการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
กับภาพที่เห็นนิมิตได้ล่วงหน้า พันธมิตรฯกับ นปช.ล่อกันนัว
ถึงนาทีนั้นก็ถือเป็นภารกิจอันชอบธรรมของ "บิ๊กบราเธอร์" สีเขียวตัวจริงเสียงจริง ที่จะเข้ามาใช้อำนาจพิเศษเคลียร์สถานการณ์ รวบทั้งสองฝ่าย
เข้าทาง "บูรพาพยัคฆ์".
ทีมข่าวการเมือง รายงาน
...