ปชป.จัดสัมมนากรรมการบริหาร-ส.ส.ที่หัวหิน "เฉลิมชัย ศรีอ่อน" คุยฟุ้งเลือกตั้งครั้งหน้านำ "อภิสิทธิ์" กลับมาเป็นนายกฯ ลั่นไม่ทิ้งคนทำงาน ท้าเพื่อไทย ประชามติไม่ถึง 15 ล้าน...
วันที่ 18 ธ.ค. ที่ โรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พรรคประชาธิปัตย์ จัดการสัมมนากรรมการบริหารพรรค และ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ โดยนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวเปิดการสัมมนาตอนหนึ่งว่า ขอบคุณสมาชิกทุกคนที่ร่วมกันทำงาน โดยเฉพาะการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมา ที่ทำให้ประชาชนเห็นว่า รัฐบาลชุดนี้มีการทุจริต และ ส.ส.ที่ทำงานพื้นที่ ฐานเสียงของพรรค เราเดินไปข้างหน้าเพื่อเป็นความหวังของประเทศ
ขณะนี้ สังคมกำลังเข้าสู่ขั้นวิกฤติ ความเป็นนิติรัฐ ในบ้านเมืองแทบหาไม่ได้ อย่างกรณี นายราเมศ ทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ ถูกทำร้าย หวังผลถึงชีวิต บอกว่า พรรคประชาธิปัตย์กำลังถูกคุกคาม เราจึงต้องใช้ความสามัคคี และพลังของทุกคนในการชนะปัญหา ตนไม่เชื่อว่า อธรรมจะชนะธรรมะ ยืนยันว่า พรรคไม่ทอดทิ้ง นายราเมศ จะช่วยเหลืออย่างเต็มที่ และเชื่อว่า สาเหตุเรื่องนี้มาจากเรื่องการเมืองแน่นอน ผบช.น.ที่คุยว่าเก่งนักเก่งหนา และ ผบ.ตร.ต้องรับผิดชอบ หากปล่อยให้เป็น บ้านป่าเมืองเถื่อนอย่างนี้ ประเทศจะลุกเป็นไฟ
นายเฉลิมชัย กล่าวต่อว่า พรรคแบ่งทำงานเป็นทีมมากขึ้น เตรียมจะฟื้นสาขาพรรคที่เป็นจุดแข็งของพรรค รวมทั้งงานกิจการเยาวชน ที่มีนายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรค รับผิดชอบดูแล เพื่อสร้างฐานของพรรคในอีก 5-20 ปี จึงเป็นภาระหนักของทุกคน
ทั้งนี้ การบริจาคเงินของประชาชน ร่วมบริจาคภาษีผ่านหมายเลข 001 ที่ได้มากขึ้น ซึ่งถือเป็นเงินประชาชนที่มาดูแลพรรค เป้าหมายสำคัญต่อไปคือ การเลือกตั้งซ่อมที่เขต 2 จ.ชลบุรี ในวัน 6 ม.ค.56 นี้ ขอให้ทุกคนช่วยกัน เพราะมีโอกาสชนะสูง รวมถึงการทำประชามติ เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ไม่มีใครอยากเซ็นเช็คเปล่า ให้คนไปแก้รัฐธรรมนูญ และไม่รู้ว่า มีคุณธรรมแค่ไหน ขอให้รอดูการทำประชามติ ที่รัฐบาลคุยว่ามี 15 ล้านเสียง เชื่อว่า จะเหลือไม่ถึงแน่นอน ส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ที่เคยมี 11 ล้านเสียง จะเพิ่มมากขึ้นแน่ ระยะห่างของทั้ง 2 พรรค ไม่มากอย่างที่คิด ถ้ารัฐบาลแน่จริง ก็ขอให้บริหารประเทศอย่างนี้ต่อไป
นายเฉลิมชัย กล่าวต่อว่า ขอให้ทุกคนเตรียมพร้อม ในการรักษาและทำพื้นที่ ขอให้เราเข้าสู่โหมดการเลือกตั้งเพราะไม่รู้ว่า อะไรจะเกิดขึ้น เชื่อว่า ที่พรรคเพื่อไทย คุยโวว่า การเลือกตั้งครั้งหน้าจะได้ 250 เสียง หากยังบริหารเช่นนี้ต่อ คงเหลือแค่ 220 เสียง ก็เก่งแล้ว เพราะคนไทยรู้แล้วว่า อะไรดี อะไรชั่ว การสัมมนาต่อจากนี้ จะเป็นการกำหนด แนวนโยบาย ยุทธศาสตร์ของพรรค เพราะเราต้องเตรียมพร้อมที่จะต่อสู้ ยืนยันว่า ตนจะทำงานให้ดีที่สุด เพื่อช่วยให้พรรคไปสู่เป้าหมายอย่างที่ตั้งใจ และหัวหน้าพรรคกลับจะมาเป็นนายกอีกครั้ง
จากนั้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เราต้องเตรียมตลอดสำหรับการเลือกตั้ง แม้ว่าการต่อสู้ จะชัดเจนมากว่า เป็นการต่อสู้ของสองฝ่าย ที่มีค่านิยมและอุดมการณ์ที่แตกต่าง กันโดยสิ้นเชิง และยังเป็นการต่อสู้ ที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานสากลที่เคารพ หลักนิติรัฐ นิติธรรม ที่ไม่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้แสดงความคิดได้
...
เมื่อมีความเห็นแตกต่างจากผู้มีอำนาจก็สุ่มเสี่ยงต่อการคุกคามและการใช้ความรุนแรง การพูดว่า แก้ไข ไม่แก้แค้น ได้ยินจากนายกรัฐมนตรีเป็นระยะๆ แต่ 1 ปีที่ผ่านมา แต่ไม่เห็นทำได้สักเรื่อง อย่าว่า แต่พรรคประชาธิปัตย์ องค์กรตรวจสอบภาคเอกชน สื่อมวลชนก็ไม่อาจเล็ดลอดไปได้ พยายามเอาเป็นพวก เอาเป็นพวกไม่ได้ ก็เล่นงาน
เหตุการณ์กรณี นายราเมศ เป็นการตอกย้ำว่า คนที่เห็นต่างกับคนที่มีอำนาจ สุ่มเสี่ยงกับปัญหาถูกคุกคาม ใช้ความรุนแรง ฉะนั้น คำพูดที่ว่าแก้ไข ไม่แก้แค้น แม้แต่องค์กรที่ทำหน้าที่เป็นกลาง ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบหรือแม้กระทั่ง องค์กรสื่อ องค์กรเอกชน ไม่มีใครเล็ดลอดไป จากการที่ผู้มีอำนาจในขณะนี้ พยายามเอื้อมมือเข้าไป ถ้าเอามาเป็นพวกไม่ได้ ก็เล่นงานเต็มที่
เหมือนกับที่เพื่อน ส.ส. เรา ที่หลายพื้นที่ ก็พูดชัดเจนว่า หากเจรจากันไม่ได้ ก็มาไล่บี้กันเต็มที่จึงขอเป็นกำลังใจให้พวกเรา อย่าให้พวกเราตกใจ ผีมันไม่หลอกคนที่ไม่กลัว รัฐบาลก็น่าจะฉลาดกว่าผี อย่ามาเสียเวลากับพวกเราเลย พวกเราไม่กลัว และถ้ายิ่งทำ ก็จะมีคนไม่กลัวมากขึ้นในแผ่นดินนี้ ถ้าเราปรับตัวให้เห็นว่า เราไม่กลัว ฉะนั้นขอให้เรามีกำลังในการต่อสู้