ศาลปกครองสั่ง กทม. จ่ายค่าสินไหมทดแทนญาติผู้ตายและผู้เสียหายเหตุเพลิงไหม้ "ซานติก้า ผับ" 31 ธ.ค.51 อีก 12 ราย รวมค่าเสียหายกว่า 3 ล้านบาท
วันที่ 31 ต.ค. ศาลปกครองกลาง โดย นายชวลิต ลาภผล ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองกลางและคณะ ออกบัลลังก์อ่านคำพิพากษา กรุงเทพมหานคร (กทม.)ในคดีหมายเลขดำที่ 2115/2552 ที่ นางเอสเตอร์ เยียน เชน เลาพิกานนท์ มารดาของนายมาร์ค เลาพิกานนท์ เหยื่อผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ไฟไหม้สถานบันเทิงซานติก้าผับ เมื่อคืนวันที่ 31 ธ.ค.2551 กับพวกซึ่งเป็นญาติของเหยื่อและเหยื่อในเหตุการณ์ดังกล่าว รวม 12 คน ยื่นฟ้อง กทม.ว่ากระทำละเมิดและไม่ควบคุมดูแลสถานบริการซานติก้า ผับ ย่านเอกมัย เป็นเหตุให้เกิดเพลิงไหม้ จนเป็นเหตุให้ผู้ฟ้องคดีทั้ง 12 คน ได้รับความเสียหาย
...

โดยพิพากษาให้ กทม. ต้องรับผิดชอบใช้ค่าสินไหมทดแทน ให้แก่ผู้ฟ้องคดีทั้ง 12 คน ตาม มาตรา 5 ของพ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่รัฐ พ.ศ.2539 รวมเป็นเงินประมาณ 3,405,235 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษาเป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จสิ้น
ทั้งนี้ภายในกำหนด 30 วัน นับแต่มีคำพิพากษาถึงที่สุด เนื่องจากพิจารณาแล้วเห็นว่า ผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจในการออกใบอนุญาต ตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคารฯ ย่อมต้องทราบหรือควรจะทราบว่า อาคารที่ใช้เป็นสถานบันเทิง “ซานติก้า ผับ” ทำการก่อสร้างและดัดแปลงผิดไปจากแบบแปลนที่ได้รับอนุญาต แม้ภายหลัง ผู้ถูกฟ้องคดีได้มีการแจ้งความดำเนินคดีกับ นายคริษฐ์ พงศ์พิทยะ แต่เป็นการแจ้งความร้องทุกข์หลังเกิดเหตุ
กรณีนี้จึงถือได้ว่า ผู้ว่าฯ กทม. ละเลยต่อหน้าที่ที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติและก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ฟ้องคดีทั้ง 12 คน อันเป็นการกระทำละเมิดต่อผู้ฟ้องคดีทั้ง 12 คน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ อย่างไรก็ตาม แม้ศาลจะเห็นว่าเหตุดังกล่าวเป็นผลมาจากการละเลยการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ว่าฯกทม. แต่ก็ยังมีพฤติการณ์และความร้ายแรงน้อยกว่าการกระทำของเจ้าของอาคารที่ทำการดัดแปลงและใช้อาคารโดยผิดกฎหมายและบุคคลที่จุดดอกไม้เพลิงที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้ จึงเห็นควรให้กทม. ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้กับผู้ฟ้องคดีทั้ง 12 รายเป็นจำนวนร้อยละ 20 ของค่าเสียหายทั้งหมด

สำหรับผู้ฟ้องคดีที่ได้รับเงินสินไหมชดเชย ทั้ง 12 คน มีดังนี้ ผู้ฟ้องที่ 1 นางเอสเตอร์ เยียน เชน เลาพิกานนท์ มารดาของนายมาร์ค เลาพิกานนท์ ผู้ตาย ได้รับเงินค่าสินไหมทดแทนเป็นเงินจำนวน 140,000 บาท ผู้ฟ้องคดีที่ 2 นางมุ้ยเกียง ถนอมปัญญารักษ์ มารดาของ น.ส.วิภาวรรณ ถนอมปัญญารักษ์ ผู้ตาย ได้รับเงินค่าสินไหมทดแทนเป็นเงินจำนวน 68,000 บาท ผู้ฟ้องคดีที่ 3 นายสนธยา บุญพรม บิดาของนายเฉลิมชนม์ บุญพรม ผู้ตาย ได้รับเงินค่าสินไหมทดแทนเป็นเงินจำนวน 308,000 บาท, ผู้ฟ้องคดีที่ 4 นายศักดิ์สิทธิ์ เทียนทอง บิดาของ น.ส.วริฉัตร เทียนทอง ผู้ตาย ได้รับเงินค่าสินไหมทดแทนเป็นเงินจำนวน 236,000 บาท ผู้ฟ้องคดีที่ 5 น.ส.มัทริน อยู่โต บุตรสาวของนายต่อศักดิ์ อยู่โต ผู้ตาย ได้รับเงินค่าสินสินไหมทดแทนเป็นเงินจำนวน 128,000 บาท ผู้ฟ้องคดีที่ 6 นางพนิดา โพธิ์ศรี ภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของนายอาทิตย์ ปฐมานุรักษ์ ผู้ตาย ได้รับเงินค่าสินไหมทดแทนเป็นเงินจำนวน 740,000 บาท
ผู้ฟ้องคดีที่ 7 น.ส.ธนัชชา สุนทรชัย ผู้ได้รับบาดเจ็บ ได้รับเงินค่าสินไหมทดแทนเป็นเงินจำนวน 191,570 บาท ผู้ฟ้องคดีที่ 8 น.ส.ปรียานุช พึงลำภู ผู้ได้รับบาดเจ็บ ได้รับเงินค่าสินไหมทดแทนเป็นเงินจำนวน 250,888 บาท ผู้ฟ้องคดีที่ 9 น.ส.กาญจนา นาคขวัญ ผู้ได้รับบาดเจ็บ ได้รับเงินค่าสินไหมทดแทนเป็นเงินจำนวน 279,306 บาท ผู้ฟ้องคดีที่ 10 น.ส.ศศินันท์ ชาญการไถ ผู้ได้รับบาดเจ็บ ได้รับเงินค่าสินไหมทดแทนเป็นเงินจำนวน 550,600 บาท ผู้ฟ้องคดีที่ 11 นายวราวุธ นาคพัฒน์ ผู้ได้รับบาดเจ็บ ได้รับเงินค่าสินไหมทดแทนเป็นเงินจำนวน 263,048 บาท และผู้ฟ้องคดีที่ 12 น.ส.รัตนา แซ่ลิ้ม ผู้ได้รับบาดเจ็บ ได้รับเงินค่าสินไหมทดแทนเป็นเงินจำนวน 249,823 บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ ศาลปกครองเคยมีคำพิพากษาให้กทม. รับผิดชอบใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ไฟไหม้สถานบันเทิงซานติก้า ผับ ตาม มาตรา 5 ของพ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่รัฐ พ.ศ.2539 ในอัตราร้อยละ 20 ของค่าเสียหายทั้งหมด ไปแล้ว 6 คน เป็นเงินประมาณ 1,107,680 บาท ได้แก่ ครอบครัวนายกริช ณรงค์ เป็นเงิน 312,080 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ 28 ธ.ค.2552 ภายใน 60 วัน นับแต่คดีถึงที่สุด ครอบครัวนายกริช ณรงค์ เป็นเงิน 312,080 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ 28 ธ.ค. 2552 ภายใน 60 วัน นับแต่วันที่คดีถึงที่สุด ครอบครัว น.ส.ภัชรีย์ คุ้มผล เป็นเงิน 212,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่คดีถึงที่สุด ครอบครัว น.ส.พรรณทิพา บัวมาก เป็นเงิน 140,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค.2552 ภายใน 30วัน นับแต่วันที่คดีถึงที่สุด ครอบครัวนายทรงพล หวังทวีวงศ์ เป็นเงิน 312,080 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค.2552 ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่คดีถึงที่สุด ครอบครัวน.ส.วัลยา ซำคง เป็นเงิน 140,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่คดีถึงที่สุด และครอบครัวนายปุณณรัตน์ แสนเมืองชิน เป็นเงิน 139,600 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่คดีถึงที่สุด