ปชป. บี้ประธานสภาฯ อย่าถ่วงเวลา เร่งส่งเรื่อง "ยงยุทธ" ให้ศาล รธน.พิจารณา พร้อมจี้นายกฯ แสดงจุดยืน "บิ๊กโอ๋" รับได้จำนำข้าวทุจริต 20% ข้องใจข้าวล้านตัน ถูกใช้เวียนเทียนหรือไม่ แนะรัฐยุติโครงการทันที...
วันนี้ (7 ต.ค.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ แถลงเรียกร้องให้นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร รีบนำคำร้องของ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กรณีขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติการเป็น ส.ส.ของนายยงยุทธ วิชัยดิษฐอดีตรองนายกฯ และรมว.มหาดไทยส่งศาลรัฐธรรมนูญว่า หลังจาก ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ยื่นคำร้องแล้ว แต่นายสมศักดิ์ยังมีท่าทีว่าจะไม่ส่งคำร้องดังกล่าวไปให้ศาลรัฐธรรมนูญ โดยอ้างว่านายยงยุทธได้ลาออกไปแล้ว ทั้งที่ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 91 ระบุให้ประธานสภามีหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้องของคำร้องและส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาเท่านั้น ไม่ได้มีหน้าที่เป็นผู้พิจารณาว่าจะส่งหรือไม่ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด ดังนั้นนายสมศักดิ์จึงไม่ควรเก็บคำร้องนี้ไว้ แต่ควรทำตามรัฐธรรมนูญกำหนด โดยการส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้พิจารณารับวินิจฉัยเรื่องหรือไม่อย่างไร
...
นายองอาจ กล่าวต่อถึงกรณีที่ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ออกมายอมรับว่า มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลถึง 20% ว่า เป็นเรื่องที่น่าละอาย ที่คนระดับรัฐมนตรีจะออกมายอมรับว่า ให้มีการทุจริตในโครงการดังกล่าวได้ แต่คนที่น่าละอายยิ่งกว่าน่าจะเป็น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพราะครั้งหนึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ เคยร่วมรณรงค์ต่อต้านการคอรัปชัน แต่เมื่อรัฐมนตรีในรัฐบาลตัวเองออกมายอมรับเรื่องการทุจริตจำนำข้าวสูงถึง 20% ของงบประมาณที่ใช้ในโครงการได้ นายกฯ ควรแสดงจุดยืนให้ชัดเจนว่า จะจัดการเรื่องนี้อย่างไร เพื่อไม่ให้มีการทุจริต ทั้งนี้ไม่ควรมองว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพียงการทุจริตของเจ้าหน้าที่ระดับปลายแถวเท่านั้น เพราะการทุจริต โกงในโครงการนี้มีความไม่ชอบมาพากลมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ เมื่อคำนวณงบประมาณแล้ว พบว่าโครงการนี้มีการใช้งบประมาณปี 54-55 ประมาณ 3.46 แสนล้านบาท และปี 55-56 อีก 4.05 แสนล้านบาท ดังนั้นหากคิดเป็นการทุจริต 20% ของงบประมาณทั้ง 2 ปี จะเท่ากับ 150,200 ล้านบาท ดังนั้นถือเป็นเรื่องใหญ่ที่นายกฯ ต้องแสดงจุดยืนให้ชัดเจน
นายองอาจ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ตนทราบว่ามีตัวแทนของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) ออกมายอมรับต่อคณะกรรมาธิการสภาฯ ชุดหนึ่งว่า ขณะนี้เงินที่ใช้ในการจำนำข้าวหมดแล้ว แม้ในส่วนของ ธ.ก.ส.เอง จึงไม่มีเงินจ่ายให้ชาวนาที่เข้าโครงการ ถือแต่ใบประทวนแบกรับดอกเบี้ยหนี้สิน จึงอยากทราบว่านายกฯ รู้ข้อมูลนี้หรือไม่ และจะทำอย่างไรกับเงินในโครงการที่ใช้หมดไปแล้ว ขณะที่ข้าวยังขายไม่ได้ตามที่คาดหวัง นอกจากนี้ยังทราบว่ากรณีที่องค์การค้าต่างประเทศมีหนังสือไปที่กรมการค้าข้าว เพื่อขอเบิกข้าว 1 ล้านตัน โดยอ้างว่าจะนำไปส่งออกในลักษณะรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) นั้น ก็ไม่น่าเป็นความจริง เพราะในขณะนี้ยังไม่มีตัวเลขการส่งออกข้าวดังกล่าวเลย จึงอยากให้กระทรวงพาณิชย์ออกมาตอบสังคมว่า ข้าว 1 ล้านตันที่ขอเบิกไปนั้น เวลานี้ไปอยู่ที่ไหน เป็นไปได้หรือไม่ว่า ข้าวดังกล่าวจะถูกเวียนเทียนกลับมาใช้ในโครงการจำนำข้าวอีก
นอกจากนี้ ยังมีข่าวว่าในการประมูลขายข้าวหอมมะลินั้น ผู้ชนะการประมูลยังไม่ยอมมารับข้าว เพราะทราบภายหลังว่าข้าวที่ประมูลได้มีคุณภาพต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน นี่คือเหตุผลว่า ทำไมโครงการจำนำข้าวของรัฐบาลจึงมีปัญหาและสร้างปัญหาตามมามากมาย และยังจะสร้างปัญหาอื่นที่จะตามมาในอนาคตอีก โดยรัฐบาลไม่มีสิทธิ์เอาเงินแผ่นดินที่ได้จากภาษีประชาชนไปให้ใครเพื่อประโยชน์เฉพาะหน้า แต่ควรคำนึงถึงความเสียหายของส่วนรวม ของชาติที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพราะที่สุดผลกระทบก็ต้องตกมาถึงประชาชนคนในชาติ จึงถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลต้องยอมรับความจริงแล้วรีบหาทางยุติปัญหาโครงการจำนำข้าวของรัฐบาลนี้