นายกรัฐมนตรี ยืนยัน ถูกตัดต่อคลิปเสียงสลายม็อบเสื้อแดงเมื่อเดือนเม.ย. เพื่อให้ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ  ลั่นไม่เคยสั่งการ เตรียมดำเนินการให้ประชาชนทราบข้อเท็จจริง ...

เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (27 ส.ค.) ที่โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานมอบรางวัลแสดงความยินดีกับศูนย์บริการธุรกิจกรุงเทพของบริษัทเอ็กซอนโมบิล จำกัด โดยมีนายแดเนียล อี. ไลออนส์ ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัทเอ็กซอนโมบิล จำกัด ให้การต้อนรับ ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ ได้ใช้เวลากล่าวปาฐกถา และมอบรางวัลดังกล่าวประมาณ 30 นาที

จากนั้น นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ ถึงกรณีที่มีการเผยแพร่คลิปเสียงของ นายอภิสิทธิ์ ที่มีเนื้อหาเป็นการพูดของ นายอภิสิทธิ์ ระบุให้ทหารสร้างสถานการณ์ระหว่างการชุมนุมของคนเสื้อแดง เพื่อเป็นเหตุผลในการประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินทางอินเตอร์เน็ต ว่า ตนเพิ่งได้ฟังคลิปเสียงเมื่อคืนที่ 26 ส.ค. ชัดเจนว่าเป็นการตัดต่อ และพร้อมที่จะพิสูจน์ว่าเป็นการตัดต่อ คนที่ทำมีเจตนาที่จะทำร้ายบ้านเมืองอย่างชัดเจน เพื่อยั่วยุให้เกิดความเข้าใจผิดให้เกิดความรุนแรง และถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย เพราะเป็นการใช้เทคโนโลยีในการตัดต่อและมีการเผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ต ซึ่งเป็นการกระทำผิดกฎหมายทางด้านคอมพิวเตอร์

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ตนอยากจะขอเตือน เพราะว่าหลายคนอาจจะไม่มีเจตนา หากมีการส่งคลิปดังกล่าวต่อๆ ไป จะเป็นความผิดตามกฎหมายด้วย ตนขอยืนยันคนที่รู้จักกับตนทราบดีว่า นโยบายที่ตนใช้แก้ปัญหาการชุมนุมความไม่สงบต่างๆ อยู่บนหลักกฎหมายการเคารพเสรีภาพอย่างชัดเจน และเหนือสิ่งอื่นใด โดยส่วนตัวไม่เคยต้องการเห็นการทำร้ายใครทั้งสิ้น นอกจากการที่จะดำเนินการตามกฎหมายโดยเฉพาะอย่างยิ่งต้นตอและคนที่ใช้คลิปนี้เผยแพร่ไม่ว่าวัตถุประสงค์อะไรก็ตาม เช่น ทำให้เกิดความวุ่นวายมากขึ้นก็ดี หรือจะช่วยเหลือคดีให้กับคนที่ตนฟ้องอยู่ก็ดีก็อยากจะเตือนว่าเรื่องนี้เป็นการกระทำผิดกฎหมายจะต้องถูกดำเนินการ

...

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯ จะทำความเข้าใจกับประชาชนในเรื่องนี้ต่อไปอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขอบคุณที่ให้โอกาสตนทำความเข้าใจ เบื้องต้นตรงนี้ถ้าจะมีการกรุณาเผยแพร่คำสัมภาษณ์ของตนอย่างเต็มที่ แต่จะทำความเข้าใจอย่างต่อเนื่องและถ้าพิสูจน์ได้ หลายคนคงต้องรับผิด เพราะพอทราบเหมือนกันว่าหลายคนที่เผยแพร่เกี่ยวข้องอยู่กับพรรคการเมืองบ้าง ขณะนี้ตนกำลังดูข้อกฎหมายอยู่ เพราะมีกฎหมายเฉพาะอยู่ ที่จริงมีที่อยู่ของคนที่ปล่อยคลิปเป็นคนแรกตามลูกโซ่ แต่ว่าต้องไปตรวจสอบและให้ความเป็นธรรมกับเขา

เมื่อถามว่า จะติดตามหาคนตัดต่อคลิปหรือจะเอาแค่คนที่อยู่เบื้องหลัง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จับได้ก็ยิ่งดี เพราะเป็นเรื่องซึ่งต้องไม่ให้เกิดขึ้นไม่ว่าจะกับใครก็ตามเมื่อถามว่า มองการปล่อยคลิปเสียงดังกล่าวในช่วงที่จะมีการชุมนุมใหญ่ของคนเสื้อแดงอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงเป็นเจตนาชัดเจนที่ต้องการให้เกิดความเข้าใจผิดเพื่อเป็นการยั่วยุให้เกิดความเกลียดชัง ให้เกิดปัญหามากขึ้น และตนจะนัด พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.มาคุย เพราะ ผบ.ตร.ต้องไปทำความเข้าใจกับผู้ที่ชุมนุมโดยเฉพาะซึ่งตนอยากให้ไปเจรจาเงื่อนไขของการชุมนุมเพื่อให้ทุกฝ่ายสบายใจเพื่อไม่ให้มีความรุนแรงเกิดขึ้น

เมื่อถามต่อว่า เป็นห่วงหรือไม่ที่จะมีการนำคลิปเสียงดังกล่าวไปเปิดบนเวทีชุมนุมของคนเสื้อแดง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า "ถ้าเวทีคนเสื้อแดงทำ เนื่องจากขณะนี้ผมบอกชัดเจนว่า เป็นการตัดต่อก็แสดงว่ามีการเจตนาก็จะมีความผิดด้วย" เมื่อถามว่า จะคุยกับ ผบ.ตร. เรื่องคลิปเสียงด้วยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถ้ามีโอกาสก็จะคุย เพราะตนจะมุ่งในเรื่องที่จะให้ไปพูดคุยกับผู้ชุมนุมเพื่อไม่ให้เกิดปัญหากัน

"ผมเข้าใจว่าเป็นเสียงของผม ผมก็ฟังดูสังเกตว่าเสียงอื่นๆ ข้างหลังระดับเสียงมันไม่เท่ากัน เพราะผมไม่เคยพูดอะไรอย่างนั้นอยู่แล้ว ผมไม่อยากจะเชื่อว่าใช้วิธีการที่สกปรก และเป็นวิธีการที่ทำให้เกิดความวุ่นวายความรุนแรงในบ้านเมือง ผมคิดว่าอยากจะดำเนินการทางกฎหมายกับคนที่ทำ" นายกรัฐมนตรี กล่าว

เมื่อถามว่า เหมือนกับว่าจะยิ่งมีความพยายามทำลักษณะใต้ดินอย่างนี้ไปเรื่อยๆ หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อันนี้เป็นตัวฟ้องว่าถ้าคนที่ทำไปเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนที่ชุมนุม ก็อยากจะเรียนกับผู้ชุมนุมว่า วิธีการอย่างนี้ ไม่ใช่ประชาธิปไตย การใส่ความ การตัดต่อการพยายามที่จะสร้างเงื่อนไขเพื่อนำไปสู่ความรุนแรงไม่ใช่ประชาธิปไตย หวังว่าผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ แต่ใครที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ต้องรู้ว่าตัวเองไม่ใช่นักประชาธิปไตยและทำผิดกฎหมาย

เมื่อถามว่า ยังอยู่ในวิสัยของรัฐบาลจะรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ได้ขอความกรุณาช่วยเผยแพร่ข้อเท็จจริงด้วย เมื่อถามว่า จะสั่งการไปยังกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ (ไอซีที) เข้ามาดำเนินการหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไอซีทีคงเกี่ยวน้อยเพราะว่าการผลิตคงไม่ยาก จนเกินไปในเรื่องการตัดต่อ และการส่งอีเมล์ต่อๆกันไม่ยากอยู่แล้ว แต่มีความผิดที่ระบุชัดเจนตามกฎหมาย และของที่ผิดกฎหมายใครไปส่งต่อต้องผิดกฎหมาย

ต่อข้อถามถึงกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ในฐาน ผอ.ศูนย์รักษาความสงบเรียร้อย เรียกประชุมวางแผนรับมือการชุมนุมที่กองบัญชาการกองทัพบก นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนได้คุยสั้นๆ เรื่องนี้กับนายสุเทพแต่ยังไม่มีอะไรเป็นพิเศษ ต่อมาเวลา 10.30 น.นายอภิสิทธิ์ ได้เรียกเข้าพบที่ห้องรับรองนายกรัฐมนตรี ชั้น 2 อาคารรัฐสภา 1 เพื่อหารือเกี่ยวกับการเจรจากับผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงและอาจจะหารือเกี่ยวกับการเผบแพร่คลิปเสียงดังกล่าวเป็นการเร่งด่วน

ด้าน นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ยังไม่เห็นคลิป หรือ ข้อความที่ระบุว่า นายกรัฐมนตรีสั่งการทหาร ให้ใช้ความรุนแรง เพื่อให้เกิดความชอบธรรมในการประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่ขอรับประกันว่า นายกรัฐมนตรีไม่ใช่คนอย่างนั้น เพราะตนรู้จักมานาน ซึ่งไม่ได้รู้สึกแปลกใจกับการปล่อยคลิปดังกล่าว เพราะเชื่อว่าเป็นวิธีการหนึ่งในหลายวิธีที่ทำมาตลอดเวลา เพื่อสร้างสถานการณ์ และเงื่อนไขให้เกิดเหตุการณ์วุ่นวาย และตนคิดว่าคนที่ทำเรื่องนี้คงไม่ได้สนใจอะไร และคงทำได้ทุกอย่าง รวมถึงสามารถโกหกได้ เพื่อทำลายความน่าเชื่อถือ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี จะต้องอธิบายให้ชาวบ้านทราบว่าความจริงคืออะไร ซึ่งอาจจะต้องเหนื่อยในการชี้แจง

“ผมว่าคนส่วนใหญ่น่าจะเข้าใจ แม้ไม่ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม รัฐบาลควรจะชี้แจง โดยเฉพาะท่านนายกฯ มันไม่มีทางเป็นไปได้ สำหรับท่านนายกรัฐมนตรีที่จะพูดอะไรหยาบคาย หรือพูดอย่างนั้น อย่าว่าแต่ชีวิตการเมืองเลย ชีวิตธรรมดาทั่ว ๆ ไป เราก็ไม่เคยได้ยิน” นายชวน กล่าว

เมื่อถามว่าผู้ที่ดำเนินการในเรื่องนั้นได้เป็นคนระดับไหน นายชวน กล่าวว่า ก็ระดับคน และว่าสถานการณ์การเมืองที่เริ่มรุนแรงมากขึ้น เพราะตัวบุคคล ซึ่งอาชีพนักการเมืองก็เหมือนกับอาชีพอื่น ขึ้นอยู่กับตัวบุคคล อย่าเหมาหรือคิดว่าจะดีหมดทุกคน หรือเลวร้ายหมด