“พะจุณณ์”เผย“ป๋าเปรม”ไม่หวั่นม็อบแดงแต่งชุดดำไว้อาลัย ยอมรับไปทำบุญที่โคราช “อนุพงษ์” หวั่นเหตุร้ายจัดทหาร 21 กองร้อยสนับสนุนตำรวจดูแลม็อบ มทภ.1 เผยเพิ่มทหาร รปภ.บ้านสี่เสา...

เมื่อเวลา 17.00 น.ที่ผ่านมา(26 ส.ค.)ที่กองบัญชาการกองทัพบก นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี  ด้านความมั่นคง เรียกประชุมเตรียมโครงสร้างการจัดกำลังพลของศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย ทั้งนี้ที่ประชุมหารือถึงร่างคำสั่งที่จะประกาศหากมีเหตุการณ์รุนแรงที่จะ ใช้กำลังเจ้าหน้าที่และประกาศใช้ข้อบังคับในพระราชบัญญัติการรักษาความ มั่นคงภายในราชอาณาจักรในพื้นที่เขตดุสิต เพื่อที่จะหารือกับนายกรัฐมนตรีในวันที่ 28 ส.ค.นี้ โดยมีผู้ร่วมประชุมอาทิ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เสนาธิการทหารบก ในฐานะเลขานุการ กอ.รมน. พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ซึ่งที่ประชุมมีการประเมินสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงในวันที่ 30 ส.ค.นี้ด้วยโดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั้วโมง 30 นาที

พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวถึงการจัดกำลังทหารไปดูแลรักษาความสงบเรียบร้อนบริเวณบ้านพัก พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษและทำเนียบรัฐบาลว่า ตามปกติการรักษาความปลอดภัยบ้านพัก พล.อ.เปรม นั้นกองทัพภาคที่ 1 จัดกำลังเข้าไปดูแลตลอดเวลา แต่ในสถานการณ์เช่นนี้ได้เพิ่มจำนวนทหารเข้าไปอีกจำนวนหนึ่ง แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าเพิ่มเท่าไร เพราะอาจกระทบต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้คิดว่าเหตุการณ์ไม่น่าจะมีความรุนแรง เจ้าหน้าที่จะดูแลสถานการณ์ได้ ส่วนการรักษาความสงบเรียบที่ทำเนียบรัฐบาล ขณกองทัพภาคที่ 1 ยังไม่ได้รับคำสั่งจากผู้รับผิดชอบตามการประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง ให้จัดกำลังเข้าไปควบคุมซึ่งหากมีคำสั่งก็พร้อมจะจัดกำลังเข้าไปสนับสนุน

พล.ต.ดิฏฐพร ศศะสมิต โฆษก กอ.รมน. กล่าวว่า การประชุมเพื่อเตรียมรายละเอียดนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการอำนวยการ กอ.รมน .ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ในวันที่ 28 ส.ค.นี้ ซึ่งจะใช้พื้นที่รัฐสภาประชุมร่วมกับนายกรัฐมนตรี เพื่ออนุมัติแผนและหลักการในการดูแลความสงบเรียบร้อย ตาม พรบ.ความมั่นคง ทั้งนี้ที่ประชุมรองนายกฯแสดงความห่วงใย ให้การปฏิบัติงานกระทบประชาชนน้อยที่สุด และให้ประชาชนให้ความร่วมมือหลีกเลี่ยงการเข้ามาในพื้นที่ประกาศความมั่นคง ทั้งนี้อาจมีการตั้งด่านตรวจอาวุธ เพื่อป้องกันเหตุร้าย และให้กำหนดวิธีการกำหนดความสะดวกแก่ประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้อง เน้นย้ำการสร้างความเข้าใจประชาชนว่า การใช้ พรบ.ความมั่นคงไม่ได้จำกัดสิทธิเสรีภาพประชาชนในการใช้ชีวิตปกติ และป้องกันยับยั้งมือที่สามเข้ามาแทรกแซง

พล.ต.ดิฎฐพร กล่าวว่า ที่ประชุมเห็นว่าจะนำหลักปฏิบัติตามที่เคยประกาศใช้ในการประชุมรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงการต่างประเทศที่ จ.ภูเก็ต มาใช้โดยนำมาตรา 18 ของ พรบ.ความมั่นคงมาบังคับใช้ อาทิ ห้ามเข้าหรือออกจากบริเวณพื้นที่ที่กำหนด ห้ามนำอาวุธออกนอกเคหะสถาน ห้ามใช้เส้นทางคมนาคมตามที่มีการกำหนดเงื่อนไขการใช้เส้นทาง อย่างไรก็ตามที่ประชุมจะไม่นำข้อบังคับการห้ามออกเคหะสถานในเวลาที่กำหนดมา บังคับใช้ ทั้งนี้เป็นเพียงข้อเสนอเพื่อหารือขอความเห็นชอบจาก คณะอำนวยการที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานอีกครั้ง เมื่อถามถึงการเตรียมพร้อมดูแลความเรียบร้อยการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงในวัน ที่ 30 ส.ค.นี้ พล.ต.ดิฎฐพร กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ กอ.รมน.เตรียมการกำหนดรายละเอียดการปฏิบัติ ดูแลความสงบเรียบร้อยการนัดชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ตามที่ครม.ประกาศใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงในพื้นที่เขตดุสิต ตั้งแต่วันที่ 29 ส.ค.ถึง 1 ก.ย. 2552 ซึ่ง กอ.รมน.จะมีการประชุมสั่งการเพื่อมอบนโยบายและให้อำนาจการปฏิบัติตามพ.ร.บ. ความมั่นคงอีกครั้งในวันที่ 28 ส.ค.นี้ที่รัฐสภา

“กอ.รมน.ภาค 1 มีความพร้อมในการปฏิบัติภารกิจดูแลความสงบเรียบร้อย ซึ่งการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง เพื่อให้การประสานสั่งการมีความชัดเจนและดูแลพื้นที่ได้ทั่วถึง โดยการปฏิบัติจะดำเนินการ จากเบาไปหาหนักตามขั้นตอนที่เคยปฏิบัติมาแล้ว ในส่วนของกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ซักซ้อมแผนและเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ต่างๆไว้แล้ว เชื่อว่าทุกฝ่ายคงมีจุดยืนร่วมกัน คือ ไม่ทำให้บ้านเมืองเกิดความวุ่นวาย เพราะการที่กลุ่มเสื้อแดงออกมาชุมนุม เพื่อต้องการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างเท่านั้น”โฆษก กอ.รมน.กล่าว

ด้าน พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบกกล่าวว่า กองทัพบกมีความพร้อมในการจัดกำลังสนับสนุนดูแลความสงบเรียบร้อยตาม พ.ร.บ.ความมั่นคง ในฐานะกำลังส่วนหนึ่งของ กอ.รมน. ภายใต้กรอบการทำงานร่วมกันระหว่างพลเรือน ตำรวจ ทหาร โดยการประชุมเจ้าหน้าที่ของกอ.รมน. ในวันที่ 26 ส.ค.นี้ เน้นการกำหนดรายละเอียด โครงสร้างการจัดเจ้าหน้าที่เข้าดูแลความเรียบร้อย และกำหนดแผนการปฏิบัติในขั้นต่างๆ ตาม พ.ร.บ.ความมั่นคง ที่มีการกำหนดภารกิจพื้นที่รับผิดชอบและระยะเวลาการปฏิบัติไว้ชัดเจนแล้ว นอกจากนี้ เพื่อเตรียมทำความเข้าใจกับแกนนำและประชาชนที่จะมาร่วมชุมนุมให้ทราบถึง แนวทางการดูแลพื้นที่ ข้อห้ามในการปฏิบัติต่างๆ เพื่อให้เกิดความเรียบร้อยและเป็นไปตามมาตรการรักษาปลอดภัย รวมทั้งป้องกันการฉกฉวยประโยชน์ หรือการสร้างสถานการณ์ของผู้ไม่หวังดี

ด้าน พล.ร.ท.พะจุณณ์ ตามประทีป หัวหน้าสำนักงานมูลนิธิประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ กล่าวถึงการแต่งชุดดำของกลุ่มคนเสื้อแดงในการไว้อาลัยให้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษเนื่องในวันครบรอบวันเกิด ว่า พล.อ.เปรม ยังคงปฏิบัติภารกิจตามปกติ ไม่ได้รู้สึกหวั่นไหว เพราะเคยผ่านสนามรบมาตั้งแต่ติดยศร้อยตรี ซึ่งหนักหนากว่านี้เยอะ “การที่กลุ่มคนเสื้อแดงแต่งดำในวันเกิด พล.อ.เปรม ถือว่าผลัดกัน เพราะในวันเกิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยังมีคนแต่งดำไว้อาลัยเช่นกัน ” พล.ร.ท.พะจุณณ์ กล่าว

นายทหารคน ใกล้ชิด พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ยอมรับว่า พล.อ.เปรม ได้เดินทางไปพักผ่อนที่ จ.นครราชสีมา จริง โดยไปทำบุญกับครอบครัวเนื่องในวันคล้ายวันเกิด ไม่ได้เป็นการหลบหนีตามที่หลายฝ่ายออกมาระบุ ซึ่งทุกปี พล.อ.เปรม จะเดินทางไปทำบุญตามปกติอยู่แล้ว อยากให้ทุกคนสบายใจได้พล.อ.เปรม ไม่ได้หวั่นวิตกกับการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง แม้ว่าจะแต่งชุดสีดำเพื่อเป็นการแสดงออกถึงการไว้อาลัยให้ก็ตาม

“พล. อ.เปรม ไม่ได้วิตกกังวลอะไร เพียงแต่อยากให้รัฐบาล หรือหน่วยงานที่รับผิดชอบต้องจัดการให้เกิดความสงบเรียบร้อยในบ้านเมืองของ เรา การแสดงออกทางความคิดเห็นสามารถทำได้ตามระบอบประชาธิปไตย แต่อย่าดึงพล.อ.เปรม เข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะท่านไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวอะไรด้วย ทั้งนี้ใครจะทำอะไรก็เป็นสิทธิ์ของเขา ประชาชนตัดสินเองได้ว่าอะไรควรไม่ควรคงไม่ต้องบอกกัน” นายทหารคนเดียวกันกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกองทัพบกถึงมาตรการ รักษาความปลอดภัยจะใช้แผนรักษาความสงบเรียบร้อยภายใน กทม. ซึ่งเบื้องต้น พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.สั่งการให้ พล.อ.จิรเดช คชรัตน์ รองผบ.ทบ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เสธ.ทบ. และ พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 รับผิดชอบจัดกำลังสนับสนุนเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเบื้องต้นได้เตรียมกำลังในที่ตั้งไว้จำนวน 21 กองร้อย นอกจากนี้ผบ.ทบ. ยังได้ส่งกำลังทหารไปดูแลรักษาความปลอดภัยที่บ้านพักสี่เสา เทเวศร์ จากกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ อีกจำนวน 2 กองร้อย กองพันทหารสารวัตรที่ 11(พัน.สห.11) จำนวน 50 นาย และเตรียมกำลังจากกองร้อยรักษาความสงบ จากกองพันทหารราบ มณฑลทหารบกที่ 11 (พัน.ร.มทบ.11) จำนวน 2 กองร้อยเพื่อเตรียมความพร้อมหากเกิดกรณีการสลายฝูงชน

...