ความพยายามที่จะผลักดันให้ งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2553 ผ่านการพิจารณาของสภา เป็นความฝันสูงสุดของรัฐบาลในขณะนี้ ปัจจัยเดิมๆ งบประมาณ การโยกย้ายข้าราชการ หมายถึงความได้เปรียบเสียเปรียบทางการเมืองในสนามเลือกตั้ง

หลังงบประมาณรายจ่ายผ่านสภาในวันสองวันนี้ไปแล้ว เข้าใจว่าการเมืองก็คงจะเปิดศึกใหญ่ ที่ผมได้ยินข่าวมา กองหนุนที่อยู่เบื้องหลังสั่งลุยชนิดใครดีใครอยู่ วิชามาร ชั้นเทพ เตรียมงัดเอามาใช้กันสุดฤทธิ์

ข่าวผู้ใหญ่ในสภา ต้องการงบประมาณเพิ่มจำนวน 5 พันล้านบาท จริงเท็จประการใดช่วยกันจับตา ช้างตายทั้งตัวเอาใบบัวปิดไม่มิดอยู่แล้ว

ที่มีการอ้างหัวเถิกเข้ามายุ่มย่าม ในการแต่งตั้ง ผบ.ตร. หรือ ข้อมูลใหม่ ที่ฝ่าย คุณนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ และคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ ได้ยินมาตรงกัน

ไม่รู้ใครของจริงของปลอม

การเมืองที่ไม่ใช่การเมือง ประชาธิปไตยที่ไม่ใช่ประชาธิปไตย อะไรๆก็เลยดูทะแม่งชอบกล หลังโยกย้ายข้าราชการ ทหาร ตำรวจ เรียบร้อยโรงเรียนรัฐบาลไปแล้ว ในสถานการณ์บ้านเมืองขนาดนี้ เชื่อว่าไม่มีใครใหญ่ จะเสียงมากเสียงน้อยเท่ากันหมด

ถ้าการเจรจายังไม่ลงตัว

ฟันธงว่า การเมืองจะแรง เข้าใจว่า เสื้อแดง ก็ต้องถอยทัพไปตั้งหลักชั่วคราว ดูว่า เสื้อเหลืองกับเสื้อน้ำเงิน จะบู๊นอกจอกันอย่างไรบ้าง

ขืนทะเล่อทะล่าเข้าไปร่วมวงไพบูลย์ด้วย จะตกเป็นเหยื่อโดยไม่รู้ตัว ไม่ใช่เหยื่อธรรมดา แต่จะเป็นเหยื่อของการชิงอำนาจทาง การเมือง ระหว่าง ขั้วการเมืองใหม่กับพรรคการเมืองเก่าแก่ และพรรคการเมืองใหม่ ทำนองเสือสามตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้

เข้าใจว่าผู้ที่ถือหางอยู่เบื้องหลังก็คงมึน ตัดสินใจไม่ถูก ไม่นึกว่าวันหนึ่ง จะต้องมานั่งแก้เชือกที่กลับมามัดตัวเอง เลยต้องใช้ยุทธศาสตร์ สงบสยบความเคลื่อนไหว ปล่อยให้ปูในกระด้งว่ากันไปตามเกม ฝ่ายไหนจะฟาดงวงฟาดงาอย่างไรก็รับผิดชอบกันเอาเอง

การเมืองไทยก็มีอยู่แค่นี้ ขึ้นอยู่กับตัวบุคคลไม่กี่คน ที่มี อิทธิพลทางการเมือง สามารถบงการให้การเมืองมีอันเป็นไปในด้านใดด้านหนึ่งได้

ยิ่งในยุคนี้สมัยนี้ ความสำนึกด้านการเมืองของประชาชนส่วนใหญ่ เจือจางไปเยอะ คนไม่กี่คนเลยเข้ามาครอบงำได้ ง่ายขึ้น ที่จะเห็นคนมาเดินขบวนเป็นแสนเป็นล้านเพื่อต่อต้านอำนาจอะไรบางอย่างเหมือนในอดีต คงหมดยุคไปแล้ว แต่ สำหรับกองทัพยังฮึ่มๆได้สม่ำเสมอ

เพราะประชาชนอยู่แถวหลังไม่เคยเปลี่ยนแปลง.

...

หมัดเหล็ก