แล้ว ครม.ก็มีมติเห็นชอบตามที่ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง สุเทพ เทือกสุบรรณ เสนอ ให้ประกาศใช้ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายใน ราชอาณาจักรเฉพาะเขตดุสิต ระหว่างวันที่ 29 สิงหาคม ถึง 1 กันยายน เป็นเวลา 4 วัน เพื่อรับมือกับการชุมนุมขับไล่รัฐบาลของ คนเสื้อแดง โดยมอบให้ รองนายกฯสุเทพ เป็นผู้กำกับดูแลสถานการณ์
ส่วนวันพรุ่งนี้ นายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะเรียกประชุม กอ.รมน.กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน เพื่อบูรณาการกำลังทหารและตำรวจในการรับมือกับการชุมนุมด้วย แสดงว่ารัฐบาลเชื่อว่าสถานการณ์จะรุนแรงจริง
นายกฯอภิสิทธิ์ให้เหตุผลที่ต้องประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯว่า จากรายงานด้านการข่าวยังวางใจไม่ได้ อาจมีมือที่สาม หรืออุบัติเหตุ ที่ทำให้เกิดผลกระทบกับเศรษฐกิจได้ จึงตัดสินใจประกาศใช้ พ.ร.บ. ความมั่นคงฯ
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีสำนักนายกฯ ขยายความเพิ่มเติม ว่า มีการประเมินด้านการข่าวว่า แกนนำกลุ่มเสื้อแดงต้องการให้มีการเคลื่อนไหวใหญ่ ถึงขั้นให้มีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล และยอมรับว่ามีความวิตกกังวลว่าจะเกิดความรุนแรง จึงต้องประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ให้อำนาจพิเศษเจ้าหน้าที่เป็นการเฉพาะ
นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกฯ ที่ทำหน้าที่โฆษกรัฐบาล ก็ไปออกโทรทัศน์ช่อง 11 เพื่อชี้แจงประชาชนเรื่องการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯของรัฐบาล กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต
ผมฟังดูแล้วก็อยากจะติง นายกฯอภิสิทธิ์ ไว้ตรงนี้ว่า รัฐบาลตื่นตูม เกินไปหรือเปล่า ทำไมจึงเชื่อมั่นข่าวที่ได้รับสูงขนาดนี้ ทั้งๆที่ระบบข่าว กรองของไทยมักผิดพลาดตลอด ทำไมต้องรีบประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ล่วงหน้า ทั้งๆที่ยังไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้น ทำให้นักธุรกิจต่างชาติและ คนไทยทั้งประเทศเกิดความวิตกกังวล กลัวจะเกิดความรุนแรงจนกฎหมายปกติและกำลังตำรวจรับมือไม่อยู่ จึงต้องใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯมารับมือ
ต่อให้การข่าวที่ได้รับมาเป็นความจริง 100 เปอร์เซ็นต์
ผมก็ไม่อยากเห็นรัฐบาลแสดงความตื่นกลัวขนาดนี้
นายกฯอภิสิทธิ์น่าจะมีความสุขุมเยือกเย็นกว่านี้ ถ้าคิดว่าทำใจไม่ได้ อยากจะมีอะไรไว้ในมือเพื่อความอุ่นใจป้องกันไว้ก่อน นายกฯก็สามารถที่จะขออนุมัติ ครม.ให้มอบอำนาจการตัดสินใจประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ให้กับนายกฯล่วงหน้าได้ ซึ่งผมคิดว่าน่าจะดีกว่า เมื่อถึงเวลาคับขัน นายกฯก็สามารถประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯได้ทันที โดยไม่ต้องเรียกประชุม ครม.อีก
แต่นี่เหตุการณ์ยังไม่เกิด ทุกอย่างยังสงบนิ่ง เสื้อแดงก็ยังไม่มีการเคลื่อนไหว มีแต่การข่าวที่ออกไปว่าเสื้อแดงจะชุมนุมใหญ่ขับไล่รัฐบาลวันที่ 30 สิงหาคมนี้เท่านั้น
เมื่อวิเคราะห์ถึงเหตุผลที่รัฐบาลตัดสินใจประกาศ พ.ร.บ.ฉุกเฉินล่วงหน้า 4-5 วัน แสดงว่ารัฐบาลไม่ไว้ใจตำรวจ เพราะ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์- สุวรรณ ผบ.ตร. คู่ขัดแย้งนายกฯยังอยู่ในตำแหน่ง จึงต้องการให้ทหารเข้ามาประกบตำรวจ
แต่เอาเข้าจริง ทหารก็คงพึ่งไม่ได้ เพราะ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่า- จินดา ผู้บัญชาการทหารบก เล่นลาไปราชการเมืองนอก ปล่อยให้ พล.อ.จิรเดช คชรัตน์ รอง ผบ.ทบ.รักษาการแทน แม้แต่ ผู้ใช้อำนาจ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ก็ไม่ใช่ตัวจริง เพราะ นายกฯอภิสิทธิ์ มอบอำนาจให้ รองนายกฯสุเทพ เป็นผู้สั่งการแทน ตัวแทนสั่งตัวแทนไม่รู้ใครจะฟังใคร
ก็คงต้อง ปล่อยประเทศไทยให้เป็นไปตามยถากรรม ผมก็ได้แต่ อ้อนวอน พระสยามเทวาธิราช ขอให้บ้านเมืองอยู่รอดปลอดภัย อย่ามีความรุนแรงใดๆเกิดขึ้นเลย แค่นี้ก็บอบชํ้ากันเต็มทีแล้ว ทั้งเศรษฐกิจประเทศและเศรษฐกิจคนไทย
ป.ล.หนังสือรวมบทความที่คัดสรรแล้วจากคอลัมน์ "ลม เปลี่ยนทิศ หมายเหตุประเทศไทย" เล่ม 1-2-3 และฉบับพิมพ์ครั้งที่ 2 มีวางขายแล้วที่ ร้านหนังสือซีเอ็ดทุกสาขา เป็นบทความเชิงสร้างสรรค์ที่อ่านได้ตลอดเวลา.
...
"ลม เปลี่ยนทิศ"