ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ไม่สบายใจม็อบเสื้อแดงตามป่วนมาร์ค ชี้ต้องมีขอบเขต เตรียมถกแกนนำ นปช. พร้อมออกตัวยินดีส่งตำรวจดูแลความปลอดภัย... 

วันนี้ (27 ส.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีคนเสื้อแดงกีดขวาง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ให้ไปพบสมาชิกพรรคที่ จ.สมุทรปราการ และล่าสุดนายอภิสิทธิ์จะไปพบ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองผบ.ตร.และกกต.เกี่ยวกับมาตรการดูแลความปลอดภัยของนักการเมืองในการลงพื้นที่ว่า ส่วนตัวเห็นด้วย หากเกิดเหตุแบบนี้ มากๆ ประชาชนส่วนใหญ่จะไม่ยอมรับ เรื่องนี้พูดตรงๆ ใครจะไม่สบายใจต้องยอม ทุกคนต้องเดินทางไปได้ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ การแสดงออกหรือต่อต้านต้องมีขอบเขต ยอมรับว่าตนหนักใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น

อย่างไรก็ดี ตนได้คุยกับนายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำ นปช.แล้ว และรับปากว่าจะดูแลมวลชนให้ ก็อยากขอให้คนเสื้อแดงใจเย็น อดเปรี้ยวไว้กินหวาน รอดูคดีในวันนี้ ที่กำลังคืบหน้าดีกว่า

ทั้งนี้ ตนได้สั่งการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ไปว่า หากพรรคประชาธิปัตย์ร้องทุกข์ในเรื่องนี้ และมีข้อเท็จจริง ก็ต้องรับเรื่องไว้สอบสวน และถ้าหากพรรคประชาธิปัตย์แจ้งล่วงหน้าว่าจะจัดกิจกรรมในพื้นที่ใด ตนพร้อมส่งกำลังเจ้าหน้าที่ไปดูแลให้ แค่บอกมา หรือให้นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ยกหูประสานมายังตนก็ได้ เพราะคุ้นเคยกันดี เชื่อว่าเรื่องนี้ไม่มีปัญหา และจบลงด้วยดี

เมื่อถามว่า วันนี้นายอภิสิทธิ์กับนายสุเทพไปชี้แจงกับกรมสอบสวนคดีพิเศษกรณีการเสียชีวิตของประชาชน 98 ศพ ในช่วงเดือน เม.ย.ถึง พ.ค.2553 รองนายกฯ ตอบว่าไม่ขอก้าวก่ายแสดงความเห็น แต่ นปช.ควรพอใจที่คดีนี้คืบหน้า ตนย้ำความเห็นเดิมที่เคยระบุไว้ วันนี้ยังเป็นแบบนั้นแต่ไม่ขอพูดซ้ำ นปช.ควรใจเย็นๆ เพราะศาลจะเป็นผู้พิสูจน์

เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้ รองนายกฯ ระบุว่า เจ้าหน้าที่ ศอฉ.ปฏิบัติการภายใต้คำสั่งของผู้บังคับบัญชา ศอฉ. หากสอบสวนแล้วไม่พบว่ามีคำสั่งที่ผิดจะทำเช่นใด รองนายกฯ ตอบว่า ก็ว่ากันไปตามพยานหลักฐาน หากไม่ผิดก็ไม่ผิด เพราะศาลจะเป็นผู้พิสูจน์

ฟันธงลูกชายชาดา ตายเหตุเฉพาะหน้า

ร.ต.อ.เฉลิม ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนการเสียชีวิตของนายฟารุต ไทยเศรษฐ์ บุตรชายนายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคชาติไทยพัฒนา ที่ ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ตำรวจที่ติดตามคดีนี้หลายนายเป็นนักสืบแทบทั้งนั้น ฟันธงว่าคดีนี้เป็นเหตุขับรถเปิดไฟสูงใส่กัน 

ส่วนตัวนั้น แม้ชอบพอกับนายชาดา แต่ยังไม่ได้คุยกัน ต้องรอนายชาดาทำใจสักพัก เพราะตนเข้าใจความรู้สึกของคนที่สูญเสียลูกว่ามันยิ่งใหญ่แค่ไหน เมื่อถามว่านายชาดาระบุว่าหากตำรวจสอบสวนสาเหตุในคดีนี้ไม่คืบหน้าจะดำเนินการเอง รองนายกฯ กล่าวว่า คนกำลังโมโหก็พูดแบบนั้นมันไม่มีอะไร นายชาดาเชื่อการสอบสวนของตำรวจอยู่แล้ว

เมื่อถามว่านายชาดาระบุว่า เคยถูกนายพลตำรวจนายหนึ่งข่มขู่เอาชีวิต รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่มี ตำรวจนายใดจะกล้าขู่ ส.ส. หาก ส.ส.นำเรื่องนี้หารือในที่ประชุมสภาฯ ครั้งเดียวก็รู้กันทั้งประเทศแล้ว และไม่มีทางที่ตำรวจคนใดจะไปขู่นายชาดาแน่  เพราะตนกับนายชาดาสนิทกัน

...