เรื่องนี้ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกฯ ผมว่ารู้หมู่รู้จ่ากันไปแล้ว เป็นไปได้อย่างไรที่ นายกรัฐมนตรี จะปล่อยให้ ลูกน้องในปกครอง ทั้งรัฐมนตรีและข้าราชการประจำอย่าง ชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีมหาดไทย วิชัย ศรีขวัญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ลงมาถึง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยกมือ "โหวตสวน" คว่ำข้อเสนอของนายกรัฐมนตรี "ซึ่งๆหน้า" ในที่ประชุม
แค่เสนอตั้ง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นายกรัฐมนตรียังตั้งไม่ได้ ถูกลูกน้องโหวตสวนกลางที่ประชุม แล้วนายกรัฐมนตรีจะบริหารประเทศได้อย่างไร
เรื่องนี้เป็นเรื่อง "หลักการบริหารประเทศ" ถ้า นายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ปล่อยให้เรื่องนี้จบลงไปอย่างลอยนวล ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ยอมหน้าแตกคนเดียวผมเชื่อว่า นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป นายกฯอภิสิทธิ์จะบริหารประเทศไม่ได้เพราะจะปกครองไม่ได้ สั่งใครไม่ได้ สั่งก็ไม่มีใครปฏิบัติ เมื่อมีตัวอย่างให้เห็นกันชัดๆอย่างนี้ แล้วบ้านเมืองจะเป็นอย่างไร
เรื่องนี้ผมว่าเป็นเรื่องใหญ่ไม่ใช่เรื่องเล็กๆที่จะปล่อยให้ผ่านเลยไป
ยิ่งมีข่าวว่าแม้แต่ นิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และ สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง พรรคประชา-ธิปัตย์ด้วยกันแท้ๆ ยังไปสนับสนุนฝ่ายตรงข้ามนายกฯ โดยไม่บอกความจริงกับนายกฯ ปล่อยให้นายกฯไปถูกลูกน้องสวนหน้าแตกกลางที่ประชุม เรื่องก็ยิ่งไม่ธรรมดา
เมื่อทำกันถึงขนาดนี้ นายกฯอภิสิทธิ์ ยังไม่กล้าปลดใครสักคน ต่อไปตำแหน่งนายกรัฐมนตรีก็ไร้ความหมาย กลายเป็นหุ่นเชิดเหมือนรัฐมนตรีในพรรคร่วมรัฐบาล
เรื่องที่น่าตกใจยิ่งกว่าการโหวตสวนก็คือ ข่าวการอ้างถึง โทรศัพท์ พิเศษ ให้สนับสนุน พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย ให้เป็น ผบ.ตร.คนใหม่ แต่ นายกฯอภิสิทธิ์ ได้ตรวจสอบภายหลังพบว่า ไม่เป็นความจริง
เรื่องนี้นักข่าวได้ถาม นายกฯอภิสิทธิ์ ว่า จริงหรือไม่ที่ นายชวรัตน์ ระบุในที่ประชุม ก.ต.ช.ว่า ที่ต้องสนับสนุน พล.ต.อ.จุมพล เป็น ผบ.ตร.คนใหม่ เพราะมีเหตุผลสำคัญ แต่นายกฯตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อน
แต่นายกฯอภิสิทธิ์ไม่ตอบได้แต่ยิ้มๆ เมื่อนักข่าวถามย้ำว่า ตรวจสอบข้อเท็จจริงมาจากบ้านนายนิพนธ์ (พร้อมพันธุ์) แล้วใช่หรือไม่ นายกฯอภิสิทธิ์ไม่ตอบ และเดินเลี่ยงสื่อมวลชนไปทันที
เรื่องนี้ผมเองก็ได้ยิน รู้สึกว่าจะเล่นกันจน "เลยเถิดความเหมาะสม" ไปแล้ว ซึ่งไม่สมควรอย่างยิ่ง ยิ่งถ้าคนอ้างเป็นรัฐมนตรี ก็ยิ่งไม่เหมาะสม
การประชุม ก.ต.ช.ครั้งนี้ ไม่เพียงทำให้นายกฯหน้าแตกเท่านั้น แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึง ความอ่อนหัด ของ นายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในการรับมือกับเรื่องสำคัญที่เป็นเกมการเมือง
ไม่น่าเชื่อว่า นายกฯอภิสิทธิ์ จะนำเรื่องร้อนๆการแต่งตั้ง ผบ.ตร. เข้าไปขอมติในที่ประชุม ก.ต.ช.โดยไม่มีการสอบถามความเห็นกรรมการล่วงหน้าเป็นรายบุคคลว่า จะมีใครสนับสนุนข้อเสนอของนายกฯบ้าง แม้แต่ในบริษัทเอกชนเมื่อมีการขอมติสำคัญ ผู้บริหารก็จะมีการล็อบบี้เสียงในที่ประชุมล่วงหน้า เพื่อให้ได้คะแนนเสียงส่วนใหญ่ ไว้ในมือก่อนที่จะเสนอให้ลงมติ แต่นี่นายกฯมาร์ค เล่นกันสดๆ ผลก็สอบตกอย่างที่เห็น
แม้จะหน้าแตกไปแล้ว แต่ นายกฯอภิสิทธิ์ ก็ยังยืนยันจะเสนอ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ เป็น ผบ.ตร. ผมหวังว่าจะมีการ ล็อบบี้คณะกรรมการ ก.ต.ช. ล่วงหน้าให้เรียบร้อย อย่าให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีก ไม่งั้นอยู่ลำบากแน่นอน
แต่เรื่องสำคัญที่ นายกฯอภิสิทธิ์ จะต้องเคลียร์ก่อนตำแหน่ง ผบ.ตร.ก็คือ ลูกน้องที่โหวตสวนผู้บังคับบัญชา ซึ่งสำคัญอย่างยิ่ง มิฉะนั้น อาจหน้าแตกอีกหนก็ได้ คราวหน้าหมอไม่รับเย็บแน่นอน.
"ลม เปลี่ยนทิศ"
...