ศาลปกครอง มีคำสั่งยกฟ้อง ทายาทตระกูล "อินทามระ" ร้อง กทม. ไม่ยอมคงชื่อถนนเอาไว้ แต่กลับเปลี่ยนเป็นถนน "สุทธิสารวินิจฉัย" ชี้ กทม.ทำถูกต้องตาม ก.ม.และไม่ได้เป็นการไม่ให้เกียรติ ผู้บุกเบิกพัฒนาที่ดิน
วันที่ 17 ส.ค. นายมนูญ พิบูลรัตนากุล ตุลาการศาลปกครอง ได้มีคำวินิจฉัยยกฟ้องในกรณีที่ นายกฤษฎา อินทามระ ฟ้อง กรุงเทพมหานคร ผู้ว่าฯกทม. ปลัด กทม. ผอ.เขตพญาไท และ ผอ.เขตดินแดน ผู้ถูกฟ้องที่ 1-5 กรณีข้อพิพาทเกี่ยวกับหน่วยงานทางปกครอง หรือ เจ้าหน้าที่ของรัฐ ละเลยต่อหน้าที่ ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ
โดยนายกฤษฎา เป็นทายาทของ พล.ต.ท.โต๊ะ อินทามระ ได้รับความเดือดร้อนเสียหายเนื่องจากถูก ผอ.เขตพญาไท และ ผอ.เขตดินแดง ไม่ดำเนินการติดตั้งป้ายชื่อ ถนนอินทามระ แต่กลับติดตั้งป้ายชื่อ ถนนสุทธิสารวินิจฉัย ตั้งแต่ ถนนพหลโยธินทางทิศตะวันออกไปจนถึงบริเวณที่จัดสรรกรมตำรวจ ซึ่งไม่ถูกต้องตามทะเบียนประวัติถนน ประกอบกับมติที่ประชุม อ.ก.พ. กรมตำรวจ ปี พ.ศ.2503 ให้ตั้งชื่อถนนในที่ดินจัดสรรหลัง สน.บางซื่อ ที่ตอนหน้า เป็นของนายมารุต บุนนาค ให้ใช้ชื่อบิดาของนายมารุต คือพระสุทธิสารวินิจฉัยเป็นชื่อถนน
ส่วนชื่อถนนข้างใน ให้ใช้นามสกุลของหัวหน้ากองคลัง กรมตำรวจ พล.ต.ท.โต๊ะ อินทามระ เป็นชื่อถนน แต่ปัจจุบันกลับมีเพียงป้ายชื่อ ถนนสุทธิสารวินิจฉัยตลอดถนน ไม่มีป้ายชื่อถนนอินทามะ มีเพียงชื่อ ซอยอินทามระ รวม 59 ซอยเท่านั้น โดยเป็นความเสียหายต่อ พล.ต.ท.โต๊ะ ที่เป็นผู้บุกเบิกพัฒนาที่ดิน บริเวณสุทธิสารและสะพานควายให้เป็นที่อยู่อาศัยของข้าราชการตำรวจ
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ตามระเบียบสำนักทะเบียนกลางว่าด้วยการจัดทำทะเบียนราษฎร พ.ศ.2535 ข้อ 15 กำหนดว่า ให้นายทะเบียนผู้รับแจ้งดำเนินการ ตั้งชื่อถนน ตรอก ซอย ในเขตเทศบาลทุกแห่งให้ครบ ในกรณีที่ตรอก หรือ ซอยเดียวกันมีชื่อเดิมหลายชื่อให้เลือกชื่อที่ประชาชนนิยม ส่วนหากตรอกหรือซอย 2 สายมาบรรจบกันให้ใช้ชื่อซอยที่มีระยะยาวกว่า หรือชื่อที่ประชาชนนิยมมาตั้ง จึงจะเห็นได้ว่า กรุงเทพมหานคร มีอำนาจหน้าที่ในการจัดทำให้มีชื่อถนน ตาม.89 วรรคหนึ่ง(6) แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ.2528 และการตั้งชื่อถนนตาม ม.89 วรรคหนึ่ง (2) แห่ง พ.ร.บ.เดียวกัน ประกอบกับข้อ 15 ของระเบียบสำนักทะเบียนกลาง ว่าด้วยการจัดทำทะเบียนราษฎร พ.ศ.2535 ที่การตั้งชื่อถนนจะต้องคำนึงถึงประวัติความเป็นมา การได้มาของที่ดินเพื่อสร้างถนน เพื่อเป็นการเชิดชูชื่อเสียง เกียรติยศ และอนุสรณ์ของความดีงามให้กับเจ้าของที่ดิน มาประกอบการพิจารณาด้วย
ข้อเท็จจริงของคดีปรากฏว่า ที่ดินนี้เป็นของนายจิรายุวัต บุนนาค ผู้อนุบาลพระสุทธิสารวินิจฉัยได้ยกให้เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่พระสุทธิสารวินิจฉัย ส่วนที่ข้างในเป็นของกรมตำรวจเดิมมีชื่อว่า ถนนอินทามระ โดยใช้สกุลของหัวหน้ากองคลังคือ พล.ต.ท.โต๊ะ อินทามระ ส่งผลให้ถนนสายนี้มีชื่อเรียก 2 ชื่อ แต่หากพิจารณาจากสภาพพื้นที่ในขณะนั้นเชื่อได้ว่า ถนนอินทามระ เป็นเพียงถนนที่เข้าสู่ที่ดินจัดสรรของกรมตำรวจ ไม่ใช่ถนนสายหลักในปัจจุบัน ประกอบกับการตั้งชื่อถนนสากล จะตั้งชื่อซอยเป็นตัวเลขตามหลังชื่อถนน และหากซอยใดมีชื่อเฉพาะก็ให้วงเล็บไว้ท้ายตัวเลข และในระบบทะเบียนของ ผอ.เขตพญาไท และ ผอ.เขตดินแดง ได้ใช้ชื่อถนนสายนี้เป็น ถนนสุทธิสารวินิจฉัย มานานแล้ว
ต่อมาในปี พ.ศ.2548 กรุงเทพมหานครได้จัดทำโครงการปรับปรุงหมายเลขประจำบ้าน และทางผู้ว่าฯ กทม.ได้ตั้งคณะกรรมการกลางตั้งชื่อถนน ตรอก ซอย ฯลฯ โดยคณะกรรมการฯ ได้มีมติให้ถนนสายนี้ชื่อว่า ถนนสุทธิสารวินิจฉัย และให้เปลี่ยน ซอยอินทามระจำนวน 59 ซอย บน ถนนสุทธิสารวินิจฉัย เป็นซอยสุทธิสารวินิจฉัย โดยให้วงเล็บ ซอยอินทามระไว้ใต้ชื่อ ซอยสุทธิสารวินิจฉัย หากมีการเปลี่ยนแปลงจะสร้างภาระให้กับประชาชน อีกทั้งตามประวัติก็ไม่ปรากฏว่า พล.ต.ท.โต๊ะ อินทามระ เป็นผู้อุทิศที่ดินเช่นเดียวกับพระสุทธิสารวินิจฉัย โดยเป็นเพียงผู้พัฒนาที่ดินให้เป็นโครงการจัดสรรเท่านั้น อีกทั้ง ผอ.เขตพญาไท และ ผอ.เขตดินแดงได้คงชื่อ ซอยอินทามระ ไว้ท้ายชื่อซอยแล้วจึงย่อมเพียงพอที่จะระลึกถึงคุณงามความดีของ พล.ต.ท.โต๊ะ อินทามระแล้ว จึงไม่ได้เป็นการละเลยการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติแต่อย่างใด ศาลจึงพิพากษายกฟ้อง.
...