คดีคาร์บอมบ์ที่เคยฮือฮาเมื่อครั้งรัฐบาลทักษิณ ในขณะที่การเมืองกำลังแรง ข้อมูลในเบื้องต้น ดูเหมือนว่าจะมีขบวนการลอบสังหารอดีตนายกฯจริงๆ มีการวางแผนลงมือหลายครั้ง ทำนองว่าโยงไปถึงคนใน กอ.รมน.และเหนือกว่านั้นด้วยซ้ำ
ในที่สุดศาลทหารสูงสุดอ่านคำพิพากษาให้ผู้ต้องหาทั้ง 3 นาย มีความผิดฐานร่วมกันมีวัตถุระเบิดโดยไม่ได้รับอนุญาต ความผิดฐานเคลื่อนย้ายวัตถุระเบิด ส่วนข้อหาร่วมพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนให้ยกฟ้อง เนื่องจากหลักฐาน ไม่เพียงพอ
ปิดคดีไปเรียบร้อย
กับดักทางการเมืองยังมีอีกหลายขั้นตอน หลายกระทง เป็นอุปสรรคในการพัฒนาประเทศให้ก้าวหน้า กลับตกหลุมวิกฤติการเมืองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
การเมืองลับ ลวง พราง ทำลายระบบการเมืองไทย ระบอบประชาธิปไตย และมาตรฐานความยุติธรรม ความเสมอภาคอย่างสิ้นเชิง
วันนี้ถ้ายังมีโรคแทรกแซงฉกฉวยหาผลประโยชน์จาก วิกฤติการเมือง โดยไม่มีการเยียวยาแก้ไขปรับสภาพบ้านเมืองให้เข้าที่เข้าทาง ประเทศก็ยิ่งใกล้หนทางหายนะล่มจมเข้าไปทุกที
วิธีการแก้ไขปัญหาความไม่ชอบมาพากลของ โครงการชุมชนพอเพียง ที่เห็นแล้วต้องบอกตรงๆว่า ว้าเหว่ คุณกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกฯในฐานะประธานบริหารโครงการชุมชนพอเพียงได้ ประกาศลาออกจากตำแหน่ง
หลังเดินทางเข้าพบ คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน นึกถึงภาพเมื่อครั้งที่ คุณอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีต ผู้ว่าฯ กทม. เข้าพบคุณหญิงจารุวรรณ เพื่อให้เข้าไปสอบโครงการฉาวรถและเรือดับเพลิงของ กทม. วันนี้กรณีคุณอภิรักษ์ ก็ยังคาราคาซังหนีไม่ออก เครื่องฟอกไม่ทำงาน
นึกไปถึง ปลากระป๋องเน่า ของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯที่ คุณวิฑูรย์ นามบุตร รีบลาออก และตั้งกรรมการขึ้นมาสอบสวนเช่นกัน จบลงด้วยคำว่า ไม่มีอะไรในกอไผ่ อีกเช่นเคย
...
กรณีโครงการชุมชนพอเพียง พรรคประชาธิปัตย์และรัฐบาลชุดนี้ ใช้วิธีการแก้ปัญหาแบบฟอร์มเดียวกัน จนแทบจะเรียกได้ว่า เป็นการแก้ไขปัญหาแบบประชาธิปัตย์ รักษาภาพพจน์ ความเป็นพระเอกเอาไว้ตลอดกาล
นำไปสู่ข้อวิจารณ์ที่ว่าประชาธิปัตย์ทำอะไรก็ไม่ผิด
นี่คือช่องว่างของมาตรฐานและความยุติธรรมของประเทศไทย คนจนกับคนรวย มีช่องว่างที่แตกต่างกันเพราะโอกาสและสิ่งแวดล้อมที่แตกต่างกัน แต่ช่องว่างของความยุติธรรมที่ปรากฏ
เป็นช่องว่างในสมองของผู้ปกครอง.
หมัดเหล็ก