วันเสาร์สบายๆวันนี้ มาคุยเรื่องที่ฟังแล้วไม่ค่อยสบายใจสำหรับชาวพุทธกันสักวันนะครับ ผมอ่านเรื่อง "พระพุทธศาสนาในเมืองไทยมีภัยรอบด้าน" ของ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (สมเด็จเกี่ยว) ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช แล้วต้องบอกว่า รู้สึกเป็นห่วง อนาคตของพระพุทธศาสนาในเมืองไทย ขึ้นมาทันที

เรื่องนี้ สำนักพิมพ์อนันตะ นำมารวบรวมไว้ในหนังสือ เย็นหิมะในรอยธรรม

สมเด็จเกี่ยวเล่าว่า พุทธศาสนาในเมืองไทยกำลังมีภัยรอบด้าน ซึ่งแทรกแซงเข้ามาทุกรูปแบบ อาจจะล้มครืนลงในวันใดก็ได้ แต่พระสงฆ์ทั้งหลายก็ยังเหมือนปลาในน้ำเย็น จึงตายใจว่า พุทธศาสนาตั้งมั่นเจริญรุ่งเรืองในประเทศไทย เลยไม่รู้สึกถึงการล่มสลายซึ่งกำลังใกล้เข้ามาแล้ว

สมเด็จเกี่ยวให้มองไปข้างหน้าอีก 50 ปี โดยให้ดูผลแห่งความเปลี่ยนแปลง ครั้งละ 10 ปี ทุก 10 ปีให้ดูความเปลี่ยนแปลงแต่ละปี ในแต่ละปีก็ต้องดูความเปลี่ยนแปลงในแต่ละวันด้วย จนกว่าจะถึง 50 ปี เพื่อคาดการณ์ว่าอีก 50 ปีข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น

"ถ้าสิ่งนั้นจะเกิดขึ้นกับพระพุทธศาสนา อย่างที่เคยเกิดขึ้นในอดีตแล้วเราจะทำอย่างไร"

ความเปลี่ยนแปลงมีอยู่ตลอดเวลา  มิฉะนั้น  พุทธศาสนาในอินเดียปากีสถาน บังกลาเทศ และ อัฟกานิสถาน ก็คงไม่ล่มสลาย

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับพระสงฆ์ที่ มหาวิทยาลัยนาลันทา ในอดีต จนเป็นเหตุให้พระที่ยอมสละชีวิตเพื่อพระพุทธศาสนา ถูกฆ่าตายหมู่พร้อมกันมากกว่า 8 พันองค์ เป็นสิ่งที่พระและชาวไทยควรจะนำมาเตือนสติอยู่เสมอว่า "อย่าประมาท" อย่านึกว่าเมืองไทยเป็นเมืองพุทธ มองไปที่ไหนก็มีแต่วัด เห็นแต่จีวรเหลืองอร่าม แล้วเหตุการณ์อย่างมหาวิทยาลัยนาลันทาจะเกิดขึ้นไม่ได้ น้ำร้อนปลาเป็น น้ำเย็นปลาตาย ชั่วเพียงวินาทีเดียวทุกอย่างก็พลิกได้

การพัฒนาประเทศไทย ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในบ้านเมือง พุทธศาสนาก็เช่นเดียวกัน ที่จริงการพัฒนาประเทศไทยที่เรียกว่าความเจริญ อย่างที่เราเห็นในปัจจุบัน เพิ่งเริ่มมาได้ 50 ปีนี้เอง ให้รู้ว่า 50 ปีที่ผ่านมายังเปลี่ยนแปลงได้ขนาดนี้ ถ้าลองนับต่อไปอีก 50 ปีข้างหน้า จะเปลี่ยนแปลงไปขนาดไหน

...

การเปลี่ยนแปลงสมัยก่อน มันเปลี่ยนแปลงช้า ระยะเวลา 10 ปีสมัยก่อน เท่ากับ 1 ปีในปัจจุบัน และ 10 ปีสมัยก่อน เดี๋ยวนี้ก็เพียงปีเดียวเท่านั้นเอง นี่ ความเปลี่ยนแปลงเร็วอย่างนี้

ให้จำคำของหลวงพ่อไว้ ไม่เกิน พ.ศ. 2594 บ้านเมืองจะไม่ใช่อย่างนี้แล้ว ถึงปีนี้นับไปอีกก็เท่ากับ 53 ปี (แสดงว่าท่านพูดเรื่องนี้ตั้งแต่ปี 2541 เมื่อ 11 ปีมาแล้ว) เหตุการณ์ต่างๆจะเปลี่ยนแปลงไปมาก ลองคิดดูว่า ถ้านับไปอีก 53 ปีข้างหน้า ความเปลี่ยนแปลงของสังคมจะเป็นไปถึงขนาดไหน ความจริงที่พูดอย่างนี้ คิดอย่างนี้ และเตรียมการวางแผนเพื่ออนาคตอย่างนี้ ไม่ใช่พวกเราพระหนุ่มเณรน้อยหรอก

แต่ต้องเป็น พระระดับมหาเถรสมาคม ระดับเจ้าคณะภาค ที่จะต้องคิดต้องพูดกัน ถ้าเป็นทางบ้านเมืองก็ต้องเป็นรัฐบาล ที่จะต้องคิดเรื่องพวกนี้ ต้องวางแผนเพื่อ 5 ปี 10 ปีข้างหน้า

"อย่างพระพุทธศาสนาในเมืองไทย อีก 50 ปี อาจจะไม่ใช่อย่างที่เราเห็นอยู่ในเวลานี้ก็ได้  ประเทศไทยตรงนี้  อาจจะไม่ใช่ประเทศไทยสำหรับพระพุทธศาสนาอีกต่อไปแล้ว"

อ่านคำทำนาย "อนาคตพุทธศาสนาไทย" ของ "สมเด็จเกี่ยว" แล้ว ผมก็คิดถึงคำพูดของ ลี เซียน หลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ที่พูดกับชาวสิงคโปร์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาทันที เขาได้บอกกับชาวสิงคโปร์ ให้ตระหนักถึง ภัยคุกคามทางศาสนา ที่กำลังรุนแรงขึ้น  มีการเผยแพร่
คำสอนที่รุนแรง เพื่อชักชวนให้ผู้อื่นเปลี่ยนศาสนา โดยชี้ให้เห็นว่าความเจริญรุ่งเรืองของสิงคโปร์ ไม่ใช่ขึ้นกับศาสนาใดศาสนาหนึ่ง แต่ขึ้นอยู่กับการเคารพความเชื่อของผู้อื่นต่างหาก

วันจันทร์ขอต่ออีกวันครับ.

"ลม เปลี่ยนทิศ"