วิบากกรรมของ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ยังไม่จบ นอกจาก จะถูกล้วงลูกจากนักการเมืองและวอลล์-เปเปอร์แล้ว ยังถูกตามล้างตามเช็ดจากฝ่ายการเมืองเป็นระยะๆ แม้จะเกษียณอายุราชการในเดือนหน้าอยู่แล้วก็ตาม
นี่แหละที่เรียกว่าพิษการเมือง
การขุดคุ้ยความไม่ชอบมาพากลที่เกี่ยวข้องกับ พล.ต.อ. พัชรวาท มองได้อย่างเดียวว่าเป็น เกมการต่อรองเพื่อสยบกรณีโยกย้ายข้าราชการตำรวจ เพราะหลักฐานที่ คุณศิริโชค โสภา เสนอต่อคณะกรรมการสอบสวนการซื้อขายตำแหน่งในการโยกย้ายตำรวจ มีอะไรบางอย่างที่ทะแม่ง
เพื่อแก้เกี้ยวแก้เก้อหรือเพราะเหตุผลอย่างอื่น ไม่น่าสนใจ เท่ากับการบริหารงานของรัฐบาลชุดนี้ ไม่ได้ยึดหลักคุณธรรมและนิติรัฐจริง การเข้าแทรกแซงข้าราชการ และองค์กรอิสระจนออกหน้าออกตา ทำให้เกิดความไม่มีมาตรฐานขึ้นในสังคมไทย
ผมว่างานนี้ถ้าข้าราชการยอมเป็นเหยื่อในเกมการต่อรองของนักการเมือง ระบบราชการก็จะถูกแทรกแซงไม่มีวันยุติ กลไกการบริหารประเทศก็มีอุปสรรค หมายความว่า ต่อไปนี้การทำงานจะเป็นการรวบอำนาจอยู่ที่นักการเมืองแค่กระจุกเดียว
อยากจะแนะนำให้ พล.ต.อ.พัชรวาท ต่อสู้เพื่อศักดิ์ศรีและปลดแอกข้าราชการให้ถึงที่สุด เป็นตัวอย่างของการต่อสู้เพื่ออิสรภาพในระบบราชการ หรือถ้าไม่จบ ลงเล่นการเมืองสู้กันให้ถึงลูกถึงคนไปเลย
ที่ไม่เข้าใจก็คือ รู้สึกว่าคดีความทางการเมืองที่ค้างคากันอยู่ ยืดๆบิดๆเบี้ยวๆชอบกล ที่จะฉับไวชนิดสายฟ้าแลบเหมือนยุคที่ผ่านมา ไม่ต้องมีการขึ้นให้การ ไม่ต้องมีการสืบพยาน ว่ากันม้วนเดียวจบ
เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ
กกต.-ป.ป.ช.มีเหตุผลร้อยแปดพันเก้าที่จะยืดเรื่องยืดอายุรัฐบาลให้นานที่สุด เรื่องราวเหล่านี้อาจจะสมประสงค์ของรัฐบาลและผู้บงการ แต่ในระยะยาวแล้ว จะทำลายกฎเกณฑ์และวิถีการปกครองประเทศในระบอบประชาธิปไตยโดยสิ้นเชิง
เป็นการคอรัปชันความยุติธรรม
ให้จับตากรณีที่พรรคภูมิใจไทยเสนอ ออกกฎหมายนิรโทษกรรม ในการชุมนุมทางการเมืองที่ผ่านมา เสื้อแดงไม่ได้ รับอานิสงส์อะไรเท่าไหร่ แต่เสื้อเหลืองได้อานิสงส์ไปอย่างมหาศาล บุกช่อง 11 ปิดสนามบิน ยึดทำเนียบ คดีฉกรรจ์ทั้งนั้น
ความสัมพันธ์ระหว่างนายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ตั้งแต่เป็นผู้นำฝ่ายค้านกับแกนนำพันธมิตรฯ การต่อรองทางการเมืองระหว่างสีเหลืองกับสีน้ำเงิน เหล่านี้คือเงื่อนไขทางการเมืองที่มีความพยายามจะดิ้นให้หลุด
ประเทศไทยกลายเป็นสนามเด็กเล่นไปซะแล้ว.
...
หมัดเหล็ก