ปัดดึงเกมยื้อเวลา สุเทพ ไม่หวั่นเสื้อแดงต่อยอดจุดชนวนปลุกระดมรอบใหม่ ย้ำชัดจะทำทุกอย่างด้วยความโปร่งใส ทุกตัวอักษรต้องให้ประชาชนได้อ่าน

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าววันนี้ (18 ส.ค.) หลังจากที่กลุ่มคนเสื้อแดงยื่นถวายฎีกา ว่า เป็นไปตามวิธีการตามปกติ รัฐบาลมีหน้าที่ตรวจสอบข้อมูล ข้อเท็จจริง และเหตุผล กรณีที่มีผู้ยื่นฎีกา จะแยกเป็นสองส่วนคือ ฎีกาที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อนเรื่องต่าง ๆ อีกประเภทคือ ผู้ที่ต้องโทษและขอพระราชทานอภัยโทษ คือ ติดคุก รับโทษในระยะหนึ่ง และเมื่อทำตัวดีสำนึกในความผิดที่ทำก็ทำเรื่องถวายฎีกาได้ โดยผ่านทางผู้บัญชาการเรือนจำ ทำเรื่องมาถึงกรมราชทัณฑ์ กรมราชทัณฑ์จะมีกรรมการพิจารณาว่าเข้าหลักเกณฑ์ กติกา ที่กฎหมายบัญญัติไว้หรือไม่ จากนั้นจึงจะส่งเรื่องให้กระทรวงยุติธรรม เมื่อตรวจสอบแล้วก็จะส่งเรื่องมาที่สำนักนายกรัฐมนตรี

ขั้นตอนสุดท้ายคือ นายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมาย ก็จะทำหนังสือกราบบังคมทูล โดยสรุปเหตุผล ข้อกฎหมาย ข้อเท็จจริงทุกอย่างทุกประการ ตั้งแต่ความเห็นของเรือนจำ กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรมและความเห็นรัฐบาลถวายขึ้นไป ซึ่งทั้งหมดคือวิธีปฏิบัติโดยทั่วไป นายสุเทพ กล่าว และว่า ในกรณีของกลุ่มเสื้อแดงก็เช่นเดียวกัน เมื่อได้รับเรื่องจากสำนักราชเลขาธิการฯ ก็ต้องส่งกลับไปให้กระทรวงยุติธรรมดำเนินการ กระทรวงยุติธรรมก็ต้องตรวจสอบอย่างละเอียด อาจจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเป็นพิเศษ เพราะเรื่องนี้อยู่ในความสนใจของประชาชน ต้องให้คนที่มีความรู้ ความเข้าใจเรื่องนี้จริง ๆ มาดำเนินการ จากนั้นต้องทำความเห็นเบื้องต้นมายังรัฐบาล ถึงตอนนั้นถ้าเรื่องมาถึงตนต้องพิจารณาไปตามขั้นตอน

ส่วนขั้นตอนที่กล่าวมาทั้งหมดจะใช้เวลานานเท่าไหร่ นายสุเทพ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการ ที่กระทรวงยุติธรรมจะแต่งตั้งขึ้นจะพิจารณาอย่างไร พร้อมยืนยันเรื่องนี้ไม่มีใครที่จะไปคิดกลั่นแกล้งหรือหาเรื่องใคร ตนจะดูแลหน่วยงานที่อยู่ในความรับผิดชอบ พูดความจริงกับประชาชนในทุกเรื่อง และแถลงข้อเท็จจริงทุกประการ ยืนยันว่าทุกอย่างจะเป็นไปด้วยความโปร่งใส และประชาชนเจ้าของประเทศไทยจะได้ทราบไปพร้อม ๆ กัน

ผู้สื่อข่าวถามว่ารัฐบาลจะมีแนวทางพิจารณาฎีกานี้อย่างไร ในเมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้ลงชื่อด้วยและไม่เคยติดโทษ นายสุเทพ กล่าวว่า วันนี้ตนจะไม่พูดเรื่องนี้แล้วว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นอย่างไร เพราะคณะกรรมการจะเป็นผู้พิจารณา ดังนั้นให้ผู้ที่มีหน้าที่พิจารณาไปตามขั้นตอน แต่เมื่อเรื่องมาถึงตนจึงจะให้ความเห็น

เมื่อถามว่ารัฐบาลจะเร่งเรื่องนี้เร็วขึ้นหรือไม่ เนื่องจากเป็นที่สนใจของประชาชน นายสุเทพ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรียังไม่มีบัญชามา ดังนั้นจึงต้องระมัดระวัง เพราะถ้าสื่อถามตนอย่าง แล้วไปถามนายกฯอีกอย่าง ก็จะเป็นปัญหา แต่สิ่งที่ตนตอบไปก่อนหน้านี้คือขั้นตอนไปตามปกติที่ปฏิบัติกันอยู่

ต่อข้อถามว่าจะมองหลักเกณฑ์จำนวนผู้เข้าชื่อหรือเนื้อหาในฎีกาเป็นหลัก นายสุเทพ กล่าวว่า เนื้อเรื่องสำคัญกว่า แต่ชื่อและจำนวนผู้ลงถือเป็นส่วนหนึ่งเท่านั้น ขณะนี้ตนไม่ทราบว่าในเนื้อหาของฎีกาเขียนไว้อย่างไร แต่เชื่อว่าคณะกรรมการที่กระทรวงแต่งตั้งขึ้นจะพิจารณาอย่างรอบคอบทุกแง่มุมให้เป็นไปตามกรอบกฎหมาย ขนบธรรมเนียมประเพณี อะไรทำได้หรือไม่ได้ก็จะมีความเห็นประกอบมาหมด

เมื่อถามว่าคณะกรรมการที่ยุติธรรมตั้งขึ้นเป็นไปตามปกติหรือเพื่อการนี้โดยเฉพาะ นายสุเทพ กล่าวว่า มีคณะกรรมการตามปกติ ตั้งแต่ในส่วนของกรมราชทัณฑ์ แต่ตนไม่แน่ใจว่า เมื่อเรื่องนี้ไปถึงกระทรวงยุติธรรมทางกระทรวงจะให้กรมราชทัณฑ์เป็นผู้ดำเนินการหรือไม่ เนื่องจากเป็นคดีที่มีคำพิพากษาแล้ว และมีโทษจำคุก 

ส่วนเหตุใดรัฐบาลจึงต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ ในเมื่อยืนยันมาตั้งแต่ต้นแล้วว่าการยื่นถวายฎีกาของกลุ่มเสื้อแดงไม่ถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมาย นายสุเทพ กล่าวว่า คนในรัฐบาลที่ให้ความเห็นอาจจะเป็น นายก. นาย ข. นาย ค. เมื่อสื่อมาถามตน ๆ ก็มีความเห็นของตน แต่เมื่อเรื่องมาถึงขณะนี้จะเอาความเห็นส่วนตัวของใครคนใดคนหนึ่งมาตัดสินไม่ได้ ต้องใช้ของจริง และเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ มีความรู้มาเป็นผู้พิจารณา ซึ่งอาจจะตรงหรือไม่กับความเห็นของตนก็ได้

สำหรับรูปแบบของคณะกรรมการจะเป็นอย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า รอให้มีการตั้งก่อน เพราะในระดับกรมก็เป็นอำนาจของกรม กระทรวงยุติธรรมก็เป็นระดับกระทรวงที่จะพิจารณาเข้ามา ต่อข้อถามว่า รัฐบาลจะทำให้สังคมเห็นความจริงใจในเรื่องนี้ได้อย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า ทุกอย่างต้องทำด้วยความโปร่งใส ให้สังคมได้เห็น กรมราชทัณฑ์พิจารณาแล้วมีความเห็นเรื่องนี้อย่างไรก็ต้องเปิดเผย และเมื่อมาถึงสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งสมมุติว่ามาถึงตนก็ต้องเปิดเผย ขอย้ำว่าทุกตัวอักษรต้องให้ประชาชนได้อ่าน

เมื่อถามว่ารัฐบาลเตรียมการอย่างไร หากถูกกล่าวหาว่ามีการตัดตอน นายสุเทพ กล่าวย้อนว่า ทำไมต้องคิดอะไรตามที่คนเสื้อแดงคิดไว้ก่อน เพราะในความเป็นจริงอาจจะไม่เป็นอย่างนั้นก็ได้ เรื่องนี้อย่ากังวลใจ และต้องไม่ทำให้ประชาชนเกิดความกัวลใจเช่นเดียวกัน

และเมื่อถามว่าในที่ประชุม สมช.เมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้ประเมินหรือไม่ว่าหลังการยื่นถวายฎีกาแล้วสถานการณ์การเมืองจะดีขึ้นหรือแย่ลง นายสุเทพ กล่าวว่า ที่ประชุม สมช.ไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้ ส่วนที่มีข่าวว่ามีการรายงานสถานการณ์ก็เป็นการรายงานสถานการณ์บ้านเมืองตามปกติ

ต่อกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงประกาศจะตั้งโรงเรียนคนเสื้อแดงเพื่อให้ความรู้ประชาธิปไตย นายสุเทพ กล่าวว่า ประเทศเราปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย ทุกคนสามารถทำอะไรได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ถ้าตั้งโรงเรียนโดยถูกกฎหมายก็ทำได้แต่ถ้าตั้งแล้วผิดกฎหมายก็ทำไม่ได้ ถ้าตั้งโรงเรียนแล้วสอนให้คนทำดีก็ตั้งได้ แต่ถ้าตั้งแล้วเสนอให้คนทำร้ายประเทศไทยก็ตั้งไม่ได้เป็นเรื่องธรรมดา ทุกอย่างว่าไปตามกฎหมาย

เมื่อถามว่าระหว่างการพิจารณา แต่กลุ่มเสื้อแดงมีการเคลื่อนไหวปลุกระดมมวลชน จะมีผลต่อการตัดสินใจพิจารณาขั้นตอนการยื่นถวายของรัฐบาลหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ต้องดูว่า ปลุกระดมอย่างไร ถ้าปลุกระดมเพื่อแบ่งแยกดินแดนก็เข้าข่าย แต่ถ้าปลุกโดยเข้าลักษณะกระทบกระเทือนต่อสถาบันเราก็ดำเนินคดี แต่ถ้าปลุกมาตากฝน ตากแดด ก็ไม่มีใครมาว่าอะไรได้

สำหรับกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงระบุว่า หากฎีกาผ่านจะฉลองทั้งประเทศ ตรงกันข้ามหากถูกตีตกจะนำประชาชนออกมาเผชิญหน้า นายสุเทพ กล่าวว่า เรื่องที่คาดการณ์อาจจะไม่เกิดขึ้นก็เป็นได้ เมื่อถามว่าในฐานะรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงได้เตรียมความพร้อมในเรื่องนี้อย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า เตรียมตัวทุกอย่างอยู่ทุกวัน แต่เป็นไปในกรอบที่กฎหมายอนุญาต โดยมีเป้าหมายให้บ้านเมืองอยู่รอด ปลอดภัย สิ่งใดที่สามารถเปิดเผยให้ประชาชนรับทราบได้ก็จะทำ

...