ทีมกฎหมาย ปชป. ขี้ ศาล รธน.กำลังทำให้สังคมสับสนกรณีให้ศาลอาญาถอนประกัน "จตุพร" ต้องดูเงื่อนไขของกฎหมายตามข้อเท็จจริง กดดันข่มขู่ทำเหมือนบ้านเมืองไม่มีกฎหมาย...

เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.  นายราเมศ รัตนะเชวง คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญได้ยื่นขอให้ศาลอาญาถอนการประกันตัว นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช.ว่า กรณีดังกล่าว กำลังมีการเบี่ยงเบนประเด็นให้สังคมเกิดความเข้าใจผิดว่า สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญทำไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยอ้างว่าไม่มีสิทธิ ทั้งที่ในข้อเท็จจริงและข้อกำหนดเงื่อนไขตามเจตนารมณ์ของกฎหมายระบุชัดเจน ในเรื่องของการทำผิดเงื่อนไขสัญญาการขอประกันตัวผู้ต้องหาหรือจำเลยในคดีว่าขึ้นอยู่ที่พฤติกรรมของตัวจำเลยเป็นสำคัญ แม้ไม่มีบุคคลใดร้องขอ แต่หากปรากฏข้อเท็จจริงว่าได้กระทำผิดตามเงื่อนไขที่ศาลได้มีคำสั่งไว้ ศาลยุติธรรมก็สามารถที่จะพิจารณาเพิกถอนการประกันนั้นได้อยู่แล้ว หรือกรรณีมีผู้ที่รับผลกระทบต่อพฤติกรรมของจำเลยร้องขอก็ได้

สมมติว่าผู้ร้ายที่เผาบ้านคนอื่นได้รับการประกันปล่อยตัวชั่วคราวไปโดยศาลให้ประกัน โดยกำหนดเงื่อนไขว่า ห้ามมีพฤติกรรมในลักษณะดังกล่าวอีก หากวันหนึ่งผู้ร้ายคนนั้นกำลังจะเตรียมไม้ขีดเผาบ้านที่ยังไหม้ไม่หมดอีก แล้วตำรวจเกิดจับได้ เมื่อศาลทราบก็สามารถเพิกถอนการประกันตัว แล้วให้ผู้ร้ายคนนั้นมาอยู่ในคุกได้ ในช่วงพิจารณาคดี ไม่เช่นนั้นผู้ร้ายคนนี้ก็จะไปทำความเดือดร้องให้สังคมโดยไม่จบสิ้น

นายราเมศ กล่าวต่อว่า ฉะนั้น ทั้งหมดอยู่ที่พฤติกรรมของนายจตุพรทั้งสิ้นว่า พฤติกรรมต่างๆ ขัดต่อเงื่อนไขสัญญาที่ให้ศาลไว้หรือไม่ ถ้าไม่มีพฤติกรรมที่เข้าข่ายเป็นเหตุผิดเงื่อนไขสัญญาในการประกันตัวที่ให้กับศาลอาญาไว้ ต่อให้ใครหน้าไหนไปยื่นร้อง ก็ไม่มีทางที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งของศาลอาญาได้ จึงขอแนะนำให้นายจตุพรเตรียมพยานไปพิสูจน์ความจริงในศาลอาญาดีกว่าที่จะมา กล่าวโทษคนอื่นจนมั่วไปหมด เพราะอำนาจต่างๆ เหล่านี้เป็นดุลพินิจของศาลที่จะพิเคราะห์ข้อเท็จจริงทั้งหมดว่าเป็นอย่างไร ทั้งนี้ ส่วนตัวเห็นว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญหลายท่านที่น่าเห็นใจ เพราะไม่อยู่ในสถานะที่จะตอบโต้ฝ่ายการเมืองได้ตลอด เพราะมีแกนนำ นปช.และ ส.ส.พรรคเพื่อไทยหลายคนที่ขึ้นเวทีของพรรคเพื่อไทยที่ดอนเมือง เมื่อวานนนี้ (22 มิ.ย.) และมีการด่าทอตุลาการศาลรัฐธรรมนูญให้เสียหาย ชนิดที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในสังคมไทยว่า จะมีการด่าทอตุลาการศาลรัฐธรรมนูญอย่างไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง แถมยังมีการกดดัน ข่มขู่ คุกคาม ทำเสมือนประเทศนี้ไม่มีกฎหมาย

...

“ขนาดกับอำนาจตุลาการศาล พวกเขายังไม่เกรงกลัว แล้วองค์กรตรวจสอบอื่นๆ จะเหลืออะไร นี่คือสิ่งที่น่ากลัวถึงการกลับมาของระบบทักษิณ และขอเรียกร้องไปยังพรรคเพื่อไทยว่า ช่วยกำชับสมาชิกพรรคของท่านด้วยว่า กรุณาให้ความเคารพศาลยุติธรรมและระบบการตรวจสอบ อย่าสร้างพฤติกรรมที่ผิดๆ ให้จารึกไว้ในประวัติศาสตร์ไทยอีกเลย” นายราเมศ กล่าว.