“อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้นำฝ่ายค้าน ลั่นพร้อมเป็นพยานคดีแก้ไข รธน.ล้มล้างการปกครอง ย้ำให้ดูที่พฤติกรรม เตือน พท.ยุติเดินสายด่าศาลรธน.
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวถึงกรณีการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ ปี 50 ที่นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาระบุ อ้างให้ตนเองเป็นพยานในคดีว่า พร้อมให้ความร่วมมือในการเป็นพยานกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญจะไต่สวนคำร้องร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 เป็นการล้มล้างการปกครองหรือไม่ จึงไม่มีปัญหาหากนายวัฒนา เซ่งไพเราะ โฆษกประธานสภาฯ ซึ่งเป็นทนายในกรณีนี้จะขอให้ศาลรัฐธรรมนูญเรียกตนและนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ไปเป็นพยานเพื่อให้ข้อมูลโดยพร้อมให้ความจริงต่อศาล ซึ่งตนไม่ได้เป็นคู่กรณีในเรื่องนี้ ส่วนที่นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ทีมกฎหมายพรรคเป็นผู้หนึ่งที่ร่วมยื่นคำร้องด้วยนั้น ก็ไม่ได้กระทำในนามพรรคแต่เป็นเรื่องส่วนตัว โดยยังมีอีก 4 คำร้องจาก 4 คณะที่ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาด้วย ทั้งนี้อยากให้ดูบทความของนายแก้วสรร อติโพธิ เคยเขียนไว้ว่า กรณีมาตรา 68 ไม่ใช่บอกว่า ตัวร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญขัดต่อรัฐธรมนูญหรือไม่ แต่เป็นกรณีว่ามีขบวนการล้มล้างการปกครองหรือไม่ เป็นคนละประเด็นกัน ซึ่งปัจจัยที่จะเป็นตัวบ่งชี้่ว่ามีขบวนการล้มล้างการปกครองหรือไม่ ก็ต้องดูที่พฤติกรรมของบุคคลที่เกี่ยวข้อง ว่ามีเป้าหมายแสดงเจตนาอย่างไร ตนจึงอยากเตือนผู้ที่สนับสนุนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ หากมีการปลุกระดมในลักษณะล้มล้างฝ่ายตุลาการหรือศาล ยิ่งเป็นการยืนยันว่าเหมือนมีเจตนาที่จะเปลี่ยนแปลงรูปแบบของรัฐ
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ขบวนการล้มล้างการปกครอง ไม่ได้จำกัดอยู่ที่ตัวร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญแต่ต้องดูที่พฤติกรรมภาพรวมว่ามี กระบวนการล้มล้างหรือไม่ การเคลื่อนไหวนอกสภาที่มีการโจมตีตุลาการก็คงต้องประกอบกันว่าไปถึงจุดนั้น หรือไม่ ตนไม่ได้บอกว่าเป็นหรือไม่เป็น แต่อธิบายว่ามาตรา 68 เป็นเรื่องการกระทำ ไม่ได้เจาะจงที่ตัวร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ แตกต่างจากการยื่นตีความกฎหมาย ทั้งนี้ ตนไม่บังอาจที่จะไปเสนอว่า ศาลควรทำอะไร เพราะเชื่อว่าศาลมีความเข้าใจถึงบทบาทหน้าที่ของตัวเองดีอยู่แล้ว ทั้งนี้ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญจะเริ่มกระบวนการไต่สวนนั้น และไม่อยากให้มีการใช้มวลชนกดดันศาลรัฐธรรมนูญ เพราะหากรัฐบาลมั่นใจว่า ไม่มีปัญหาก็ให้ผู้เกี่ยวข้องไปชี้แจง ส่วนที่พรรคเพื่อไทยเดินสายเปิดเวทีและมีการกล่าวโจมตีศาลรัฐธรรมนูญนั้น เห็นว่า ไม่ควรจะมีกระบวนการอย่างนี้และรัฐบาลมีหน้าที่ดูแล ไม่ให้กลุ่มคนไปข่มขู่คุกคามตุลาการ และตนขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา
...