กับคำถามของนักข่าวประจำทำเนียบรัฐบาล สัมภาษณ์ "เทพเทือก" นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง กรณีช่วงเช้ามืดวันที่ 17 สิงหาคม มีรถถังออกมาวิ่งบนถนนทำเอาประชาชนแตกตื่นตกใจ

โดยบรรยากาศที่เร้าไปกับข่าวลือกองทัพปฏิวัติ กระแสรัฐประหารเงียบ

พรึบพรับ ลามไว ยากที่จะดับได้


และในอารมณ์ที่ไม่แน่ใจว่า การันตีหรือดักคอ "เทพเทือก" พูดเป็นทำนองออกตัว ตลอดเวลา 78 เดือนที่ผ่านมา คิดว่ารู้ และเข้าใจ ชีวิตจิตใจ ความคิดของขุนทหารดี ท่านเหล่านี้เป็นทหารในระบอบประชาธิปไตย ไม่ได้ประสงค์ที่จะแสวงหาอำนาจ

ชงยาหวานใส่ไว้ก่อน

แต่ที่เสียงเข้มปนขมมาเลย "บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม "บิ๊กบราเธอร์" ขั้วอำนาจสีเขียว บอกปัดข่าวลือปฏิวัติ กระแสรัฐประหารเงียบ

"ไม่มี ผมขอยืนยัน และในส่วนของ ผบ.เหล่าทัพ ไม่ได้มีการหารือเรื่องนี้ เป็นข่าวที่สื่อเขียนขึ้นมาเอง"

พระเอกตามท้องเรื่องออกโรงเคลียร์ ดับกระแสเฉพาะหน้า

ภายใต้สถานการณ์ที่ยังไม่มีอะไรในกอไผ่ กับดีเดย์กองทัพเสื้อแดงยื่นถวายฎีกา ก็ไม่มีอะไรตื่นเต้นมากไปกว่าฝนเทกระหน่ำ ฟ้าคำรามเปรี้ยงปร้างในห้วงนาทีสำคัญ


โดยที่พระเอกตามท้องเรื่อง อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร โฟนอินข้ามประเทศ ถวายสัตย์ปฏิญาณตนต่อหน้ากองเชียร์เสื้อแดงแน่นท้องสนามหลวง

"ข้าพเจ้า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัว ขอถวายสัตย์ปฏิญาณตนว่า ข้าพเจ้าและครอบครัว จะจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และราชวงศ์จักรีทุกพระองค์ ตลอดจนชีวิตหาไม่ ควรมิควรแล้วแต่จะโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม"


ก่อนนำผู้ร่วมชุมนุม ร้องเพลงสดุดีมหาราชา

บรรลุเป้าหมายเบื้องต้นที่ตั้งไว้ สำนักข่าวบีบีซีของอังกฤษ รายงานข่าวไปทั่วโลก กลุ่มคนเสื้อแดง ผู้สนับสนุนของอดีตนายกฯทักษิณ ได้รวมตัวกันเพื่อถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ โดยกลุ่มตัวแทนตั้งขบวนขนรายชื่อของประชาชนกว่า 5 ล้านรายชื่อ ที่ร่วมกันเข้าชื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ จากท้องสนามหลวง ไปยังสำนักพระราชวัง

เสื้อแดงกลับที่ตั้ง โดยเกมโชว์พลังวัดใจยังต้องยื้อกันต่อไป

ในขณะที่คดีทุจริตกล้ายางก็ลุ้นเก้อ เพราะศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้สั่งเลื่อนอ่านคำพิพากษาออกไปเป็นวันที่ 21 กันยายน เนื่องจากนายอดิศัย โพธารามิก อดีต รมว.พาณิชย์ ส่งหนังสือขอเลื่อนศาล อ้างป่วยรักษาตัวอยู่ที่สหรัฐฯ

เอาเป็นว่า ผ่านวันลุ้นระทึก 17 สิงหาคม แบบหายใจโล่งชั่วขณะ


แต่โดยเงื่อนปมวิกฤติการเมืองที่ยังขดแน่น ไม่ได้คลายปมลงแต่อย่างใด

รังแต่จะเขม็งเกลียวขึ้น ล่าสุด "เจ๊สด" นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ส่งซิก กกต.จะนัดพิจารณาลงมติกรณี 44 ส.ส.ถือครองหุ้นกิจการสื่อและบริษัทที่รับสัมปทานจากภาครัฐ ในวันที่ 18 สิงหาคมนี้

แย้มไต๋ ส่วนใหญ่พบว่า เป็นบริษัทต้องห้ามที่ซ้ำกับกรณี ส.ว.และ 13 ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่ กกต.พิจารณาถอนสิทธิไปแล้ว

ส่อแววโดนสอยอีกลอตใหญ่


บวกตัวเลข ส.ส.ที่มีแนวโน้มจะหายไปจากสภาผู้แทนราษฎร อีกหลายสิบที่นั่ง เก้าอี้โหว่ทั้งฝ่ายรัฐบาลและซีกฝ่ายค้าน


และยังมีปมวุ่นๆข่าววงในนักกฎหมายและเซียนเลือกตั้งคาดกันว่า จะเป็นจุดกระตุ้นมุมหักเหทางการเมือง กับคิวติดพันจากกรณีที่พรรคพลังประชาชนถูกยุบ โดยกฎหมายต้องเคลียร์บัญชีทรัพย์สินต่อ กกต.

แต่พบตัวเลขงอก เคลียร์ไม่ออก เลยโยนให้ ส.ส.พรรคเพื่อไทย เซ็นเป็นเจ้าหนี้ค่าโปสเตอร์ ป้ายหาเสียง กะตีกินฟรี คนละเกือบ 100,000 บาท


แต่คนเซ็นเผลอลืมไปว่า ไม่ได้แจ้งตัวเลขนี้ไว้ในบัญชีค่าใช้จ่ายหลังเลือกตั้งกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พลาดรัดคอตัวเอง

แนวโน้ม ปลาตายน้ำตื้นอีกฝูงใหญ่ นับหัวแล้วกว่า 50 ราย


รวมกับคิว ส.ส.โดนพิษหุ้น โดยตัวเลขคร่าวๆเกือบร้อยเก้าอี้ ส.ส.ที่จะหายไป จากจำนวนเต็ม 480 ที่นั่ง ส่อเค้ากลายเป็นสภาพิกลพิการ

โดยกับดักรัฐธรรมนูญฉบับหน้าแหลมฟันดำ ล็อกไว้จนขยับไม่ออก ซ้ำวิกฤติให้ยิ่งดิ่งลงลึก ยากจะสางกันด้วยช่องทางปกติ

ตามสถานการณ์บีบให้ใช้ช่องทางพิเศษ.


ทีมข่าวการเมือง รายงาน

...