นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อวยพรวันคล้ายวันเกิดนายกรัฐมนตรี ขอให้มีกำลังในการทำงานเพื่อประชาชน แนะ ปมสนามบินอู่ตะเภา ต้องชี้แจงสังคมให้ชัดเจนโปร่งใส...
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการขอใช้สนามบินอู่ตะเภาของสหรัฐฯ ที่ยังไม่มีการนำเรื่องนี้ เข้าที่ประชุม ครม. ว่า โครงการลักษณะนี้ จำเป็นต้องทำความเข้าใจเพิ่มเติม และทำให้เกิดความโปร่งใสกับทุกฝ่าย เพื่อลดปัญหาความหวาดระแวง จากข้อครหาทั้งหลาย เพื่อทำให้เกิดความมั่นใจว่า ทุกอย่างได้ปฏิบัติตามขั้นตอนกระบวนการของรัฐธรรมนูญและกฎหมาย
ดังนั้น รัฐบาลต้องตระหนักให้มาก ซึ่งหากรัฐบาลเริ่มเข้าใจถึงความละเอียดอ่อน ของเรื่องแบบนี้ แล้วจะทำอะไรก็เดินหน้าทำให้เกิดความโปร่งใส ก็จะเป็นเรื่องที่ดี และโดยหลักการแล้วการจะอนุมัติ หรือการที่ไทยจะไปร่วมมือกับประเทศอื่น ควรต้องมองหรือไม่ว่า อีกประเทศเขาจะคิดอย่างไร เพราะเรามีประเด็นที่เป็นความสำคัญในเชิงยุทธศาสตร์ทางด้านความมั่นคง การต่างประเทศ ก็ทำอย่างรอบคอบ รอบด้าน แล้วก็ให้เกิดความสมดุลดีที่สุด
สวน “ปลอด” เหตุใดไม่เผยรายละเอียด ท้าให้ ร้อง ปปช.
เมื่อถามว่า นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทย์ฯ ระบุว่า สิ่งที่รัฐบาลนี้ กำลังทำต่อเนื่องจากรัฐบาลที่แล้ว ซึ่งเคยให้ GISTDA (สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ) ลงนามกับ นาซา ของสหรัฐฯ เพื่อใช้พื้นที่ในประเทศไทยมาก่อน กล่าวว่า “ไม่ทราบว่า คุณปลอดประสพ กำลังพูดเรื่องอะไร แต่ว่าประเด็นที่สำคัญก็คือ ขณะนี้ เมื่อมันมีการขอที่จะใช้พื้นที่ตรงนี้ แล้วก็มาในสถานการณ์ ซึ่งมีการวิเคราะห์เกี่ยวกับปัญหาการเมืองระหว่างประเทศ ในภูมิภาค “จึงไม่เข้าใจว่า แทนที่รัฐบาลจะให้รายละเอียดต่างๆ กลับกลายเป็นพยายามที่จะไปหยิบยกประเด็นอื่นขึ้นมาเป็นประเด็นทางการเมือง รัฐบาลไหน เรากำลังจะพูดถึงว่า อะไรที่จะเป็นการวางแนวทางที่ดีที่สุดสำหรับประเทศในภาพรวม
ทำไมคุณปลอดประสพ ไม่ไปให้ความสำคัญกับตรงนั้น แต่ไปคิดว่า มีปัญหาและมีการละเมิดอะไรจริง ก็ควรจะไปร้องต่อ ป.ป.ช.ได้ เพราะเวลานี้ สังคมต้องการความชัดเจน สังคมต้องการความโปร่งใส ทำไมรัฐบาลให้ไม่ได้ในรายละเอียด และเรื่องนี้มันก็จะชัดเจนว่า จะต้องเข้าสภาตามมาตรา 190 ( 2) ของรัฐธรรมนูญหรือไม่ แต่ว่าถ้าบอกว่า เรื่องไม่มีอะไร แต่ก็ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ก็เป็นเรื่องแปลก เพราะจะส่งผลกระทบในแง่ของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จึงถือเป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศ แล้วก็หน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่จะต้องไปทำตรงนี้”
“มาร์ค” อวยพร “นายกฯ ปู” มีกำลังทำงานเพื่อประชาชน
เมื่อถามว่า รัฐบาลต้องทำความเข้าใจกับสหรัฐฯ ในการอนุญาตให้ใช้พื้นที่อู่ตะเภา ล่าช้า ในขณะที่ ผบ.ทบ.ของจีน จะมาพบกับรัฐบาลไทย หากเป็นเช่นนี้แล้ว ไทยจะตกอยู่ในสภาวะเช่นใด นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า “ผมว่าทำไมรัฐบาล แทนที่จะทำเรื่องง่าย ๆ ให้เป็นเรื่องยาก ก็ทำทุกอย่างให้มันตรงไปตรงมาว่า เรื่องจริงมันคืออะไร ก็ตอบคำถามตรงนี้ แล้วทุกอย่างมันก็จะคลี่คลายได้ว่ามันควรจะทำอะไรอย่างไร สังคม ทุกฝ่าย ก็ต้องการที่จะให้ประเทศไทยได้รับประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานที่เรามีอยู่แล้ว แต่จะทำอะไรนั้น ก็ต้องมีความชัดเจนแล้วก็มีความรอบคอบ มีความโปร่งใส”
ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวอวยพรเนื่องในวันคล้ายวันเกิดของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ ที่ตรงกับวันที่ 21 มิย.นี้ว่า ว่า “ในโอกาสวันเกิด ก็ขอให้นายกรัฐมนตรีมีกำลังในการที่จะทำงานเพื่อประชาชน ทำสิ่งดี ๆ ให้กับประชาชนครับ”
แนะ ดีเอสไอ ให้ข้อมูล คอป.ด้วย
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ได้เข้าชี้แจงเหตุการณ์การสลายการชุมนุมของ นปช. ในปี 2553 ต่อสำนักงานคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงแห่งชาติ (คอป.) เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. ที่ผ่านมา ว่า ตนจะส่งเอกสารเพิ่มเติมกลับไป และจะให้ข้อมูลให้มากที่สุด เพราะเคยไปให้ถ้อยคำมาแล้ว 4 ครั้ง
ทั้งนี้ ทาง คอป.ไม่ได้ระบุเฉพาะเจาะจงว่า ต้องการข้อมูลส่วนใดเพิ่มเติม แต่คิดว่าข้อมูลไหนที่จะเป็นประโยชน์ก็จะส่งไปให้ ความจริงตนได้แนะนำไปว่า หน่วยงานของรัฐอย่างกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ซึ่งเคยมีเอกสารมากมาย ก็ควรส่งเอกสารทั้งหมด ไปให้ทาง คอป.เพื่อประกอบการพิจารณาในการเขียนสรุปรายงานส่งให้รัฐบาลด้วย
ย้ำไม่เคยรู้ รัฐคิดต่ออายุ คอป.หลัง 16 ก.ค.
เมื่อถามว่า อายุการทำงานของ คอป.จะสิ้นสุดในวันที่ 16 ก.ค. นี้ คิดว่าใครควรจะเข้ามาดำเนินการต่อ หรือต้องหมดไปโดยสภาพ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เข้าใจว่าเขาคงไม่มีแนวคิดที่จะต่ออายุ เพราะตัวกรรมการเอง ดูเหมือนจะยืนยันว่า ที่จะสรุปงานของเขา และไม่เคยได้ยินรัฐบาลมีแนวคิดที่จะต่ออายุให้ คงเป็นเรื่องที่จะต้องให้มีรายงานฉบับสุดท้าย ประมาณเดือน ก.ค.
ทั้งนี้จากการพูดคุยได้พูดแต่เรื่องของแนวคิด เกี่ยวกับการแก้ปัญหาความขัดแย้งในอนาคต ไม่ได้พูดเกี่ยวกับเรื่องเวทีสานเสวนา และจากการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น จะเน้นในเรื่องประเด็นความยุติธรรม ว่า เป็นหัวใจของการแก้ปัญหาความขัดแย้ง
เมื่อถามอีกว่า แสดงว่า คอป.ยังยืนยัน ที่จะค้นหาความจริงต่อไป เพื่อนำไปสู่ข้อยุติ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทาง คอป.ระบุว่า มีการทำงาน 4 ด้าน คือ 1. ค้นหาความจริง 2. ข้อเสนอแนะเรื่อการเยียวยา 3. มีการวิจัยถึงรากเหง้าของปัญหาต่างๆ และ 4. แนวคิดที่จะป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เกิดขึ้นอีก.
...