ท่ามกลางบรรยากาศบ้านเมืองที่อบอวลไปด้วยข่าวลือ

ในอารมณ์ที่รีบชิงดักคอตีกัน ล่าสุดนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ หน่วยตีปี๊บของฝ่ายค้านพรรคเพื่อไทย เปิดเกมจุดพลุโหมกระแส ระหว่างประชุมสภาฯวันที่ 14 สิงหาคม ส.ส.จับกลุ่มคุยกันรอบห้องประชุมถึงข่าวลือกันให้แซด

กองทัพจะปฏิวัติรัฐประหาร ด้วยชนวนที่มวลชนเสื้อแดงปะทะกับกลุ่มคนเสื้อน้ำเงิน


เร้าต่อมตื่นตูม ขอให้สื่อมวลชนรีบเสนอข่าวนี้ก่อนทหารจะปฏิวัติ

ว่าแล้วก็ส่งซิกเป็นนัย จี้ให้รัฐบาลพิจารณาให้ดีว่า ถ้าแก้ไขปัญหาบ้านเมืองไม่ได้ ก็ยุบสภาดีกว่าปล่อยให้ ทหารปฏิวัติ รัฐบาลต้องคิดถึงบ้านเมืองด้วย นักการเมืองไม่เป็นอะไร สลับกันเข้ามามีอำนาจ แต่หากเกิดการปฏิวัติ ชาวบ้านจะเดือดร้อน

ตามสไตล์ฝ่ายค้าน พูดเอามันเข้าว่า

แต่โดยสัญญาณเข้มๆ อย่างเป็นทางการ พ.อ.ธนาธิป แสงสว่าง โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงปฏิเสธกระแสข่าวลือที่นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย ซุ่มบินเงียบไปคุยกับ "บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม "บิ๊กบราเธอร์" ขุมอำนาจสีเขียวบวกน้ำเงิน ที่ประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 13-14 สิงหาคม ที่ผ่านมา

นัยว่าโยงกับแผนล้มกระดาน

ทหารย้ำเสียงเข้ม นายเนวินไม่ได้เดินทางไปพบ รมว.กลาโหม หรือ ผบ.เหล่าทัพ เพราะมีภารกิจทั้งวัน ตั้งแต่เช้าจดเย็น จึงไม่มีเวลาที่ปลีกตัวไปพบหรือพูดคุยกับใครได้

รวมทั้งไม่ได้มีการซุ่มทำโผโยกย้ายนายทหาร ตามที่มีข่าวแต่อย่างใด

โดยแบบแผนของกองทัพ ไม่รับมุกกับข่าวลือที่ลากโยงไปถึงการปฏิวัติ

บอกปัดกันตามโปรแกรม

แต่ก็อีกนั่นแหละ โดยธรรมชาติกระแสรัฐประหารที่ไม่มีใครบอกล่วงหน้า แม้แต่คนทำเองยังรู้ก่อนลงมือแค่ไม่กี่ชั่วโมง

ข่าวลือพลิกเป็นจริงได้ตลอดเวลา

มันขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่ลงล็อก พอดีกับจังหวะและโอกาส


ทั้งหมดทั้งปวง มันก็อย่างที่ พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน อดีตประธานคณะที่ปรึกษากระทรวงกลาโหม คนดัง ออกมาปล่อยมุกตามน้ำ

เมืองไทยแปลก ข่าวลือมักจะเป็นจริงเสมอ


แต่โดยการนี้ มันสำคัญที่เหตุผลแนบท้ายกับรายการ "เขี่ยไฟ" ราดน้ำมัน พล.ร.อ.บรรณวิทย์ ดับเครื่องชน อัดแหลกนายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กำลังปฏิบัติ 2 มาตรฐาน กรณีบีบให้ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. ลาไปปฏิบัติราชการที่ภาคใต้ แล้วตั้งรักษาการ ผบ.ตร.แทน

ทำให้ระบบราชการพังพินาศย่อยยับ เสื่อมเสียเกียรติยศมาก

เพราะการตั้งรักษาการ ตั้งเฉพาะไปต่างประเทศ หรือนายกฯเข้าใจผิดว่า ภาคใต้ไม่ใช่ดินแดนประเทศไทย ถึงตั้งรักษาการ และเวลานายกฯอภิสิทธิ์ไปจังหวัดบุรีรัมย์หรือเชียงใหม่ ไม่เห็นตั้งรักษาการ ถ้ามีการฟ้องร้องนายกฯผิดแน่

ย้อนคอหอยแล้วยังจี้จุดแทงใจดำ


พล.ร.อ.บรรณวิทย์ฟันธงเปรี้ยงเลยว่า เหตุบีบ ผบ.ตร.ลงไปปฏิบัติภารกิจภาคใต้ หรือการปล่อยให้เสื้อเหลืองกับเสื้อแดงต่อสู้เรื่องการถวายฎีกา เป็นเกมเบี่ยงประเด็นให้สังคมหลงกระแส

เพราะผลงานตัวเองไม่มี ขณะที่โครงการชุมชนพอเพียงก็ลือว่าทุจริตมาก

ขมวดปมรวบคำตอบสุดท้าย

มุมหนึ่งก็ตรงกับนายสุรพงษ์ หน่วยตีปี๊บพรรคเพื่อไทย ที่ตอกลิ่ม ยั่วทหาร ถ้าคิดว่าการเมืองไปก้าวก่ายจนอดทนไม่ได้ จะทำก็สุดแล้วแต่ เพราะขณะนี้การเมืองเข้าไปก้าวก่าย วุ่นวายมากกับตำรวจ ทหาร จนข้าราชการประจำทนไม่ไหว อาจมีปฏิวัติอีกรอบ

อีกมุมหนึ่งก็เห็นๆ กัน กับอาการหมดมุก โบ้ยกันทื่อๆ


นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงออกตัวคิวทุจริตโครงการชุมชนพอเพียง ขณะนี้พบว่ามีกระบวนการพยายามโยงการกระทำความผิด  ระหว่างผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่นกับเจ้าหน้าที่ในระดับล่าง ให้เสมือนว่า  เป็นการรับรู้และเห็นชอบจากผู้กำกับนโยบายในระดับการเมือง โดยพบหลักฐานชัดเจนว่า มีกระบวนการหากินกับเงินหลวง ต่อเนื่องมาจากรัฐบาลในอดีต โยงกับฝ่ายค้านในขณะนี้

มีการสร้างหลักฐานเท็จ แอบอ้างเกี่ยวโยงถึงนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกฯ

แทรกแซงกองทัพ ล้วงลูกตำรวจ อุ้มทุจริต

หัวเชื้อไวไฟ พร้อมจุดชนวนปฏิวัติ.


ทีมข่าวการเมือง รายงาน

...