รมว.ศึกษาธิการ ปูด มีแก๊งปั่นหัวผู้ปกครองอยู่เบื้องหลัง  ยัน รับ ม.4 บดินทรฯ โปร่งใส ยอมรับ เห็นใจ นร.ที่ต้องถูกตัดชื่อออก แต่ต้องทำเพราะรักษาระบบส่วนใหญ่ ยัน รร.รับเงินบริจาคได้ แต่ต้องไม่ใช่เงื่อนไขรับเด็ก

วันที่ 20 พ.ค. นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รมว.ศึกษาธิการ กล่าวกับทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ กรณีที่มีกลุ่มนักเรียน ชั้น ม.3 รร.บดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) จำนวน 5 คน ประท้วงอดข้าว เพื่อเรียกร้องสิทธิ์ ให้ได้เข้าเรียนต่อในระดับชั้น ม.4 หลังจากไม่ผ่านเกณฑ์เข้าเรียนต่อ โดยอ้างว่าทางโรงเรียนมีการรับสินบนว่า ตนได้เรียก ผอ.โรงเรียนบดินทรเดชาฯ มารายงานและสอบถามแล้ว ซึ่ง ผอ. ยืนยันว่า ได้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การรับนักเรียนเข้าเรียน ตามหลักเกณฑ์ของ สพฐ.โดยเคร่งครัดทุกประการ  คือรับนักเรียน ม.3 จำนวน 80% และอีก 20% รับจากนักเรียนภายนอก ยืนยันว่าไม่มีการรับสินบนอย่างที่มีข้อสงสัยอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ กลุ่มนักเรียนที่ไม่ได้รับการพิจารณาให้เข้าเรียนต่อในชั้น ม.4นั้น เป็นเพราะสอบไม่ได้ตามเกณฑ์ที่กำหนด ซึ่งทาง ศธ. ก็ได้หาทางออกไว้ให้เด็กแล้วโดยเตรียมโรงเรียนใหม่ให้คือโรงเรียนคู่พัฒนา

ส่วนกรณีที่มีกลุ่มผู้ปกครอง ที่กล่าวหาหรือสงสัยว่า ทางโรงเรียนอาจมีการรับสินบนนั้น ทางเจ้าหน้าที่กระทรวง ศธ. ได้มีการแจ้งความไว้เป็นหลักฐานเพื่อเตรียมเอาผิดตามกฎหมายในข้อหาหมิ่นประมาท ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงแล้ว

นายสุชาติ กล่าวอีกว่า ตอนนี้ ศธ. เองก็ทราบแล้วเช่นกันว่ามีกลุ่มบุคคลใดอยู่เบื้องหลัง ที่ทำให้เกิดความวุ่นวายในกรณีดังกล่าวขึ้น เพราะ ต้องขอยืนยันว่า ที่ผ่านมา การรับนักเรียนของโรงเรียนบดินทรเดชาฯ ดำเนินการถูกต้องตามขั้นตอน ไม่มีการทุจริต ทั้งยังต้องวอนขอความเห็นใจจากกลุ่มผู้ปกครองและนักเรียน  อย่าได้หลงเชื่อกลุ่มคนบางกลุ่มที่อยู่เบื้องหลังที่พยายามปล่อยข่าวที่ทำให้ระบบการรับนักเรียนของกระทรวงศึกษาธิการเสียหาย ยืนยันอีกครั้งว่า จากการตรวจสอบ ไม่มีการรับสินบน แต่เป็นเพราะกลุ่มนักเรียนดังกล่าวสอบได้ไม่เข้าเกณฑ์ของ สพฐ.กำหนดไว้ จึงต้องถูกคัดออก ซึ่งก็ขอให้กลุ่มผู้ปกครองและนักเรียนดังกล่าวยอมรับและเข้าใจ เพราะความจริงโรงเรียนเองก็มีการประกาศออกมาแล้วตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา ไม่ได้เพิ่งกำหนดขึ้นแต่อย่างใด

...

“ส่วนตัวก็รู้สึกเห็นใจกลุ่มนักเรียนดังกล่าว และก็เชื่อว่าไม่มี ผอ.โรงเรียนคนไหน ไม่อยากให้เด็กซึ่งความจริงก็คือลูกศิษย์เก่าทั้งนั้น ได้เข้าเรียนต่อหรอก หากเป็นไปได้ก็อยากรับทั้งหมด แต่ก็ต้องทำตามกฎเกณฑ์ที่ กระทรวงได้ตั้งเอาไว้ซึ่งระบบกฎเกณฑ์ดังกล่าวก็มีมานานแล้ว ไม่ได้มีตั้งขึ้นใหม่ แต่อย่างใด ดังนั้นเราต้องรักษาระบบส่วนใหญ่ไว้ อยู่ๆ จะให้มาแก้ไขอะไรกันตามใจคือต้องรับทั้งหมดคงแก้ไม่ได้  ไม่เช่นนั้นการศึกษาของประเทศต่อไปก็คงลำบาก” นายสุชาติ กล่าว

รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงกรณีที่ตอนนี้มีกระแสข่าวตำหนิมายังตนเองว่าเป็นต้นเหตุให้เกิดเรื่องเพราะมีนโยบายเปลี่ยนจากค่า "แป๊ะเจี๊ยะ" ให้มาสนับสนุนบริจาคเงินให้โรงเรียน ทำให้เป็นการเอื้อคนที่มีเงินได้ส่งบุตรหลานเข้าเรียน และอาจทำให้เกิดการทุจริต ได้ว่า หน่วยงานอื่นเป็นอย่างไรไม่ทราบ แต่หน่วยงานที่ผมดูแล ผมสั่งต้องไม่มีกรณีดังกล่าว ได้บอกไปแล้ว ว่าโรงเรียนสามารถที่จะรับเงินบริจาคได้ แต่มันจะต้องไม่เป็นเงื่อนไขในการรับเด็กเข้าเรียนต่อ มันต้องไม่เกี่ยวข้องกัน.