สดศรี สัตยธรรม

"สดศรี" การันตี "วิสุทธิ์" รู้งาน กกต. เผยส่อเลื่อนฟัน44 ส.ส.ถือหุ้น อ้างติดปัญหาผู้ถูกร้อง6คน เรื่องเอกสาร  จี้ "ประสพสุข" ส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความ 16 ส.ว. ... 

วันนี้ (22ก.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)นางสดศรี สัตยธรรม กกต. กล่าวถึงเรื่องแบ่งงานหลังจากที่นายวิสุทธิ์ โพธิแท่น กกต. คนใหม่ ที่เข้ามาแทนนายสุเมธ อุปนิสากร ที่ดูแลด้านกิจการการมีส่วนร่วมว่า ต้องหารือกับ กกต.ที่เหลือก่อน แต่ตำแหน่งที่ว่างตอนนี้คือด้านกิจการการมีส่วนร่วม ซึ่งเคยอยู่ในความดูแลของนายสุเมธ และนายวิสุทธิ์ ก็ยังไม่ได้ระบุว่าต้องการจะดูแลในด้านใด แต่ท่านเคยเป็น กกต.มาก่อน คงจะทราบงานต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ซึ่งหาก กกต.มาครบก็ต้องหารือกัน และต้องให้นายวิสุทธิ์ แต่งตั้งคณะอนุกรรมการวินิจฉัยเพิ่มเติม แทนส่วนของนายสุเมธที่ต้องพ้นตำแหน่งไป หรือจะไม่เปลี่ยนก็ได้ซึ่งก็ต้องแล้วแต่นายวิสุทธิ์ เพราะขณะนี้อาจจะมีปัญหาในเรื่องของชั้นอนุกรรมการที่มักมีข่าวรั่ว ว่าควรจะมีการเปลี่ยนหรือไม่อย่างไร 

นางสดศรี กล่าวถึงการพิจารณา 44 ส.ส.ว่า ขณะนี้สำนวนยังไม่เสร็จ และในการประชุม กกต.พรุ่งนี้ (23 ก.ค.) อาจจะมีการขอขยายเวลาเพิ่มเติม เนื่องจากยังติดปัญหาผู้ถูกร้องจำนวน 6 คนยังไม่ได้มาชี้แจง และยังไม่ได้รับเอกสารชี้แจงจากตลาดหลักทรัพย์และกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งกกต.ได้สั่งการไปว่าอย่าไปรอเอกสารว่าเขาจะส่งมา เราควรจะออกไปหาเอกสารด้วยตัวเอง นอกจากนี้เพื่อป้องกันปัญหาการยื้อคดีโดยไม่มาชี้ตามที่นัด ในอนาคตจำเป็นจะต้องระบุว่า หากไม่มีชี้แจงต้องให้ตัดพยานทิ้งไป เพราะเรื่องนี้ถือเป็นประโยชน์ของผู้ถูกร้องเอง และสำหรับส.ส.ที่กกต.ได้วินิจฉัยไปแล้วก็ขอให้ใจเย็นๆอย่าพึ่งรีบลาออก เพราะไม่มีประโยชน์ที่จะมาประชดกกต. อีกทั้งยังทำให้ประเทศเสียงบประมาณในการจัดการเลือกตั้งซ่อม และในกรณีนี้ก็ยังต้องถูกวินิจฉัยโดยศาลรัฐธรรมนูญอีกครั้ง เพราะกกต.ก็เหมือนอัยการ ที่ไม่มีเครดิต จึงไม่กลัวว่าใครจะมาดิสเครดิต 

เมื่อถามว่า กรณีดังกล่าวนายวิสุทธิ์ จะร่วมพิจาณณาด้วยหรือไม่ นางสดศรีตอบว่า เชื่อว่าหากมีการขยายเวลาออกไป นายวิสุทธิ์คงมีเวลาในการพิจารณาสำนวนและหารือกันในที่ประชุม ทั้งนี้เชื่อว่าการที่นายวิสุทธิ์เป็นผู้ที่มาจากสายรัฐศาสตร์ ก็ไม่น่ามีปัญหาในการทำงานหรือการวินิจฉัยร่วมกับ กกต.คนอื่น ส่วนกรณีที่นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา จะส่งคำวินิจฉัย 16 ส.ว.มาให้กกต.ทบทวน นางสดศรี กล่าวว่า ตอนนี้เราได้ส่งเอกสารไปยังประธานวุฒิฯแล้ว และคงจะไม่มาทบทวนแล้ว หากมีส.ว.บางคนต้องการจะชี้แจงเพิ่มเติมก็น่าจะให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้พิจารณา และตุลาการศาลรัฐธรรมนูญหลายคนก็เป็นส.ส.ร.มาก่อน น่าจะทราบเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ มาตรา 265 และ 48 เป็นอย่างดี ส่วนการที่ ส.ว.จะร้องต่อศาลปกครองว่า หากจะร้องก็เป็นสิทธิที่ทำได้ เพราะเรายืนยันว่าพิจารณาโดยชอบธรรม และกกต.ก็ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย หากมีข้อมูลว่าอะไรที่ไม่ถูกต้องก็สามารถก็เอาหลักฐานไปยื่นต่อศาลได้ และเชื่อว่าศาลจะพิจารณาโดยยุติธรรม  

หลังจากจัดพิธีต้อนรับนายวิสุทธิ์ โพธิแท่น กกต. คนใหม่อย่างเป็นทางการแล้ว นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า อยากให้หน่วยงานเน้นเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต ส่วนใครจะเชียร์สีอะไร ก็ถือเป็นสิทธิส่วนตัวแต่ต้องแยกแยะการทำงานโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการ รักษาความลับขององค์กร ซึ่งสำคัญที่สุด เพราะหน่วยงานนี้มีหน้าที่เอาคนเข้าสู่อำนาจและเอาคนออกจากอำนาจ เพราะฉะนั้นต้องเป็นกลางอย่าหวั่นไหวเข้ากับคนนั้นคนนี้ และต้องทำตามหน้าที่ ส่วนที่ตนเคยโดนอะไรมาบ้างนั้น อยากให้ไปอ่านคำพิพากษาและถามคนที่รู้จักว่าตนเป็นคนอย่างไร 

ส่วนการพิจารณาคุณสมบัติ 44 ส.ส.ถือหุ้นกิจการสื่อและสัมปทานรัฐ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ส่วนตัวยังไม่เห็นสำนวนดังกล่าวโดยตนต้องขอเข้าร่วมประชุมและศึกษาก่อนแต่ เรื่องนี้รัฐธรรมนูญ เขียนไว้อย่างไร ก็คงต้องพิจารณาไปตามนั้น ซึ่งหากกฎหมายเขียนเปิดช่องอะไรไว้ ก็อาจจะสามารถตีความไปตามช่องนั้นได้ แต่หากไม่ได้มีเปิดช่องไว้ก็ต้องว่าไปตามกฎหมาย ซึ่งการจะมาหาว่า กกต. คนนั้นคนนี้ไม่ยืดหยุ่นตีความตามตัวอักษรคงไม่ได้ เพราะต้องทำทุกอย่างโดยสุจริต  

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า วันนี้เป็นการประชุม กกต.นัดแรกที่นายวิสุทธิ์เข้าร่วมโดยมีนายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านกิจการบริหารการเลือกตั้งทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม เนื่องจากนายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานกกต. ติดภารกิจที่ประเทศเยอรมนี

...