“บิ๊กหรุ่น”ขอหยุดเรือดำน้ำ จัดการเรือดันน้ำ ชี้ ต้องช่วยประชาชนประสพภัย เชื่อเยอรมันเข้าใจ ส่ง แพล็อตแรก300ลำ ไป จ.อยุธยา เตรียมต่อเพิ่ม แจงปริมาณน้ำเจ้าพระยาแค่ปริ่มๆ กำชับ กำลังพลประสาน กทม.ดูแลศิริราช
วันที่14 ต.ค.ที่สโมสรกองทัพเรือ พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมณ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ให้สัมภาษณ์ถึงการผันน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา ลงสู่ทะเลว่า กองทัพเรือได้ดำเนินการร่วมกับภาคเอกชน ส่งเรือผันน้ำ นอกจากที่ศาลายา จ.นครปฐม ยังมีคลองลัดโพธิ์ คลองสรรพสามิต พร้อมทั้งเพิ่มเรือเพื่อให้การผันน้ำมีประโยชน์สูงสุด
ส่วนในวันที่ 16 ต.ค.จะมีการจัดเรือลงไปผันน้ำน้ำประมาณ1,000ลำนั้น ตอนนี้กองทัพเรือกับภารรัฐบาลได้เชิญชวนเรือต่างๆมาเข้าร่วม ซึ่งก็ได้เรือมากพอสมควร อย่างไรก็ตามกองทัพเรือยังได้ส่งกำลังพลประมาณ300คนไปสร้างพนังกั้นน้ำ ที่ศาลายา พร้อมทั้งเฝ้าระวังไม่ให้พนังกั้นน้ำพังลงมา
นอกจากนี้กรมอู่ทหารเรือมีการต่อแพ 300แพส่งที่ จ.อยุธยา ในขณะเดียวกันก็มีการต่อเพิ่มเพื่อรองรับพื้นที่ที่ใกล้เคียงกองทัพเรือ เช่นปากเกร็ด จ.นนทบุรี จ.ปทุมธานี
สำหรับในส่วนของกรมอุทกศาสตร์ ได้ติดตามความแตกต่างของระดับน้ำมาโดยตลอดโดยเฉพาะในช่วงที่มีน้ำทะเลหนุน ซึ่งจะมีปัญหาของการไหลเวียนของน้ำจากภาคเหนือทำได้ช้าลง
...
เมื่อถามว่า ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่เพิ่มสูงส่งผลต่อการขบวนเรือพยุหยาตราทางชลมาศ หรือไม่ พล.ร.อ สุรศักดิ์ กล่าวว่า การตรวจเมื่อเช้านี้ ความเร็วของน้ำอยู่ที่3,800 ลบ.ม.ต่อวินาที อยู่ในเกณฑ์ระดับปริ่มๆ ซึ่งได้ตั้งเกณฑ์เอาไว้4,000 ลบ.ม. แต่จะติดตามความเคลื่อนไหวของกระแสน้ำต่อไป สำหรับการใช้เรือตรวจมวลน้ำนั้นปกติกรมอุทกศาสตร์ทำเป็นประจำอยู่แล้ว โดยมีเรือประจำที่ดำเนินการเรื่องนี้อยู่ ร่วมถึงผลกระทบที่เกิดจากความเร็วและสูงของกระแสน้ำที่จะส่งผลกระทบ และถ้าหากมวลน้ำมีมากเราสามารถแจ้งเตือนประชาชนใน กทม.ได้ทันท่วงที
อย่างไรก็ตามอยากให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกและเตรียมตัวเองให้พร้อม ขอให้ติดตามข่าวสารทางภาครัฐบาล
มื่อถามว่า พื้นที่ใน โรงพยาบาลศิริราช ซึ่งเป็นที่ประทับมีการดูแลอย่างไรบ้าง พล.ร.อ.สุรศักดิ์ กล่าวว่า กำลังพลที่อยู่ประจำได้ประสานกับสำหนักงานระบายน้ำของ กทม.ดูแลเรื่องนี้อย่างเต็มกำลัง
เมื่อถามถึงความคืบหน้าของการจัดซื้อเรือดำน้ำ พล.ร.อ.สุรศักดิ์ กล่าวว่า ตอนนี้เรากำลังยุ่งกับเรือดันน้ำอยู่ เรือดำน้ำก็ต้องหยุดก่อน เพราะทุกหน่วยงานมุ่งไปสู่การช่วยเหลือประชาชน ไม่ว่าจะเป็นทาง กระทรวงกลาโหม กองทัพไทย และเหล่าทัพต่างๆ ซึ่งทางประเทศเยอรมันก็เข้าใจถึงสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในประเทศ
"ส่วนจะมีการพูดคุยให้ประเทศเยอรมันยืดเวลาจาก 15 ต.ค.ไปหรือไม่นั้นต้องคิดดูก่อน ดูสถานการณ์อีกที ตอนนี้เรามุ่งไปที่การช่วยเหลือประชาชน ซึ่งศูนย์ปฎิบัติการกองทัพเรือให้ความสำคัญเรื่องนี้"ผบ.ทร. กล่าว...
เมื่อถามว่า เรื่องค้างอยู่ที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) จะให้เจ้าหน้าที่ทำเอกสารชี้แจงเพิ่มเติมหรือไม่ พล.ร.อ.สุรศักดิ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องระหว่าง สตง.กับกระทรวงกลาโหม