"เดินหน้าเร่งเครื่องทำตามนโยบายที่เคยใช้หาเสียง ให้ออกมาเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน" นั่นคือทิศทางการเมืองไทย ของรัฐบาลปู 1 ที่จะต้องทำเป็นไฟต์บังคับ เพื่อลบคำสบประมาทของคนอื่น ที่ชี้ว่านโยบายของพรรคเพื่อไทยใช้หาเสียงได้ แต่หากจะทำให้เป็นจริง เป็นไปได้ยาก หรือจะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ จากนี้ไป หลังจากที่ครม.ยิ่งลักษณ์ 1 แถลงนโยบายในวันที่ 23-24 ส.ค. ก็ได้ฤกษ์เข้าทำงานอย่างเป็นทางการแล้ว ตั้งเป้าขับเคลื่อนให้เป็นรูปธรรม

ไฟต์บังคับ!รัฐบาล เร่งเครื่อง ทำตามคำสัญญา


นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ได้ออกมายอมรับว่า การแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาที่จะเริ่มต้นตั้งแต่วันพรุ่งนี้ ประชาชนจะได้ทราบความชัดเจนถึงการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ 1 โดยเฉพาะกรณีซึ่งเป็นที่สนใจของประชาชนคือ การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาทต่อวัน ซึ่งจะสอดคล้องกับผลิตผลของแรงงาน รวมไปถึงนโยบายปรับขึ้นเงินเดือนสำหรับผู้จบปริญญาตรีเป็น 15,000 บาท ยืนยันจะเริ่มได้ตั้งแต่เดือน  ม.ค. 2555 โดยภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชนขนาดใหญ่ จะนำร่องก่อน

นายกิตติรัตน์ ยังกล่าวอีกว่า นโยบายดังกล่าวไม่ใช่ประชานิยมเพื่อเอาใจแค่ส่วนใดส่วนหนึ่ง แต่เป็นนโยบายภาพรวมในการเปลี่ยนสมดุลประเทศ เพราะรัฐบาลไม่ได้ปรับขึ้นค่าแรงเพียงอย่างเดียว แต่จะมีนโยบายลดภาษีรายได้นิติบุคคล จาก 30% เหลือ 23% ในปี 55 และเหลือ 20% ในปี 56 ซึ่งเป็นการขยายฐานภาษีอีกด้วย ยังไม่รวมนโยบายบ้านหลังแรกปลอดภาษี 5 ปี พักหนี้ครัวเรือนเกษตรกรรายย่อยและผู้มีรายได้น้อยที่มีหนี้ต่ำกว่า 5 แสนบาท อย่างน้อย 3 ปี ปรับโครงสร้างหนี้สำหรับผู้ที่มีหนี้เกิน 5 แสนบาท และอย่างอื่นที่จะติดตามมาอีกในเวลาไม่นานจากนี้

...

เมื่อรองนายกรัฐมนตรี ที่ดูแลด้านเศรษฐกิจของประเทศโดยตรง ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ 1 ประกาศออกมาเช่นนี้ ก็เป็นที่แน่ชัดว่า รัฐบาลนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย พร้อมเดินหน้าทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้กับประชาชนแล้ว ชนิดเต็มอัตราศึก โดยไม่หวั่นผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น หากนโยบายไม่ประสบความสำเร็จ แน่นอนเป็นไฟต์บังคับ ต้องทำให้ได้ เพราะนั่นหมายถึงเสถียรภาพของรัฐบาลปู 1 ว่าจะอยู่ได้นานอย่างที่หลายคนคาดหวังไว้ หรือจะต้องมีอันเป็นไปก่อนถึงเวลาอันควร ผลงานจะเป็นภูมิคุ้มกัน และถือเป็นตัวที่จะการันตีมากที่สุด

ไฟต์บังคับ!รัฐบาล เร่งเครื่อง ทำตามคำสัญญา

ขณะที่การแถลงนโยบายของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ 1 มีการแบ่งงานในแต่ละเรื่องไปที่รองนายกรัฐมนตรีแต่ละคน ที่รับผิดชอบงานแต่ละฝ่ายไปแล้ว เพื่อไม่ให้นายกรัฐมนตรีหญิง ต้องตกเป็นเป้ารับน้องใหม่ของพรรคฝ่ายค้านอาชีพอย่างปชป. ซึ่งตั้งใจเตรียมส.ส.ในพรรคมาชำแหละนโยบายของเพื่อไทยอย่างชนิดเต็มอัตราศึก โดยนายกิตติรัตน์ชี้แจงด้านเศรษฐกิจ, พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ งานความมั่นคง, ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง แจงงานยุติธรรมและปราบปรามยาเสพติด, ยงยุทธ วิชัยดิษฐ ชี้แจงด้านสังคม และนายชุมพล ศิลปอาชา ชี้แจงการท่องเที่ยวและกีฬา

ไฟต์บังคับ!รัฐบาล เร่งเครื่อง ทำตามคำสัญญา


กับปรากฏการณ์พรรคฝ่ายค้านอย่างปชป. ที่ตัดสินใจเปิดเกมแจ้งความจับคดีอาญา และเตรียมยื่นถอดถอนนายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ ออกจากตำแหน่งตั้งแต่ไก่โห่ เนื่องจากอ้างกระทำผิดกฎหมายใช้ตำแหน่งหน้าที่ช่วยให้ "ทักษิณ" เข้าประเทศญี่ปุ่น  ตั้งแต่รัฐบาลไม่ทันจะแถลงนโยบายต่อสภาเข้าทำงานอย่างไม่เป็นทางการ

จนมาถึงกรณีพท.สวนหมัด ประกาศใช้ส.ส.ถึง 50 คน ทำหน้าที่เหมือนกับเป็นเกราะคุ้มภัยให้กับนายกรัฐมนตรีหญิง ในวันแถลงนโยบายของรัฐสภา ห้ามอย่างเด็ดขาดไม่ให้ส.ส.ฝ่ายค้านแขวะเรื่องส่วนตัวของ "น้องปู" โดยเฉพาะเรื่องพี่ชายที่ชื่อพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร    

ดังนั้น อุณหภูมิการเมืองในตอนนี้ เริ่มค่อยๆ ร้อนแรง และวุ่นวายขึ้นตามลำดับ เพียงแต่ดีกว่าเก่าอยู่หน่อยตรงที่การเมืองข้างถนน สารพัดม็อบที่ไทยประสบปัญหามาตลอด 4-5 ปี กลายมาเป็นการเมืองในระบบใช้เวทีรัฐสภาเป็นที่แสดงออกแทน แต่จะคงอยู่ได้อีกนานเท่าไหร่ ยังเป็นปัญหาที่ต้องขบคิด เพราะมีเงื่อนไขสำคัญคือ กรณีการนิรโทษกรรม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพราะทั้งพ.ต.ท.ทักษิณและน.ส. ยิ่งลักษณ์ นายกรัฐมนตรี นั้น ต่างฝ่ายต่างออกมายอมรับว่า มีส่วนตั้งครม.ชุดใหม่ ทั้งแนะนำและรับฟังคำแนะนำดังกล่าว

ไฟต์บังคับ!รัฐบาล เร่งเครื่อง ทำตามคำสัญญา


หากรัฐบาลปู 1 เร่งเครื่องผลักดันการแก้รัฐธรรมนูญ หรือแก้กฎหมายนิรโทษกรรม พ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อไหร่ เชื่อแน่ว่าความวุ่นวายจะหวนกลับคืนมาอีกครั้ง เพราะมีม็อบประกาศจองกฐินไว้ล่วงหน้าเอาไว้แล้ว ดังนั้นก็อยู่ที่รัฐบาลเพื่อไทย จะตัดสินใจอย่างไรต่อไป

จากนี้ไป จะตั้งหน้าตั้งตาทำงานตามไฟต์บังคับอย่างเดียว หรือจะท้าทายสังคมด้วยการเร่งช่วยพี่ชายนายกรัฐมนตรีหญิง ควบคู่ไปด้วย หากเป็นอย่างหลัง ประเทศก็เสี่ยงเกิดความรุนแรงอย่างที่เคยเป็นมาอีกครั้ง ทั้งหมดจึงอยู่ที่ "ยิ่งลักษณ์" และ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าจะเลือกแบบไหน...