กกต.เตือนประชาชน หากโพสต์ข้อความลงเว็บไซต์ในเชิงลักษณะเชียร์ผู้สมัคร หรือเชิญชวนให้เลือกพรรคใดพรรคหนึ่ง หลังเวลา 18.00 น. ของวันที่ 2 ก.ค. จะเข้าข่ายความผิด มีโทษถึงขั้นจำคุกได้ แต่ถ้าหากโพสต์ข้อความในลักษณะเชิญชวนให้เพื่อน ญาติพี่น้องที่รู้จัก ออกไปใช้สิทธิ สามารถทำได้ ไม่ผิดกฎหมาย...
นับถอยหลังเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้าย กับการเลือกตั้งปี 54 ที่พรรคการเมืองแต่ละพรรค ต่างงัดกลยุทธ์ต่าง ๆ ออกมาใช้หาเสียง เรียกคะแนนจากพี่น้องประชาชน ผ่านช่องทางการสื่อสารทุกรูปแบบ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า สื่ออินเทอร์เน็ต ได้เข้ามามีบทบาทในการเลือกตั้ง ชี้ชะตาประเทศไทย โดยสังเกตได้จากแต่ละพรรคการเมือง มีการนำเอารูปแบบการหาเสียง รวมทั้งช่องทางการสื่อสาร เพื่อติดต่อกับประชาชน เพียงแค่คลิกเดียว ทั้งเฟซบุ๊ค ทวิตเตอร์ เริ่มจากฟากฝั่งของรักษาการนายกฯ รูปหล่อ จากค่ายพระแม่ธรณี อย่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งทุกวันนี้ได้มีการโพสต์ข้อความลงใน เฟซบุ๊ก เรียกได้ว่า เป็นมหากาพย์ แบ่งเนื้อเรื่องเป็นฉาก ๆ เล่าเหตุการณ์ที่ผ่านมา ทั้งเปิดใจ ทั้งตอบโต้ ขอคะแนนพ่อยกแม่ยก กองเชียร์ ช่วยเทคะแนนให้พรรค พุ่งไปถึงฝั่งฝัน จัดตั้งรัฐบาลบริหารแผ่นดินได้ต่อไป ตามสโลแกน เดินหน้าต่อไป ด้านลูกพรรคก็ไม่น้อยหน้า นำโดยหล่อกลางอย่างนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ได้มีการพัฒนาเว็บไซต์ของพรรคประชาธิปัตย์ให้อินเทรน เอาใจแฟนคลับวัยรุ่น วัยทำงาน ให้เข้าถึงนโยบายของพรรค เพิ่มช่องทางการพูดคุยได้อย่างง่ายดาย
ข้ามฝั่งมาดูตัวเต็งอันดับ 1 จากผลโพลเกือบทุกสำนัก อย่างพรรคเพื่อไทย ค่ายนายใหญ่แห่งเมืองดูไบ ที่ส่งน้องสาวแสนสวยลง มาประชันกับหัวหน้าพรรครูปหล่อคู่ท้าทายฝ่ายตรงข้ามอย่างไม่เคอะเขิน งานนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯ ได้พักงานเดินสายตากแดด ตากฝน เปลี่ยนบรรยากาศมาพบปะกับแฟนคลับในโซเชียลมีเดีย สร้างความเป็นกันเองให้กับแฟนเพจ ได้เข้าถึงแคนดิเดตนายกฯ หญิงคนแรกของประเทศไทย สลับกับลูกพรรคที่รับไม้ต่อ อย่างนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล นำทีมผู้สมัคร เจาะตลาดคนรุ่นใหม่ ด้วยการเปิดตัวนโยบายมอบแท็บเล็ตพีซีให้กับนักเรียนทันทีที่ได้เป็นรัฐบาล
...
อย่างไรก็ตาม กวาดสายตา กลยุทธ์ของพรรครองลงมา ก็มีการใช้ช่องทางอินเทอร์ในการสื่อสารกับพี่น้องประชาชนบนโลกออนไลน์เช่นกัน แต่ที่สำคัญค่ำคืนของวันที่ 2 ก.ค. ที่จะถึง ตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป ซึ่งทางสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้สั่งให้ทุกพรรคการเมือง รวมทั้งตัวผู้สมัคร งดการหาเสียงทุกช่องทาง รวมทั้งสื่ออินเตอร์ในโลกไซเบอร์ ทั้งเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ เป็นสิ่งที่พรรการเมืองทราบเป็นอย่างดี แต่สำหรับประชาชนทั่วไปจะทำอะไรได้บ้างบนโลกไซเบอร์นั้น นายประพันธ์ นัยโกวิท กรรมการการเลือกตั้ง ด้านบริหารงานเลือกตั้ง ได้เปิดเผยผ่านไทยรัฐออนไลน์ ว่า ในวันที่ 2 ก.ค. หลังจากเวลา 18.00 น. เป็นต้นไป ทุกพรรคการเมืองต้องหยุดกิจกรรมการหาเสียงทุกวิธี รวมทั้งการใช้สื่ออินเทอร์เน็ต มิเช่นนั้นจะเข้าข่ายความผิดทันที และ ยังขอเตือนประชาชนผู้ที่ยังไม่ทราบ หากมีการโพสต์ข้อความ ลงไปในเว็บไซต์ต่าง ๆ ในเชิงลักษณะที่มีการเชียร์ผู้สมัคร หรือเชิญชวนให้เลือกพรรคใดพรรคหนึ่ง หลังเวลา 18.00 น. จะเข้าข่ายความผิดด้วยเช่นกัน มีโทษถึงขั้นจำคุกได้ แต่ถ้าหากโพสต์ข้อความในลักษณะเชิญชวนให้เพื่อน ญาติพี่น้องที่รู้จัก ออกไปใช้สิทธิ์ ใช้เสียง ในการเลือกตั้ง ก็เป็นสิ่งที่สามารถทำได้ ไม่ผิดกฎหมาย
ส่วนการกลั่นแกล้งโดยการนำล็อกอิน หรือชื่อของผู้อื่น ไปโพสต์ข้อความอันเข้าข่ายเชียร์พรรคการเมือง ในกรณีนี้นายประพันธ์ กล่าวต่อว่า ขอให้ผู้ที่มีความคิดแบบนี้พึงระวัง เพราะทางเจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบที่มาของข้อความเหล่านี้ได้ และยังสามารถสืบหาต้นตอของแหล่งที่มา ดังนั้นขอเตือนประชาชนให้อยู่ในกรอบของกฎหมาย อย่าทำด้วยความสนุกหรือความคึกคะนอง มิเช่นนั้นอาจถูกดำเนินคดีได้ อย่างไรก็ตามขอให้มีการโพสต์ข้อความในแนวสร้างสรรค์ เชิญชวนกันออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง อย่านอนหลับทับสิทธิ์ หวังว่าการเลือกตั้งครั้งจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทำให้ประชาชนยอมรับ
ฟังจากคำพูดของ 1 ใน 5 เสือ กกต. แล้ว ประชาชนในโลกไซเบอร์ ทั้งเหล่าสาวก ทวิตเตอร์ เฟซบุ๊ก ต่างๆ ก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย อย่าใช้ความคึกคะนอง หรือ ทำไปด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ อาจจะทำให้ท่านติดคุก ติดตารางได้ จะเชียร์กันได้อีกทีก็หลังเที่ยงคืนของวันที่ 3 ก.ค. (เข้าสู่วันที่ 4 ก.ค.) ถึงจะเชียร์กันออกนอกหน้านอกตาได้
อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 3 ก.ค. ที่จะถึง อย่าลืมเดินทางออกไปใช้สิทธิใช้เสียง ตามหน้าที่ของประชาชน เลือกคนที่รัก เลือกพรรคที่ชอบ เพื่อจะได้ ส.ส.ที่มีคุณภาพเข้ามาบริหารบ้านเมืองให้กับประชาชนต่อไป