'อภิสิทธิ์' เปิดใจผ่านเฟซบุ๊ก ยันไม่ได้ "ดีแต่พูด" มั่นใจที่ผ่านมา ทำงานจริง ชี้ฝ่ายตรงข้ามใช้เป็นวาทกรรมหวังสร้างกระแส เหน็บ "ทักษิณ" ถ้าดีแต่พูด แปลว่าพูดแล้วทำไม่ได้ นโยบายค่าแรง 300บาท ซื้อคอมพิวเตอร์แจกเด็ก เข้าข่ายหรือไม่...

19 มิ.ย.  นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดใจครั้งที่ 5 ผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า นอกจากเรื่อง 91 ศพแล้ว วาทกรรมที่ฝ่ายตรงข้ามผม สร้างขึ้นเพื่อเป็นกระแสก็คือ “ดีแต่พูด” ผมเข้าใจดีว่านี่คือกลยุทธของฝ่ายตรงข้าม เพราะนอกจากจะพยายามปิดกั้นไม่ให้ผมลงพื้นที่หลายแห่งแล้ว ก็ไม่ต้องการให้ผมสื่อสารกับประชาชน หาทางลดความเชื่อถือของการให้ความจริงและการใช้เหตุผลของผม อธิบายถึงปัญหา แนวคิด นโยบาย และผลงานของรัฐบาล

โดยกระบวนการนี้ เริ่มจากการให้คนเสื้อแดงไปชูป้ายในงานวันแรงงาน ที่องค์กรเอกชนจัดขึ้น เพื่อให้ส.ส.เพื่อไทยเอาไปขยายผลในสภา และการสร้างกระแส  ผมเองก็หวังว่าผู้เกี่ยวข้องและประชาชนจะมองทะลุกลยุทธ์นี้ และมองเห็นความเป็นจริง เพราะที่จริงวันที่เขาเชิญผมไปร่วมงานก็เพราะรัฐบาลนี้ “ทำจริง” ในเรื่องแรงงานมาตลอด 2 ปีกว่า ทั้งเพิ่มสิทธิประโยชน์ในระบบประกันสังคม เปิดโอกาสให้แรงงานนอกระบบเข้ามาสู่ประกันสังคม แก้กฎกระทรวงให้รับคนพิการเข้าทำงานมากขึ้น รวมทั้งเตรียมปฏิรูประบบประกันสังคมและค่าจ้างที่มีการเพิ่มขึ้นไปแล้ว และจะขึ้นต่อไป รวมไปถึงการประกาศค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือแรงงานเป็นครั้งแรก

"ผมเขียนเรื่องนี้ระหว่างเดินทางกลับจากอินโดนีเซีย เพราะไทยได้รับความไว้วางใจจาก World Economic Forum ให้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม WEF ในเอเชียตะวันออกในปีหน้า เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ถือเป็นรูปธรรมในการฟื้นความเชื่อมั่นของประเทศ หลังจากสภาวะรัฐล้มเหลว เมื่อผมเข้ามา และหลังจากที่มีคนทำลายภาพลักษณ์ของประเทศด้วยการล้มประชุมอาเซียนและเผา บ้านเผาเมือง ระหว่างที่เดินทางมาครั้งนี้ ผู้นำทั้งภาคธุรกิจและการเมืองต่างยอมรับถึงความสำเร็จของการบริหารเศรษฐกิจ ไทยในเวลา 2ปี เปลี่ยนการหดตัวทางเศรษฐกิจมาเป็นการขยายตัวเกือบ 8%สูงเป็นอันดับที่ 2ของอาเซียน เปลี่ยนการส่งออก ท่องเที่ยวที่ติดลบ เป็นการส่งออกและท่องเที่ยวที่ระดับสูงเป็นประวัติการณ์ ผ่านวิกฤติเศรษฐกิจมาได้โดยคนไม่ตกงานเป็นล้าน แต่ตอนนี้อัตราการว่างงานไม่ถึง 1%ต่ำที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง รักษาเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับต่ำ ขณะที่ในประเทศเพื่อนบ้านบางแห่งขึ้นไปเกือบ 30% ไม่ได้สร้างภาระหนี้ในประเทศ ตรงกันข้ามกับวาทกรรมว่า “เก่งแต่กู้” เพราะหนี้สาธารณะ/รายได้ประเทศ กำลังลดลงมาอยู่ระดับต่ำกว่า 40%ต่ำกว่าปลายรัฐบาลทักษิณด้วยซ้ำ" นายอภิสิทธิ์ กล่าว

...

นายอภิสิทธิ์ ระบุอีกว่า ถ้าไม่ต้องทำงาน ดีแต่พูด แล้วทำสิ่งเหล่านี้ได้ ชีวิตผมคงสบายกว่านี้มาก ผมยังแปลกใจว่า ถ้าคำว่าดีแต่พูด แปลว่าพูดแล้วไม่ทำ คนที่มากล่าวหาผม กล้าดีอย่างไร บริหารประเทศมา 6 ปี ไม่เคยสนใจเรื่องเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ แต่ภายใน 99 วัน นับตั้งแต่ผมทำงาน ผมให้เบี้ยยังชีพไปถึงผู้สูงอายุถ้วนหน้า บริหารประเทศมา 6 ปี ไม่เอาจริงเรื่องเรียนฟรี แต่ภายใน 99 วัน ผมมีเงินส่งถึงมือผู้ปกครองเป็นค่าเครื่องแบบนักเรียน อุปกรณ์การเรียน และตำราเรียน บริหารประเทศมา 6 ปี ไม่ให้ค่าตอบแทนอสม. แต่ผมมาดำเนินการใน 99 วัน ทั้งๆ ที่นโยบายเหล่านี้นักการเมืองแทบทุกพรรค “พูด” มาช้านาน

แต่ถ้าดีแต่พูด แปลว่า พูดแล้วทำไม่ได้ โครงการ Elite Card (ที่ว่าจะหาเงิน 1 ล้านล้านบาท) ค้าปลีกเข้มแข็ง SPV วัวล้านตัว ฯลฯ ที่ล้มเหลว เข้าข่ายไหม เหมือนกับที่พูดว่าจะขึ้นค่าแรง 300 บาท ทันทีทั่วประเทศ ไม่สนใจว่าธุรกิจจะอยู่ได้ไหม หรือจะใช้เงินเป็นแสนล้านเพื่อซื้อคอมพิวเตอร์แจกเด็กคนละเครื่องโดยไม่ขึ้นภาษี  ไม่กู้เพิ่ม หวังว่าประเทศนี้จะไม่ต้องพิสูจน์ว่า “ดีแต่พูด” แน่นอน

"และถ้าหากว่าดีแต่พูด แปลว่า พูดแล้วไม่ทำ ใครล่ะที่หลอกพี่น้องเสื้อแดงว่า ให้มาชุมนุมเยอะๆ เสียงปืนดังขึ้นเมื่อไหร่ จะมายืนแถวหน้า แต่กลับไปช้อปปิ้งอยู่ปารีส แต่ก็มีหลายคนที่ผมเสียดายว่า ไม่ดีแต่พูด แต่ทำจริง พวกที่ประกาศล่วงหน้าให้มา “เผา” ไงครับ" หัวหน้าพรรคปชป. กล่าว