เด็ก“อัศวิน”แจงนายไม่ได้จัดฉากจับมือวางบึมพธม.

เด็ก“อัศวิน”แจงนายไม่ได้จัดฉากจับมือวางบึม พธม. ยังไม่รู้ใครจ้างมา ปัดอาวุธไม่มีใช้ในกองทัพ เผย “ธวัชชัย” เอี่ยวก่อการร้ายหลายคดี สน.ดุสิต ยังไม่ตั้งข้อหาผู้ก่อการร้าย...

เมื่อเวลา 09.30 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร โดยมี พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย เป็นประธาน เพื่อพิจารณาศึกษาข้อเท็จจริงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจพบวัตถุระเบิดใกล้สะพานมัฆวานรังสรรค์ และขยายผลการจับกุม พบเครื่องกระสุนและวัตถุระเบิดที่เป็นอาวุธสงครามจำนวนมาก เมื่อวันที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยเชิญ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ที่ปรึกษาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สบ.10) มาชี้แจง แต่มอบหมายให้ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 เข้าชี้แจงแทน 

ทั้งนี้ พ.ต.ท.สมชาย ได้ซักถามว่า เรื่องดังกล่าวเป็นมาอย่างไร จริงหรือไม่ที่มีการ์ดพันธมิตรฯไปพบผู้ต้องสงสัยด้วย และผลสอบสวนพบว่าวัตถุระเบิดที่จับได้ มาจากกองทัพหรือไม่ และผู้ต้องหาเชื่อมโยงกับคนกลุ่มใด พล.ต.ต.สุวัฒน์ ชี้แจงว่า ที่จับกลุ่มผู้ต้องสงสัยได้ ไม่ใช่การ์ดของกลุ่มพันธมิตรฯไปพบ แต่อาจมีการ์ดพันธมิตรฯเข้ามามุงดู การจับกุมดังกล่าวได้แบ่งเป็น 2 คดี ส่งสน.ดุสิต และสน.บางมด โดยที่สน.ดุสิต ผู้ต้องหาชื่อนายธวัชชัย หรือดำ เอี่ยมนาค จับกุมได้บริเวณสวนมิสกวัน พบของกลางเป็นระเบิดแสวงเครื่อง 2 ลูก ระเบิดแสง (Flashbang) ต่อวงจรด้วยโทรศัพท์ และยึดรถมอเตอร์ไซค์ไว้

ในส่วนของ สน.บางมด เจ้าหน้าที่ได้ขยายผลจากการจับกุมนายธวัชชัย จนเข้าจับกุม นายดอน มาตา และพวกอีก 3 คน ที่นำวัตถุระเบิดจำนวนมากไปซุกซ่อนไว้ในห้องเก็บของในตลาดนัด อาทิ เครื่องยิงอาร์พีจี 1 เครื่อง ลูกอาร์พีจี 3 ลูก และเครื่องยิงดินขับชนวน 4 ชุดกระสุนซ้อมยิง 2 นัด ลูกระเบิดยิงขนาด 40 ม.ม. ใช้กับเครื่องยิงเอ็ม 79 จำนวน 34 นัด เป็นแบบลูกปราย 3 นัด แบบเจาะเกราะ 4 นัด และแบบสังหาร 27 นัด เครื่องกระสุนขนาด 7.62 ม.ม. จำนวน 23 นัด เครื่องกระสุนขนาด 5.56 ม.ม. จำนวน 115 นัด เครื่องกระสุนแบบเอ็ม 60 จำนวน 65 นัด เครื่องกระสุนปืนคาร์บิน 117 นัด 

พล.ต.ต.สุวัฒน์ กล่าวต่อว่า การสอบสวนทราบว่านายธวัชชัย เคยเข้าไปชุมนุมทำกิจกรรมการเมืองกับคนบางกลุ่ม ไม่สามารถบอกได้ว่ากลุ่มไหน ส่วนนายดอน ปฏิเสธการเป็นเจ้าของวัตถุระเบิด แต่ยอมรับว่าเป็นผู้ครอบครอง โดยเพื่อนนำมาฝากไว้ ส่วนอีก 3 คนที่เหลือยอมรับว่าเคยไปชุมนุมกิจกรรมกับคนบางกลุ่ม โดยระบุว่านายธวัชชัยและนายดอน เป็นผู้ชวนมาดูของและนายนพคุณ ศรีวงศ์มงคล เป็นผู้ดูแลตลาดสินทวี นายดอน จึงบอกว่าเอาของไปเก็บไว้ได้หรือไม่

นอกจากนี้ในประวัติยังพบว่า นายธวัชชัย เคยถูกจับข้อหาปล้นรถแท็กซี่ และถูกปล่อยมาเมื่อปี 2548 และมีความเกี่ยวพันกับหลายเหตุการณ์ไม่สงบ โดยวัตถุระเบิดที่ยึดได้มีข้อมูลว่าเชื่อมโยงและตรงในหลายเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว ส่วนคนอื่นไม่มีประวัติการถูกจับกุม ส่วนเรื่องทางการเมืองไม่ขอก้าวล่วง แต่ไม่อยากให้มีผู้คนบาดเจ็บล้มตาย และพยายามใช้ทุกวิธีทุกมาตรการในการจับกุม 

พล.ต.ต.สุวัฒน์ กล่าวว่า จากผลการจับกุมในลักษณะดังกล่าว จะทำงานเป็นกลุ่มย่อยๆจำนวนมาก ซึ่งอันตรายมากต่อประเทศถ้าเกิดมีการขยายตัวทางความคิด เป็นปัญหาจากความเชื่อทางการเมือง ก็ควรระงับด้วยความเชื่อทางการเมือง ตำรวจเป็นผู้ปฏิบัติ ต้องคิดว่าทำอย่างไรถึงจะใช้ความรุนแรงให้น้อยที่สุด คนลักษณะนี้บางกลุ่มเชื่อมโยงกันทางแนวความคิดหลวมๆ บางกลุ่มประสานงาน บางกลุ่มช่วยเหลือวางแผนร่วมกันซึ่งมีจำนวนมาก ส่วนอาวุธที่จับได้ในกรณีนี้ เบื้องต้นไม่น่าจะเป็นของที่มาจากกองทัพ โดยระเบิดแสวงเครื่องผลิตในประเทศคอมมิวนิสต์ ไม่มีใช้ในกองทัพไทย คาดว่าคงมาจากชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน ผู้ต้องหาที่จับได้ชุดหลัง เขายิงอะไรไม่เป็นสักคน จึงเป็นภาพส่วนหนึ่งของจิ๊กซอร์ขนาดใหญ่ ความคิดที่จะไปเปลี่ยนแปลงการเมือง พวกเขาคงได้รับการบอก การปลูกฝังมาจากคนที่เป็นหัวหน้าขบวน ผู้ต้องหามีวุฒิภาวะไม่มาก สมมติมีคนกลุ่มหนึ่งบอกเขาว่ามีความคิดเหมือนเขา แล้วบอกให้เขาไปทำ ซึ่งคนนั้นอาจไม่คิดเหมือนเขาก็ได้ มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนกระทบหลายฝ่าย จึงพูดได้เท่าที่พูด เราเป็นตำรวจจริงๆไม่มีการเมือง ไม่หวังผลอะไร ผู้บังคับบัญชาให้ทำอะไรก็ทำ ลูกน้องตนที่ทำคดีนี้ไม่มีใครทำคดีนี้แล้วได้ดิบได้ดี ไปดูคำสั่งได้เลยมีแต่ทรงตัวกับแย่ลง 

จากนั้นกรรมาธิการฯหลายคนได้ตั้งคำถาม ว่ามีการตั้งข้อหาอย่างไร เรื่องทั้งหมดเป็นการจัดฉากจริงหรือไม่ โดย พ.ต.ท.สมชายกล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นมีบางคนมองว่าคนที่ถูกจับเป็นคนเสื้อแดง แต่ถ้าคนที่ทำไม่ใช่คนเสื้อแดง เจ้าหน้าที่ก็ต้องให้ความเป็นธรรม ต้องให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ต้องจับคนผิดมาลงโทษ และต้องบอกสังคมอย่างตรงไปตรงมาว่าเกิดอะไรขึ้น

ขณะที่ พล.อ.พิชาญเมธ ม่วงมณี ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการฯ ซักถามว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองหรือไม่ เพราะถ้าหากซุ่มยิงในขณะที่แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯขึ้นเวที จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองขึ้น  พล.ต.ต.สุวัฒน์กล่าวว่า ขอชี้แจงแทน พล.ต.อ.อัศวิน ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้จัดฉาก แต่หากจะให้ตนสรุปว่าจัดฉากหรือไม่ เรื่องนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนไม่สามารถฟันธงได้ ต้องรอหลักฐานว่ามีใครจ้างมาเพื่อให้ถูกจับหรือไม่ แต่ข้อมูลอยู่ในใจแล้ว กำลังทำแยกแยะเพื่อให้เกิดความกระจ่าง ตอบไม่ได้ว่าจะเสร็จเมื่อไหร่

ส่วนการตั้งข้อหาคือ มีอาวุธไม่มีทะเบียนในครอบครอง ซึ่งมีโทษจำคุกตลอดชีวิต แต่ไม่ถึงขนาดว่าต้องตั้งข้อหาก่อการร้าย และขณะนี้ทุกคนอยู่ในเรือนจำ สามารถประกันตัวได้ แต่ตนไม่ทราบว่าทั้งหมดได้ขอประกันตัวหรือไม่

ขณะเดียวกัน พ.ต.ท.ทินกร สมวันดี รองผกก.สส. สน.ดุสิต ชี้แจงว่า การจะตั้งข้อหาก่อการร้ายได้ ต้องมีองค์ประกอบที่เข้าข่ายความผิด อาทิ ต้องมีพยานหลักฐานสมควรก่อนว่าพวกเขาก่อการร้ายโดยใช้กำลังทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงทำให้ระบบขนส่งสาธารณะเสียหาย หรือทำลายทรัพย์สิน เป็นอันตรายต่อประเทศชาติ หรือใช้วัตถุขู่รัฐบาล ซึ่งตรงนี้ผู้ต้องหาทั้งหมดยังไม่ได้ทำถึงขั้นนั้น ยังไม่มีหลักฐานพิสูจน์ได้