ศ.ดร.สมคิด เลิศไพฑรูย์ รองอธิการบดีฝ่ายการคลัง มธ. ได้รับเลือกเป็นอธิการบดี มธ.คนใหม่ แทน ศ.ดร.สุรพล นิติไกรพจน์ ที่หมดวาระ ...........
เมื่อเวลา 15.35น. วันที่ 18 ต.ค.ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ สภามหาวิทยาลัย มธ.ได้มีการประชุมเพื่อคัดเลือกอธิการบดีคนใหม่ แทน ศ.ดร.สุรพล นิติไกรพจน์ ซึ่งจะหมดวาระลงในวันที่ 25 ต.ค. โดยสภามหาวิทยาลัยพิจารณารายชื่อตามที่คณะกรรมการสรรหาเสนอ ได้แก่ ศ.ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ รองอธิการบดีฝ่ายการคลัง และ ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัตน์ อาจารย์คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี
ทั้งนี้ นายวิทวัส ศตสุข อาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ มธ.ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการสรรหาอธิการบดี มธ. เผยภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมสภามหาวิทยาลัย ได้ให้ผู้ได้รับการเสนอชื่อทั้ง 2 คน เสนอแนวทางการบริหารมหาวิทยาลัยและตอบข้อซักถาม จากนั้นเป็นการลงคะแนนลับ ซึ่งผลปรากฏว่านายสมคิด ได้รับเลือกเป็นอธิการบดีคนใหม่ ด้วยคะแนนเสียง 25 คะแนน ต่อ 5 คะแนน จากนี้สภามหาวิทยาลัยจะนำรายชื่อนายสมคิด เสนอต่อสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ ต่อไป
ด้าน ศ.ดร.สมคิด กล่าวว่า ตนจะดำเนินการตามที่ได้แถลงไว้กับกรรมการสภามหาวิทยาลัยและประชาคม 2 เรื่องหลักคือ การสร้างจิตวิญญาณของคนธรรมศาสตร์ โดยดึงมธ.กลับมาที่จุดเริ่มต้นในการเป็นมหาวิทยาลัยเพื่อประชาชน ส่งเสริมให้นักศึกษาทำกิจกรรมร่วมกับชุมชนให้มากขึ้น โดยเริ่มจากโครงการ 1 มหาวิทยาลัย 1 จังหวัด และการสนับสนุนให้อาจารย์ทำวิจัยให้มากขึ้น ซึ่งปัญหาไม่ได้อยู่ที่งบฯวิจัยเพราะมธ.มีงบฯวิจัยปีละ 600 กว่าล้าน ทั้งงบฯที่หาได้เองกับงบฯที่รัฐสนับสนุน แต่อยู่ที่อาจารย์มไค่อยทำงานวิจัย โดยอาจารย์มธ.มี 1,700 คน ทำวิจัยเพียง 20% เท่านั้น
...
ทั้งนี้ตนจะเริ่มงานในฐานะรักษาการอธิการบดี มธ.ตั้งแต่วันที่ 26 ต.ค.นี้เป็นต้นไป ต่อข้อถามถึงการนำมธ.ออกนอกระบบนั้น ว่าที่อธิการบดีมธ.คนใหม่ กล่าวว่า ส่วนตัวแล้วอยากให้มธ.ออกนอกระบบราชการ เพราะทำให้การบริการงานคล่องตัวมากขึ้น แต่ก็ต้องสร้างความเข้าใจกับประชาคมมธ. โดยเฉพาะการออกนอกระบบไม่ใช่การแสวงหากำไร ซึ่งคนส่วนใหญ่มีความกลัวว่าหากมหาวิทยาลัยออกนอกระบบแล้วจะทำให้ค่าเทอมสูง ขึ้น ซึ่งไม่เป็นความจริง ตนคิดว่าจะทำให้ผลประโยชน์ส่วนใหญ่อยู่ที่นักศึกษา เพราะมหาวิทยาลัยจะมีระบบตรวจสอบการทำงานของอาจารย์ที่เข้มข้นมากขึ้น อย่างไรก็ตามขณะนี้ร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว รอเข้าที่ประชุมครม. หากได้รับความเห็นชอบก็นำเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรได้ทันที ซึ่งขณะนี้ก็ถือว่ามธ.ออกนอกระบบช้าเกินไปแล้ว