บิ๊กบัง” เบี้ยวงานเสวนา “ 4 ปี ปฏิรูปกองทัพไทย” นักวิชาการรุมสับ 4 ปี รัฐประหาร ส่งผลกองทัพล้มเหลว ร่อแร่ ร่องแร่ง ซัดเป็นต้นเหตทำประเทศล้มเหลว ทหารแตกแยกกันเอง.....

เมื่อวันที่ 19 ก.ย.ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย มีการจัดเสวนา “19 กันยา 4 ปี กับการปฏิรูปกองทัพไทย” ซึ่งเดิมได้เชิญ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธาน คมช.และอดีตรองนายกรัฐมนตรี มาร่วมเสวนา แต่ปรากฏว่า เมื่อถึงเวลาเสวนา พล.อ.สนธิ ได้แจ้งยกเลิกการเสวนากะทันหัน โดยอ้างว่า ไม่สามารถเดินทางมาได้ เนื่องจากอยู่ไกล

โดย พล.อ.เอกชัย ศรีวิลาศ ผอ.สำนักสันติวิธีและธรรมาภิบาล สถาบันพระปกเกล้า กล่าวเสวนาตอนหนึ่งว่า 4 ปีที่ผ่านมา มีการเปลี่ยนแปลงในกองทัพมาก เพราะได้ทั้ง พ.ร.บ.ความมั่นคง และ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทำให้กองทัพปั่นป่วน ต้องมาเผชิญหน้ากับประชาชน ทั้งที่ไม่อยากทำ และผลพวงจากการรัฐประหารวันที่ 19 ก.ย. 2549 ทำให้ทหารเข้ามายุ่งเกี่ยวการเมือง โดยเข้ามาอยู่ในระบบรัฐสภา องค์กรอิสระมากขึ้น นอกจากนี้ความขัดแย้งในกองทัพแผ่ขยายออกไป แม้กระทั่งในรุ่นเดียวกัน ก็ยังมีความขัดแย้งกันเอง หากในอนาคตไม่สร้างระบบธรรมาภิบาลในกองทัพ ความขัดแย้งในรุ่นเดียวกันจะเพิ่มมากขึ้น ช่วง 4 ปีที่ผ่านมากองทัพมีแต่แย่ลง จึงต้องสังคายนาบุคคล อาวุธ และระบบส่งกำลังบำรุง เพราะในอนาคต บทบาทของทหารจะมีมากขึ้น ไม่ใช่แต่งานด้านความมั่นคงตามแนวชายแดนเพียงอย่างเดียว ส่วนที่มองว่า ทหารจะเป็นทหารอาชีพนั้น เลิกฝันได้เลย เมื่อทหารใกล้ชิดนักการเมืองมาก จะมีรอยร้าวเกิดขึ้นตลอด เกิดความระแวงระหว่างกัน ถือว่า อันตรายมาก

ด้าน น.ส.ชลิดาภรณ์ ส่งสัมพันธ์ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ กล่าวว่า การแบ่งเป็นกลุ่มในกองทัพ ชิงอำนาจกันเองในสังคมมีมานานแล้ว แต่ 3 ปีที่ผ่านมา การแย่งชิงของกองทัพ ทำให้กระทบกับประชาชน ที่ผ่านมากองทัพมีบทบาทใช้ความรุนแรงกับการประท้วง ซึ่งข้อมูลจากคณะทำงานยุทธศาสตร์สันติวิธี พบว่า ตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค.-19 พ.ค.2553 มีการใช้ความรุนแรง 408 ครั้ง ซึ่ง 56% เป็นฝีมือของกองกำลังไม่ทราบฝ่าย หรือชายชุดดำ และจำนวนผู้เสียชีวิต 16 คน จาก 91 คน มาจากกองกำลังไม่ทราบฝ่าย จนถึงวันนี้ก็ยังไม่รู้ว่า กองกำลังไม่ทราบฝ่ายคือใคร แต่ไม่ใช่คนธรรมดา เพราะมีกองกำลังใช้อาวุธได้เหมือนกองทัพ ถ้ากองกำลังไม่ทราบฝ่ายเป็นผลจากการแยกฝ่ายในกองทัพ ประชาชนก็จะได้รับผลกระทบอีกมาก

ขณะที่ นายสุรชาติ บำรุงสุข อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า คนไทยหวังว่า การรัฐประหารวันที่ 19 ก.ย.2549 จะช่วยล้มกระดานทางการเมือง ทำให้การเมืองมีเสถียรภาพ แต่ปรากฏการณ์ดังกล่าวไม่เกิดขึ้น มิหนำซ้ำยังเกิดการต่อต้านรัฐประหารอย่างมากในกลุ่มชนชั้นล่าง และกลายเป็นความแตกแยกของคนในสังคมต่อมา เมื่อการรัฐประหารแก้ไขปัญหาอะไรไม่ได้ จึงเกิดตุลาการภิวัฒน์ และการทุจริตแพร่ขยาย สังคมแตกแยก ความขัดแย้งในกองทัพเพิ่มมากขึ้น ต้องยอมรับว่า การรัฐประหารส่งผลกระทบต่อการเลื่อนยศ แต่งตั้งโยกย้ายถึง 10 ปี สังคมไทยวันนี้ เป็นการเผาบ้านไล่หนู และยังก้าวไม่พ้น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี วันนั้นเราคิดพียงแค่ไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ เท่านั้น สรุปแล้ว 4 ปื ที่ผ่านมาของกองทัพไทย มีแต่ล้มเหลว ร่อแร่ และร่องแร่ง.

...